Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
1 พงศาวดาร 1-2

เชื้อสายจากอาดัมจนถึงอับราฮัม

อาดัม เสท เอโนช เคนัน มาหะลาเลล ยาเรด เอโนค เมธูเสลาห์ ลาเมค โนอาห์ เชม ฮาม ยาเฟท

ยาเฟทมีบุตรชื่อ โกเมอร์ มาโกก มาดัย ยาวาน ทูบัล เมเชค และทิราส โกเมอร์มีบุตรชื่อ อัชเคนัส รีฟาท และโทการ์มาห์ ยาวานมีบุตรชื่อ เอลีชาห์ ทาร์ชิช คิทธิม และโรดานิม

ฮามมีบุตรชื่อ คูช อียิปต์ พูต และคานาอัน คูชมีบุตรชื่อ เส-บา ฮาวิลาห์ สับทาห์ ราอามาห์ และสับเท-คา ราอามาห์มีบุตรชื่อ เช-บา และเดดาน 10 คูชเป็นบิดาของนิมโรดซึ่งเป็นนักรบผู้เก่งกล้าคนแรกในแผ่นดินโลก

11 อียิปต์เป็นบิดาของชาวลูด อานาม เลหาบ นัฟทูฮ์ 12 ปัทรุส คัสลูฮ์ (ต้นกำเนิดของชาวฟีลิสเตีย) และชาวคัฟโทร์

13 คานาอันเป็นบิดาของไซดอนผู้เป็นบุตรหัวปี คนต่อไปชื่อเฮท 14 ชาวเยบุส ชาวอาโมร์ ชาวเกอร์กาช 15 ชาวฮีว ชาวอาร์คี ชาวสินี 16 ชาวอาร์วัด ชาวเศมาร์ และชาวฮามัท

17 เชมมีบุตรชื่อ เอลาม อัชชูร์ อาร์ปัคชาด ลูด และอารัม และอารัมมีบุตรชื่อ อูส ฮูล เกเธอร์ และเมเชค 18 อาร์ปัคชาดเป็นบิดาของเชลาห์ และเชลาห์มีบุตรชื่อเอเบอร์ 19 เอเบอร์มีบุตร 2 คน คนหนึ่งชื่อเปเลก[a] เป็นเพราะว่าในสมัยของเขามีการแบ่งแยกดินแดนกัน และน้องชายของเขาชื่อ โยกทาน 20 โยกทานเป็นบิดาของอัลโมดัด เชเลฟ ฮาซาร์มาเวท เยราห์ 21 ฮาโดรัม อุซาล ดิคลาห์ 22 โอบาล อาบีมาเอล เช-บา 23 โอฟีร์ ฮาวิลาห์ โยบับ คนเหล่านี้เป็นบุตรของโยกทาน

24 เชม อาร์ปัคชาด เชลาห์ 25 เอเบอร์ เปเลก เรอู 26 เสรุก นาโฮร์ เทราห์ 27 อับราม คืออับราฮัม

เชื้อสายจากอับราฮัมจนถึงยาโคบ

28 อับราฮัมมีบุตรชื่อ อิสอัค และอิชมาเอล 29 ต่อไปนี้เป็นลำดับวงศ์ของอิชมาเอล เนบาโยทบุตรหัวปี เคดาร์ อัดบีเอล มิบสัม 30 มิชมา ดูมาห์ มัสสา ฮาดัด เท-มา 31 เยทูร์ นาฟิช และเคเดมาห์ คนเหล่านี้เป็นบุตรของอิชมาเอล 32 เคทูราห์ภรรยาน้อยของอับราฮัมมีบุตรชื่อ ศิมราน โยกชาน เมดาน มีเดียน อิชบาก และชูอัค โยกชานมีบุตรชื่อ เช-บา และเดดาน 33 มีเดียนมีบุตรชื่อ เอฟาห์ เอเฟอร์ ฮาโนค อาบีดา และเอลดาอาห์ คนเหล่านี้เป็นผู้สืบเชื้อสายของเคทูราห์

34 อับราฮัมเป็นบิดาของอิสอัค อิสอัคมีบุตรชื่อ เอซาว และอิสราเอล

35 เอซาวมีบุตรชื่อ เอลีฟัส เรอูเอล เยอูช ยาลาม และโคราห์ 36 เอลีฟัสมีบุตรชื่อ เทมาน โอมาร์ เศโฟ กาทาม และเคนัส บุตรที่เกิดจากนางทิมนาชื่อ อามาเลข 37 เรอูเอลมีบุตรชื่อ นาหัท เศรัค ชัมมาห์ และมิสซาห์

38 เสอีร์มีบุตรชื่อ โลทาน โชบาล ศิเบโอน อานาห์ ดีโชน เอเซอร์ และดีชาน 39 โลทานมีบุตรชื่อ โฮรี และเฮมาม น้องสาวของโลทานชื่อทิมนา 40 โชบาลมีบุตรชื่อ อัลวาน มานาฮาท เอบาล เชโฟ และโอนัม ศิเบโอนมีบุตรชื่อ อัยยาห์ และอานาห์ 41 บุตรของอานาห์ชื่อดีโชน ดีโชนมีบุตรชื่อ เฮมดาน เอชบาน อิธราน และเคราน 42 เอเซอร์มีบุตรชื่อ บิลฮาน ศาวาน และอาขาน ดีชานมีบุตรชื่อ อูส และอารัน

43 ก่อนที่จะมีกษัตริย์มาปกครองชาวอิสราเอล ก็มีบรรดากษัตริย์ที่ปกครองในดินแดนเอโดม ซึ่งมีชื่อดังต่อไปนี้ เบ-ลาบุตรของเบโอร์ เมืองของท่านชื่อ ดินฮาบาห์ 44 เมื่อเบ-ลาสิ้นชีวิต โยบับบุตรเศรัคแห่งโบสราห์ครองราชย์แทนท่าน 45 เมื่อโยบับสิ้นชีวิต หุชามแห่งดินแดนของชาวเทมานครองราชย์แทนท่าน 46 เมื่อหุชามสิ้นชีวิต ฮาดัดบุตรเบดัดซึ่งรบชนะมีเดียนในดินแดนโมอับครองราชย์แทนท่าน เมืองของท่านชื่อ อาวีท 47 เมื่อฮาดัดสิ้นชีวิต สัมลาห์แห่งมัสเรคาห์ครองราชย์แทนท่าน 48 เมื่อสัมลาห์สิ้นชีวิต ชาอูลแห่งเรโหโบทบนฝั่งแม่น้ำยูเฟรติสครองราชย์แทนท่าน 49 เมื่อชาอูลสิ้นชีวิต บาอัลฮานานบุตรของอัคโบร์ครองราชย์แทนท่าน 50 เมื่อบาอัลฮานานสิ้นชีวิต และฮาดาร์ครองราชย์แทนท่าน เมืองของท่านชื่อ ปาอู ภรรยาชื่อเมเหทาเบลบุตรหญิงของมัทเรดผู้เป็นบุตรหญิงของเมซาหับ 51 และต่อมาฮาดาร์ก็สิ้นชีวิต

บรรดาต้นตระกูลเอโดมคือ ทิมนา อัลวาห์ เยเธท 52 โอโฮลีบามาห์ เอลาห์ ปิโนน 53 เคนัส เทมาน มิบซาร์ 54 มักดีเอล และอิราม รายชื่อดังกล่าวเป็นบรรดาต้นตระกูลเอโดม

ลำดับเชื้อสายของดาวิด

อิสราเอลมีบุตรชื่อ รูเบน สิเมโอน เลวี ยูดาห์ อิสสาคาร์ และเศบูลุน ดาน โยเซฟ เบนยามิน นัฟทาลี กาด และอาเชอร์ ยูดาห์มีบุตรชื่อ เอร์ โอนัน และเชลาห์ บุตรหญิงของชูอาชาวคานาอันเป็นผู้ให้กำเนิดทั้ง 3 คนนี้ เอร์บุตรหัวปีของยูดาห์เป็นคนชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และพระองค์สังหารเขาเสีย บุตรที่ทามาร์บุตรสะใภ้ให้กำเนิดแก่เขาคือ เปเรศ[b] และเศรัค ยูดาห์มีบุตรทั้งหมด 5 คน

เปเรศมีบุตรชื่อ เฮสโรน และฮามูล เศรัคมีบุตร 5 คนชื่อ ศิมรี เอธาน เฮมาน คาลโคล์ และดารา อาคาร์[c]เป็นบุตรของคาร์มี อาคาร์นำปัญหามาให้อิสราเอลด้วยการยักยอกสิ่งที่ถูกถวายให้แล้ว เอธานมีบุตรชื่อ อาซาริยาห์

บุตรที่เกิดแก่เฮสโรนชื่อ เยราเมเอล ราม และเคลุบัย 10 รามเป็นบิดาของอัมมีนาดับ และอัมมีนาดับเป็นบิดาของนาโชน หัวหน้าของชาวยูดาห์ 11 นาโชนเป็นบิดาของสัลโมน สัลโมนเป็นบิดาของโบอาส 12 โบอาสเป็นบิดาของโอเบด[d] โอเบดเป็นบิดาของเจสซี 13 เจสซีเป็นบิดาของเอลีอับบุตรหัวปี อาบีนาดับคนที่สอง ชิเมอาคนที่สาม 14 เนธันเอลคนที่สี่ รัดดัยคนที่ห้า 15 โอเซมคนที่หก ดาวิดคนที่เจ็ด 16 พี่น้องผู้หญิงของพวกเขาชื่อ เศรุยาห์ และอาบีกายิล บุตร 3 คนของเศรุยาห์ชื่อ อาบีชัย โยอาบ[e] และอาสาเฮล 17 อาบีกายิลให้กำเนิดอามาสา และบิดาของอามาสาคือเยเธอร์ชาวอิชมาเอล

18 คาเลบบุตรของเฮสโรนมีภรรยา 2 คนชื่อ อาซูบาห์ และเยรีโอท อาซูบาห์มีบุตรชื่อ เยเชอร์ โชบับ และอาร์โดน 19 เมื่ออาซูบาห์สิ้นชีวิต คาเลบแต่งงานกับเอฟราธ และนางให้กำเนิดบุตรชื่อฮูร์ 20 ฮูร์เป็นบิดาของอุรี และอุรีเป็นบิดาของเบซาเลล

21 ต่อมาเฮสโรนได้บุตรหญิงของมาคีร์เป็นภรรยา มาคีร์เป็นบิดาของกิเลอาด เมื่อเขาแต่งงานกับนาง เขามีอายุ 60 ปี นางให้กำเนิดเสกุบ 22 เสกุบเป็นบิดาของยาอีร์ ยาอีร์ปกครอง 23 เมืองในแผ่นดินกิเลอาด 23 (แต่เกชูร์และอารัมยึดเมืองฮาวโวทยาอีร์[f] เคนาท และหมู่บ้าน 60 แห่ง) คนเหล่านี้เป็นผู้สืบเชื้อสายของมาคีร์บิดาของกิเลอาด 24 หลังจากที่เฮสโรนสิ้นชีวิตในคาเลบเอฟราธาห์ อาบียาห์ภรรยาของเฮสโรนให้กำเนิดอัชฮูร์แก่เขา อัชฮูร์เป็นบิดาของเทโคอา

25 บุตรหัวปีของเฮสโรนชื่อเยราเมเอล บุตรหัวปีของเยราเมเอลชื่อราม และคนต่อไปชื่อ บุนาห์ โอเรน โอเซม และอาหิยาห์ 26 เยราเมเอลมีภรรยาอีกคนชื่ออาทาราห์ นางมีบุตรชื่อโอนัม 27 รามผู้เป็นบุตรหัวปีของเยราเมเอลมีบุตรชื่อ มาอัส ยามีน และเอเคอร์ 28 โอนัมมีบุตรชื่อ ชัมมัย และยาดา ชัมมัยมีบุตรชื่อ นาดับ และอาบีชูร์ 29 ภรรยาของอาบีชูร์ชื่ออาบีฮาอิล นางให้กำเนิดอัคบานและโมลิด 30 นาดับมีบุตรชื่อ เสเลด และอัปปาอิม เสเลดสิ้นชีวิตโดยไม่มีบุตร 31 อัปปาอิมมีบุตรชื่ออิชอี ซึ่งมีบุตรชื่อเชชัน ซึ่งมีบุตรชื่ออัคลัย 32 ยาดาผู้เป็นน้องชายของชัมมัยมีบุตรชื่อ เยเธอร์ และโยนาธาน เยเธอร์สิ้นชีวิตโดยไม่มีบุตร 33 โยนาธานมีบุตรชื่อ เปเลท และซาซาอ์ คนเหล่านี้เป็นผู้สืบเชื้อสายของเยราเมเอล 34 เชชันไม่มีบุตรชาย มีแต่บุตรหญิง เชชันมีทาสหนุ่มชาวอียิปต์ชื่อยาร์ฮา 35 เชชันจึงยกบุตรหญิงของเขาให้แต่งงานกับยาร์ฮาทาสของตน และนางให้กำเนิดอัททัยแก่เขา 36 อัททัยเป็นบิดาของนาธาน นาธานเป็นบิดาของศาบาด 37 ศาบาดเป็นบิดาของเอฟลาล เอฟลาลเป็นบิดาของโอเบด 38 โอเบดเป็นบิดาของเยฮู เยฮูเป็นบิดาของอาซาริยาห์ 39 อาซาริยาห์เป็นบิดาของเฮเลส เฮเลสเป็นบิดาของเอลอาสาห์ 40 เอลอาสาห์เป็นบิดาของสิซมัย สิซมัยเป็นบิดาของชัลลูม 41 ชัลลูมเป็นบิดาของเยคามิยาห์ เยคามิยาห์เป็นบิดาของเอลีชามา

42 คาเลบน้องชายของเยราเมเอล มีบุตรหัวปีชื่อเม-ชาผู้เป็นบิดาของศิฟ บุตรอีกคนของคาเลบชื่อมาเรชาห์ผู้เป็นบิดาของเฮโบรน 43 เฮโบรนมีบุตรชื่อ โคราห์ ทัปปูวาห์ เรเคม และเช-มา 44 เช-มาเป็นบิดาของราฮัมผู้เป็นบิดาของโยร์เคอัม เรเคมเป็นบิดาของชัมมัย 45 บุตรของชัมมัยชื่อมาโอน มาโอนเป็นบิดาของเบธซูร์ 46 บุตรที่เกิดจากเอฟาห์ผู้เป็นภรรยาน้อยของคาเลบคือ ฮาราน โมซา และกาเซส ฮารานเป็นบิดาของกาเซส 47 ยาดัยมีบุตรชื่อ เรเกม โยธาม เกชาน เปเลธ เอฟาห์ และชาอัฟ 48 มาอาคาห์ภรรยาน้อยของคาเลบมีบุตรชื่อ เชเบอร์ และทีรหะนาห์ 49 นางมีบุตรอีกคนชื่อชาอัฟ ซึ่งเป็นบิดาของมัดมันนาห์ เช-วาบิดาของมัคเบนาห์ และกิเบ-อา ส่วนบุตรหญิงของคาเลบชื่ออัคสาห์ 50 คนเหล่านี้เป็นผู้สืบเชื้อสายของคาเลบ

ฮูร์บุตรหัวปีของเอฟราธาห์มีบุตรชื่อ โชบาล ผู้เป็นบิดาของคีริยาทเยอาริม 51 สัลมาเป็นบิดาของเบธเลเฮม และฮาเรฟเป็นบิดาของเบธกาเดอร์ 52 โชบาลผู้เป็นบิดาของคีริยาทเยอาริม มีผู้สืบเชื้อสายคือ ฮาโรเอห์ ครึ่งหนึ่งของชาวเมนูโฮท 53 ตระกูลของคีริยาทเยอาริมคือ ชาวอิท ชาวปุท ชาวชุมัท ชาวมิชรา ส่วนชาวโศราทและชาวเอชทาโอลมาจากตระกูลคีริยาทเยอาริม 54 สัลมามีบุตรชื่อ เบธเลเฮม เนโทฟาห์ อัทโรทเบธโยอาบ และครึ่งหนึ่งของชาวมานาฮาท คือชาวโศรา 55 ครอบครัวเหล่านี้เป็นผู้คัดลอกข้อความที่อาศัยอยู่ที่เมืองยาเบส คือชาวทิรา ชาวชิเมอัท และชาวสุคา คนเหล่านี้คือชาวเคนที่มาจากฮัมมัท บรรพบุรุษของพงศ์พันธุ์เรคาบ

ฮีบรู 8

หัวหน้ามหาปุโรหิตแห่งพันธสัญญาใหม่

บัดนี้ ประเด็นสำคัญของสิ่งที่ได้กล่าวมาแล้วก็คือ พวกเรามีหัวหน้ามหาปุโรหิตเช่นนี้ นั่งอยู่ ณ เบื้องขวาของบัลลังก์แห่งองค์ผู้ยิ่งใหญ่ในสวรรค์ และปฏิบัติงานในสถานที่บริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า คือในกระโจมที่แท้จริง ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าเป็นผู้สถาปนาขึ้น ไม่ใช่มนุษย์ หัวหน้ามหาปุโรหิตทุกท่านได้รับการแต่งตั้งขึ้นมา เพื่อถวายทั้งของบรรณาการและเครื่องสักการะ ดังนั้นหัวหน้ามหาปุโรหิตผู้นี้จำเป็นต้องมีสิ่งหนึ่งถวายด้วยเช่นกัน ถ้าพระองค์อยู่ในโลก ก็จะไม่เป็นปุโรหิต เพราะมีมนุษย์ทั้งหลายซึ่งทำหน้าที่ถวายของบรรณาการ ตามข้อบังคับของกฎบัญญัติอยู่แล้ว เขาเหล่านั้นรับใช้ ณ สถานที่บริสุทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งทำขึ้นตามแบบและเงาของสิ่งที่มีอยู่ในสวรรค์ เช่นเดียวกับที่โมเสสได้รับการเตือนจากพระเจ้า เวลาที่ท่านกำลังจะสร้างกระโจมว่า “จงแน่ใจว่า เจ้าต้องทำทุกสิ่งตามแบบที่แสดงให้เห็นบนภูเขา”[a] แต่บัดนี้พระเยซูได้รับงานอันสำคัญยิ่งกว่างานของปุโรหิตอื่นๆ คือพันธสัญญาที่พระองค์เป็นคนกลาง ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ ซึ่งเป็นพันธสัญญาที่ดีกว่า เพราะมีรากฐานจากพระสัญญาทั้งหลายซึ่งดีกว่า ถ้าพันธสัญญาแรกไม่มีข้อบกพร่องแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องมีพันธสัญญาอื่นอีก

แต่พระเจ้าเห็นว่ามนุษย์เหล่านั้นมีความผิด จึงกล่าวว่า

“พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ดูเถิด ใกล้จะถึงเวลาแล้ว
    ที่เราจะทำพันธสัญญาใหม่
กับพงศ์พันธุ์อิสราเอล
    และกับพงศ์พันธุ์ยูดาห์
เป็นพันธสัญญาที่จะไม่เหมือนกับที่ได้ทำไว้กับบรรพบุรุษของเขา
    คือตอนที่เรานำพวกเขา
เหมือนกับตอนที่จูงมือออกจากประเทศอียิปต์
    เพราะพวกเขาไม่ภักดีต่อพันธสัญญาของเรา
และเราหันหลังให้พวกเขา
    พระผู้เป็นเจ้ากล่าวไว้เช่นนี้
10 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า
นี่คือพันธสัญญาที่เราจะทำกับพงศ์พันธุ์อิสราเอล
    และหลังจากนั้น เราจะทำให้พวกเขาระลึกถึงกฎบัญญัติของเรา
    และเราจะจารึกไว้ในใจของเขา
เราจะเป็นพระเจ้าของเขา
    และเขาจะเป็นชนชาติของเรา
11 ไม่มีใครในพวกเขาที่จะต้องสอนเพื่อนร่วมชาติ
    หรือในพวกพี่น้องทุกคนของตนว่า ‘จงรู้จักพระผู้เป็นเจ้า’
เพราะพวกเขาทุกคนจะรู้จักเรา
    ตั้งแต่คนต่ำต้อยที่สุดถึงคนใหญ่โตที่สุด
12 เพราะเราจะยกโทษความชั่วร้ายของเขา
    และจะไม่จดจำบาปของเขาไว้อีกต่อไป”[b]

13 เมื่อพระเจ้ากล่าวว่า “พันธสัญญาใหม่” พระองค์ได้ทำให้พันธสัญญาแรกล้าสมัย และอะไรที่ล้าสมัยและล่วงพ้นกาลเวลาก็จะหายสาบสูญไป

อาโมส 2

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้

“โมอับกระทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    เราจะไม่เปลี่ยนใจในการลงโทษ
เพราะพวกเขาเผากระดูกของกษัตริย์
    แห่งเอโดมจนเป็นผงปูน
เราจะให้ไฟไหม้โมอับ
    ไฟจะเผาไหม้ป้อมปราการของเคริโอท
โมอับจะสิ้นชีวิตในท่ามกลางเสียงชุลมุน
    เสียงตะโกนและเสียงแตรงอน
เราจะกำจัดผู้ครองราชย์ของโมอับ
    และฆ่าบรรดาผู้นำทั้งปวงพร้อมกับเขา”
    พระผู้เป็นเจ้ากล่าว

กล่าวโทษยูดาห์

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้

“ยูดาห์กระทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    เราจะไม่เปลี่ยนใจในการลงโทษ
เพราะพวกเขาได้ดูหมิ่นกฎบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้า
    และไม่รักษากฎเกณฑ์ของพระองค์
เพราะพวกเขาถูกชักนำให้หลงผิดด้วยสิ่งจอมปลอม
    อย่างที่บรรพบุรุษของพวกเขาติดตามมาแล้ว
เราจะให้ไฟไหม้ยูดาห์
    ไฟจะเผาไหม้ป้อมปราการของเยรูซาเล็ม”

กล่าวโทษอิสราเอล

พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้

“อิสราเอลกระทำบาปซ้ำแล้วซ้ำเล่า
    เราจะไม่เปลี่ยนใจในการลงโทษ
เพราะพวกเขาขายผู้มีความชอบธรรมเพื่อแลกกับเงิน
    และขายผู้ยากไร้เพื่อแลกกับรองเท้าเพียงคู่เดียว
พวกเขาเหยียบย่ำศีรษะของผู้ขัดสน
    อย่างกับฝุ่นผงบนพื้นดิน
    และไม่ยอมให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกข่มเหง
ทั้งผู้ชายและพ่อของเขานอนกับหญิงสาวคนเดียวกัน
    ทำให้นามอันบริสุทธิ์ของเราเป็นที่ดูหมิ่น
พวกเขานอนที่ข้างแท่นบูชาทุกแห่ง
    เขานอนบนเสื้อผ้าซึ่งเป็นของประกันที่เขาริบได้มาจากผู้ยากไร้[a]
พวกเขาดื่มเหล้าองุ่นที่ปรับมาได้
    ในตำหนักของเทพเจ้าของพวกเขา

เรานั่นแหละที่ทำให้ชาวอัมโมนพินาศ
    แม้เขาจะสูงใหญ่ดั่งต้นซีดาร์
    และแข็งแกร่งดั่งต้นโอ๊ก
เราทำลายผลที่เบื้องบน
    และรากที่เบื้องล่างของเขา
10 เรานำพวกเจ้าออกจากแผ่นดินอียิปต์
    และเราได้นำพวกเจ้าในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี
    เพื่อให้พวกเจ้าเป็นเจ้าของแผ่นดินของชาวอัมโมน
11 เรากำหนดบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าขึ้นจากพวกลูกหลานของเจ้า
    และกำหนดชาวนาศีร์[b]ขึ้นจากบรรดาชายหนุ่มของพวกเจ้า
โอ ชาวอิสราเอลเอ๋ย นั่นเป็นความจริงมิใช่หรือ”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศ

12 “แต่พวกเจ้าทำให้ชาวนาศีร์ดื่มเหล้าองุ่น
    และสั่งบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าว่า จงอย่าเผยคำกล่าว

13 ฉะนั้น บัดนี้เราจะบดขยี้พวกเจ้า
    เหมือนกับเกวียนที่บรรทุกข้าวบดขยี้
14 ผู้ที่ว่องไวจะหนีไม่รอด
    ผู้ที่แข็งแรงจะหมดเรี่ยวแรง
    และนักรบจะเอาชีวิตไม่รอด
15 นายขมังธนูจะไม่สามารถยืนหยัดได้
    ทหารที่ขาว่องไวจะหนีไปไหนไม่ได้
    และทหารม้าจะเอาชีวิตไม่รอด
16 แม้บรรดานักรบผู้กล้าหาญ
    ก็จะล่อนจ้อนเผ่นหนีในวันนั้น”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศ

สดุดี 145

พระเจ้าตอบรับทุกคนที่รักและเกรงกลัวพระองค์

เพลงสรรเสริญ ของดาวิด

ข้าพเจ้าจะยกย่องพระองค์ กษัตริย์และพระเจ้าของข้าพเจ้า
    และนมัสการพระนามของพระองค์ไปชั่วนิรันดร์กาล
ข้าพเจ้าจะนมัสการพระองค์ทุกวัน
    และสรรเสริญพระนามของพระองค์ไปชั่วนิรันดร์กาล

พระผู้เป็นเจ้าใหญ่ยิ่ง สมแล้วกับการสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง
    และความยิ่งใหญ่ของพระองค์ก็ไร้ขอบเขต
คนของแต่ละยุคจะสรรเสริญการงานของพระองค์ให้ยุคต่อๆ ไปฟัง
    และเขาจะประกาศถึงการกระทำอันกอปรด้วยอานุภาพของพระองค์
ข้าพเจ้าจะใคร่ครวญถึงพระสง่าราศีอันเรืองรองและงามตระการ
    และสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์
พวกเขาจะกล่าวขวัญถึงการกระทำอันเต็มด้วยอานุภาพของพระองค์
    และข้าพเจ้าจะประกาศความยิ่งใหญ่ของพระองค์
พวกเขาจะป่าวประกาศถึงคุณความดีอเนกอนันต์ของพระองค์
    และร้องสรรเสริญความชอบธรรมของพระองค์

พระผู้เป็นเจ้ามีพระคุณและเมตตา
    ไม่โกรธง่าย และบริบูรณ์ด้วยความรักอันมั่นคง
พระผู้เป็นเจ้าดีต่อทุกคน
    และพระองค์เมตตาสรรพสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้น

10 โอ พระผู้เป็นเจ้า งานทุกชิ้นของพระองค์ต่างจะพากันขอบคุณพระองค์
    และบรรดาผู้ภักดีของพระองค์ก็จะนมัสการพระองค์
11 พวกเขาจะกล่าวถึงพระสง่าราศีแห่งอาณาจักรของพระองค์
    และบอกเล่าถึงอานุภาพของพระองค์
12 เพื่อให้อานุภาพของพระองค์และพระสง่าราศีอันยิ่งยวดของอาณาจักรของพระองค์
    เป็นที่ทราบแก่บรรดาบุตรของมนุษย์
13 อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรอันเป็นนิรันดร์
    และพระองค์ครองตลอดทุกชั่วอายุคน

พระผู้เป็นเจ้ารักษาคำมั่นสัญญาทั้งปวงของพระองค์
    และแสดงพระคุณในทุกสิ่งที่พระองค์ได้กระทำ
14 พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองทุกคนที่กำลังจะล้มลง
    และพยุงทุกคนขึ้นจากความสิ้นหวัง
15 นัยน์ตาที่เปี่ยมความหวังของสิ่งมีชีวิตทั้งปวงจับจ้องอยู่ที่พระองค์
    และพระองค์ก็ได้ให้อาหารตามเวลา
16 พระองค์ยื่นมือออก
    และพระองค์ได้โปรดให้สิ่งมีชีวิตทั้งปวงได้รับจนเป็นที่พอใจ
17 พระผู้เป็นเจ้ายุติธรรมในทุกสิ่ง
    และแสดงความรักอันมั่นคงของพระองค์ในทุกเรื่อง
18 พระผู้เป็นเจ้าจะอยู่ใกล้ๆ ทุกคนที่ร้องเรียกถึงพระองค์
    เฉพาะคนที่ร้องเรียกถึงพระองค์อย่างจริงใจ
19 พระองค์ให้แก่ทุกคนที่เกรงกลัวพระองค์ ตามความต้องการของเขา
    พระองค์ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ และช่วยพวกเขาให้ปลอดภัย
20 พระผู้เป็นเจ้าคุ้มครองทุกคนที่รักพระองค์
    แต่ใครก็ตามที่ชั่วร้าย พระองค์จะทำให้เขาพินาศ

21 ปากของข้าพเจ้ากล่าวสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า
    และให้ทุกๆ ชีวิตนมัสการพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ตราบชั่วนิรันดร์กาล

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation