Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 23

ผู้ถูกกีดกันไม่ให้ร่วมในที่ประชุม

23 ชายที่ลูกอัณฑะไม่ปกติหรืออวัยวะสืบพันธุ์ถูกตัด ก็อย่าให้เข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า

อย่าให้บุตรนอกสมรสเข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า ลูกหลานของเขารุ่นต่อๆ ไปจน 10 ชั่วอายุคนก็อย่าให้เข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า

อย่าให้ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับเข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงคนของพวกเขารุ่นต่อๆ ไปจน 10 ชั่วอายุคนก็อย่าให้เข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้าตลอดกาล[a] เพราะว่าเมื่อท่านออกจากอียิปต์ พวกเขาไม่จัดหาอาหารและน้ำให้ท่าน เขาว่าจ้างบาลาอัมบุตรของเบโอร์จากเมืองเปโธร์แห่งอารัมนาหะราอิม[b]ให้สาปแช่งท่าน กระนั้นก็ดีพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านไม่ได้ฟังบาลาอัม แต่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเปลี่ยนการสาปแช่งให้เป็นพระพรแก่ท่าน เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านรักท่าน[c] อย่าพยายามให้พวกเขาสงบสุขหรือเจริญสุขตลอดชีวิตของท่าน

อย่ารังเกียจชาวเอโดม เพราะเขาเป็นพี่น้องของท่าน[d] อย่ารังเกียจชาวอียิปต์ เพราะท่านเคยเป็นคนต่างด้าวในแผ่นดินของเขา ให้หลานๆ ในชั่วอายุที่สามของพวกเขาที่เกิดตามมาเข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้าได้

มลทินในค่าย

เมื่อท่านทำศึกกับศัตรูขณะที่ยังอยู่ในค่าย ท่านจงรักษาตัวให้พ้นจากสิ่งที่เป็นมลทิน

10 ถ้าใครในหมู่พวกท่านเป็นมลทินจากมีฝันเปียกในยามค่ำ เขาต้องไปอยู่ที่นอกค่าย จะเข้ามาในค่ายไม่ได้ 11 จนกว่าจะถึงเวลาเย็นอีกครั้งโดยเขาจะต้องชำระล้างตัวในน้ำ พอตะวันตกดิน เขาจึงจะเข้ามาในค่ายได้

12 ท่านต้องมีสถานที่ซึ่งอยู่นอกค่ายไว้สำหรับขับถ่าย 13 และท่านจงเอาไม้ติดตัวไปพร้อมกับอาวุธ ยามท่านต้องขับถ่ายก็จงใช้ไม้นั้นขุดหลุม แล้วก็กลบสิ่งที่ท่านขับถ่าย 14 เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านย่างเท้าอยู่ท่ามกลางค่ายของท่านเพื่อปกป้องท่านและให้ศัตรูยอมจำนนแก่ท่าน ฉะนั้นค่ายของท่านต้องสะอาดบริสุทธิ์ เพื่อพระองค์จะไม่ต้องเห็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมในหมู่พวกท่าน และต้องหันหลังให้ท่าน

กฎเกณฑ์ต่างๆ

15 ถ้ามีทาสที่หนีนายของเขามาพึ่งท่าน ก็อย่าจับทาสส่งคืนให้นายของเขา 16 จงให้เขาอยู่กับท่านในท่ามกลางพวกท่าน เขาพึงพอใจสถานที่ใดมากที่สุดก็ให้เขาเลือกได้ในเมืองของท่าน อย่าบีบบังคับเขาเลย

17 อย่าให้มีชายหรือหญิงชาวอิสราเอลคนใดที่จะมาเป็นชายหรือหญิงแพศยาประจำวิหาร 18 อย่านำค่าแรงของหญิงแพศยาหรือค่าแรงของสุนัข[e]เข้ามาในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเพื่อชดใช้คำสัญญา เพราะทั้งสองสิ่งนี้เป็นที่น่ารังเกียจต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน

19 อย่าคิดดอกเบี้ยกับพี่น้องของท่าน ดอกเบี้ยที่ได้จากการยืมเงิน จากอาหาร หรือจากสิ่งใดก็ตามที่คิดเป็นดอกเบี้ยได้ 20 ท่านให้ชาวต่างชาติยืมโดยคิดดอกเบี้ยได้ แต่อย่าให้ยืมโดยคิดดอกเบี้ยกับพี่น้องของท่านเอง พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะอวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะไปยึดครอง

21 เมื่อท่านสัญญาต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ก็อย่าเลื่อนกำหนดไม่ทำตามคำสัญญา เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านต้องการให้ท่านทำตามที่ได้สัญญาไว้ มิฉะนั้นท่านจะถูกนับว่าท่านมีบาป 22 แต่ถ้าท่านไม่ตั้งคำสัญญา ท่านก็จะไม่มีบาป 23 อะไรก็ตามที่สัญญาด้วยปากท่าน ท่านต้องแน่ใจว่าจะปฏิบัติตามได้ เพราะท่านให้คำมั่นด้วยความสมัครใจต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านด้วยปากของท่านเอง

24 เมื่อท่านเข้าไปในสวนองุ่นของเพื่อนบ้านท่าน ท่านจะรับประทานองุ่นจนอิ่มได้ตามความต้องการ แต่อย่าเก็บใส่ตะกร้าของท่านไป 25 เมื่อท่านเข้าไปในนาที่เพื่อนบ้านของท่านปลูกข้าวไว้ ท่านจะใช้มือเด็ดรวงข้าวได้ แต่ท่านอย่าใช้เคียวเกี่ยวข้าวที่เพื่อนบ้านของท่านปลูก

สดุดี 112-113

ความสุขที่คนดีพึงได้รับ

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

คนที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าจะเป็นสุข
    เขายินดีในพระบัญญัติของพระองค์เป็นอย่างยิ่ง
บรรดาผู้สืบเชื้อสายของเขาจะมีอานุภาพบนแผ่นดิน
    ผู้สืบวงศ์ตระกูลของผู้มีความชอบธรรมจะได้รับพระพร
ความมั่งมีและความเป็นปึกแผ่นอยู่ในเรือนของเขา
    และความชอบธรรมของเขาคงอยู่เป็นนิตย์
ย่อมมีแสงสว่างสาดส่องผ่านไปในที่มืดสำหรับผู้มีความเที่ยงธรรม
    พระองค์กอปรด้วยพระคุณ ความสงสาร และความชอบธรรม
พระพรจะเป็นของคนใจกว้าง และคนที่รู้จักให้คนอื่นหยิบยืม
    เขาดำเนินกิจการของเขาด้วยความเป็นธรรม
เขาจะไม่มีวันสะทกสะท้านหวั่นไหว
    ผู้มีความชอบธรรมจะเป็นที่ระลึกถึงตลอดกาล
เขาไม่ตื่นตระหนกต่อข่าวร้าย
    ด้วยมีใจหนักแน่น วางใจในพระผู้เป็นเจ้า
ใจของเขามั่นคง เขาจึงไม่หวาดกลัว
    เขาแน่ใจว่าจะได้เห็นศัตรูของเขาพ่ายแพ้
เขาเอื้อเฟื้อแก่ผู้ยากไร้
    ความชอบธรรมของเขาคงอยู่เป็นนิตย์[a]
    พละกำลังของเขาย่อมได้รับเกียรติยกย่องเชิดชู
10 คนชั่วจะโกรธเมื่อได้เห็น
    เขาขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แล้วก็ต้องแพ้พ่ายถอยกลับไป
    ความหวังของคนชั่วจะสูญเปล่า

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าในพระคุณของพระองค์

สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

โอ บรรดาผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า จงสรรเสริญเถิด
    สรรเสริญพระนามของพระผู้เป็นเจ้า

ให้พระนามของพระผู้เป็นเจ้าได้รับพระพร
    ตั้งแต่บัดนี้ไปจนชั่วนิรันดร์กาล
นับแต่ยามที่ดวงอาทิตย์ขึ้น จนถึงยามที่ดวงอาทิตย์ลาลับไป
    ให้พระนามของพระผู้เป็นเจ้าได้รับการสรรเสริญเถิด

พระผู้เป็นเจ้าถูกเชิดชูเหนือประชาชาติทั้งปวง
    และพระบารมีของพระองค์อยู่เหนือฟ้าสวรรค์
มีใครบ้างที่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
    พระองค์สถิตบนบัลลังก์ ณ เบื้องบน
พระองค์ก้มลงดูฟ้าสวรรค์
    และแผ่นดินโลก
พระองค์หยิบยกคนสิ้นไร้ไม้ตอกขึ้นจากผงธุลี
    และหยิบยกคนยากไร้ขึ้นจากกองขี้เถ้า
ให้พวกเขานั่งในตำแหน่งเทียบกับบรรดาเจ้าขุนมูลนาย
    ในระดับบรรดาเจ้าขุนมูลนายของชนชาติของพระองค์
พระองค์โปรดให้หญิงที่เป็นหมันได้อยู่อาศัยในเรือน
    เป็นแม่ผู้มีใจยินดีของลูกๆ

จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

อิสยาห์ 50

บาปของอิสราเอลและการเชื่อฟังของผู้รับใช้

50 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า

“ถ้าหากว่าเราขับไล่ไสส่งแม่ของพวกเจ้าแล้ว
    ใบหย่าของนางอยู่ที่ไหนล่ะ
หรือว่าเราขายพวกเจ้า
    ให้เจ้าหนี้ของเราคนไหนหรือ
ดูเถิด พวกเจ้าถูกขายก็เพราะบาปทั้งหลายของเจ้าเอง
    และแม่ของเจ้าถูกไล่ไปก็เพราะการล่วงละเมิดของเจ้า
เมื่อเรามา ทำไมจึงไม่มีใครอยู่ที่นั่น
    เมื่อเราเรียก ทำไมจึงไม่มีใครตอบ
มือของเราสั้นหรือ จึงไถ่คืนไม่ได้
    หรือเราไม่มีอานุภาพที่จะช่วยให้รอดหรือ
ดูเถิด เมื่อเราบอกห้าม เราทำให้ทะเลแห้งลง
    เราทำให้แม่น้ำเป็นถิ่นทุรกันดาร
ปลาในแหล่งน้ำเน่าเหม็นเพราะขาดน้ำ
    และตายเพราะน้ำแห้ง
เราปกฟ้าสวรรค์ด้วยความมืด
    และคลุมด้วยผ้ากระสอบ”

พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่โปรดให้ข้าพเจ้ามีลิ้น
    อย่างบรรดาผู้ได้รับการฝึกสอน
ข้าพเจ้าจึงรู้จักพูดเพื่อช่วยผู้ที่ตรากตรำ
    ให้ยืนหยัดอยู่ได้
ทุกเช้าพระองค์ปลุกข้าพเจ้า
    ให้เรียนรู้อย่างบรรดาผู้ได้รับการฝึกสอน
พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ได้ทำให้ข้าพเจ้าเรียนรู้
    และข้าพเจ้าไม่ดึงดัน
    ข้าพเจ้าไม่หันหลังกลับไป
ข้าพเจ้าหันหลังให้กับพวกที่ตบตี
    หันหน้าให้กับบรรดาผู้ที่กระชากหนวดเครา
ข้าพเจ้าไม่ซ่อนหน้า
    เมื่อถูกดูหมิ่นและถูกถ่มน้ำลายรด
แต่พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ช่วยข้าพเจ้า
    ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงไม่ถูกดูหมิ่น
ฉะนั้นใบหน้าข้าพเจ้าจึงทนอย่างหินเหล็กไฟ
    และข้าพเจ้าทราบว่าข้าพเจ้าจะไม่ต้องเผชิญกับความอับอาย
พระองค์ผู้ให้ความเป็นธรรมแก่ข้าพเจ้าอยู่ใกล้
    ใครจะราวีข้าพเจ้า
    ก็ให้เขามาเผชิญหน้ากับข้าพเจ้าเถิด
ใครเป็นผู้กล่าวหาข้าพเจ้า
    ก็ให้เขาเข้ามาใกล้ข้าพเจ้า
ดูเถิด พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ช่วยข้าพเจ้า
    ใครจะกล่าวหาว่าข้าพเจ้ามีความผิด
ดูเถิด พวกเขาทุกคนจะสึกหรอเหมือนกับเครื่องนุ่งห่ม
    แมลงจะกัดกินพวกเขา

10 ใครในบรรดาพวกท่านที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า
    และเชื่อฟังเสียงของผู้รับใช้ของพระองค์
ให้ผู้ที่เดินในความมืดซึ่งไม่มีแสงสว่าง
    ได้ไว้วางใจในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
    และพึ่งพิงในพระเจ้าของเขา
11 ดูเถิด พวกท่านทุกคนที่ก่อไฟ
    ผู้ที่จัดเตรียมคบไฟให้ตนเอง
จงเดินในความสว่างที่ได้จากไฟของท่าน
    และด้วยคบไฟที่ท่านได้ก่อขึ้น
สิ่งที่ท่านจะได้รับจากมือของข้าพเจ้าคือ
    ท่านจะนอนอยู่ในความทุกข์

วิวรณ์ 20

1,000 ปี

20 ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็เห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งกำลังลงมาจากสวรรค์ ถือลูกกุญแจสำหรับขุมนรก มีโซ่เส้นใหญ่อยู่ในมือท่าน ท่านจับมังกร คืองูครั้งโบราณกาลที่เรียกกันว่า พญามารหรือซาตาน และมัดมันไว้ 1,000 ปี แล้วโยนมันลงสู่ขุมนรก ปิดประตูทางเข้าและผนึกไว้ให้แน่น เพื่อมันจะได้ไม่ออกมาหลอกลวงประเทศชาติต่างๆ อีกต่อไปจนครบกำหนด 1,000 ปี หลังจากนั้นมันจะถูกปลดปล่อยชั่วระยะเวลาอันสั้น

