M’Cheyne Bible Reading Plan
พระบัญญัติที่สำคัญที่สุด
6 ต่อไปนี้เป็นพระบัญญัติ กฎเกณฑ์ และคำบัญชาที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านบัญชาให้เราสอน เพื่อพวกท่านจะได้ปฏิบัติในแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเดินทางข้ามไปยึดเป็นเจ้าของ 2 ท่านจะได้เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ด้วยการรักษากฎเกณฑ์และพระบัญญัติของพระองค์ ซึ่งเราบัญชาท่านและบรรดาผู้สืบเชื้อสายไปจนชั่วชีวิต ท่านจะได้มีชีวิตยืนนาน 3 จงฟังเถิด อิสราเอลเอ๋ย และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะทวีจำนวนคนขึ้นในดินแดนอันอุดมด้วยน้ำนมและน้ำผึ้งตามที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของท่านได้สัญญาไว้
4 จงฟังเถิด อิสราเอลเอ๋ย พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราเป็นพระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว 5 และจงรักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างสุดดวงใจ สุดดวงจิต และสุดกำลังของท่าน[a] 6 ให้บัญญัติที่เราบัญชาพวกท่านในวันนี้อยู่ในใจท่าน 7 ท่านจงสั่งสอนสิ่งเหล่านี้กับลูกๆ ด้วยความพากเพียร และจงพูดถึงไม่ว่าจะเป็นเวลานั่งอยู่ในบ้าน หรือเดินไปไหนมาไหน และไม่ว่าจะเป็นเวลาหลับหรือตื่นก็ตาม 8 ท่านจงผูกติดไว้เป็นดั่งเครื่องหมายที่มือของท่าน[b] และเป็นเครื่องเตือนใจที่หน้าผาก 9 และท่านจงเขียนไว้ที่วงกบประตูบ้านท่านและที่ประตูเมือง
10 เมื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านนำท่านเข้าไปในแผ่นดินที่พระองค์ปฏิญาณไว้กับบรรพบุรุษของท่าน กับอับราฮัม อิสอัค และยาโคบ เพื่อยกเมืองทั้งหลายที่ใหญ่และอุดมสมบูรณ์ซึ่งท่านไม่ได้สร้าง 11 มีข้าวของเครื่องใช้เต็มบ้านโดยท่านไม่ต้องหา บ่อที่ขุดไว้แล้วโดยท่านไม่ต้องขุด สวนองุ่นและต้นมะกอกที่ท่านไม่ได้ปลูก และเมื่อท่านมีกินจนอิ่มหนำ 12 ท่านจงระวังไว้ มิฉะนั้นท่านอาจจะลืมพระผู้เป็นเจ้าผู้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส 13 ท่านจงเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน จงรับใช้พระองค์ และสาบานด้วยพระนามของพระองค์ 14 อย่าหันไปเชื่อเทพเจ้าใดๆ ที่เป็นของบรรดาชนชาติที่อยู่รอบข้างท่าน 15 เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านซึ่งอยู่ในท่ามกลางพวกท่านเป็นพระเจ้าผู้หวงแหน เกรงว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะกริ้วมาก และกำจัดท่านให้พ้นจากแผ่นดินโลก
16 อย่าลองดีกับพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เหมือนอย่างครั้งที่ท่านได้ลองดีกับพระองค์ที่มัสสาห์[c] 