ข้าพเจ้าเห็นบัลลังก์ทั้งหลาย ซึ่งบรรดาผู้ที่ได้รับสิทธิอำนาจให้พิพากษานั่งอยู่ และข้าพเจ้าเห็นดวงวิญญาณของบรรดาผู้ที่ถูกตัดศีรษะ เพราะคำยืนยันของพวกเขาที่ทำไปเพื่อพระเยซู และเพราะคำกล่าวของพระเจ้า และบรรดาผู้ที่ไม่ได้นมัสการอสุรกายหรือรูปจำลองของตัวมัน และไม่ได้รับเครื่องหมายที่หน้าผากและที่มือของเขา แล้วพวกเขาเหล่านั้นก็กลับมีชีวิตขึ้นมา และครองบัลลังก์ร่วมกับพระคริสต์เป็นเวลา 1,000 ปี (ส่วนคนตายที่เหลือก็ไม่ได้กลับมีชีวิตขึ้นมาจนกว่า 1,000 ปีไปแล้ว) นี่คือการฟื้นคืนชีวิตเป็นครั้งแรก ผู้ที่มีส่วนร่วมในการฟื้นคืนชีวิตเป็นครั้งแรกก็เป็นสุขและบริสุทธิ์ ความตายครั้งที่สองไม่มีอำนาจเหนือพวกเขา แต่เขาจะเป็นบรรดาปุโรหิตของพระเจ้าและของพระคริสต์ ซึ่งจะครองบัลลังก์ร่วมกับพระองค์เป็นเวลา 1,000 ปี

ซาตานพินาศ

เมื่อครบ 1,000 ปีแล้ว ซาตานจะได้รับการปลดปล่อยจากที่คุมขังของมัน แล้วมันจะออกมาหลอกลวงบรรดาประเทศชาติที่ 4 มุมของแผ่นดินโลกคือ โกกและมาโกก ให้มาสมทบกันทำสงคราม จำนวนประเทศเหล่านั้นมากมายราวกับเม็ดทรายบนชายฝั่งทะเล เขาเหล่านั้นเดินขบวนไปตามความกว้างของแผ่นดินโลก และล้อมรอบค่ายของบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า และเมืองอันเป็นที่รักของพระองค์ แล้วไฟจากสวรรค์ก็ได้ตกลงมาเผาผลาญพวกเขา 10 ส่วนพญามารที่หลอกลวงเขาเหล่านั้น ก็ถูกโยนลงสู่ทะเลเพลิงและกำมะถัน อันเป็นสถานที่ที่อสุรกายกับผู้เผยคำกล่าวจอมปลอมอยู่ พวกมันทั้งหมดจะได้รับความทุกข์ทรมานตลอดวันตลอดคืนตราบชั่วนิรันดร์กาล

คนตายถูกพิพากษา

11 ข้าพเจ้าได้เห็นบัลลังก์ใหญ่สีขาวบัลลังก์หนึ่งซึ่งมีองค์ผู้นั่งอยู่ด้วย แผ่นดินโลกและสวรรค์ได้หายไปจากเบื้องหน้าพระองค์ และไม่มีที่อยู่สำหรับแผ่นดินโลกและท้องฟ้าเลย 12 ข้าพเจ้าได้เห็นคนที่ตายไปแล้วทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อยกำลังยืนอยู่ที่หน้าบัลลังก์ หนังสือหลายเล่มได้เปิดออก หนังสืออีกเล่มที่เปิดออกคือหนังสือแห่งชีวิต และคนที่ตายไปแล้วก็ถูกพิพากษาจากสิ่งที่บันทึกไว้ในหนังสือหลายเล่ม ตามความประพฤติที่เขาได้ทำไว้ 13 คนตายที่อยู่ในทะเลก็ถูกปล่อยตัวออกมา ความตายและแดนคนตายก็ปล่อยตัวคนตายออกมาด้วย ทุกคนถูกพิพากษาตามความประพฤติที่เขาได้ทำไว้ 14 ความตายและแดนคนตายถูกโยนลงสู่ทะเลเพลิง ทะเลเพลิงนั้นก็คือความตายครั้งที่สอง 15 และถ้าชื่อของผู้ใดไม่มีบันทึกไว้ในหนังสือแห่งชีวิต ผู้นั้นก็ถูกโยนลงสู่ทะเลเพลิง

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation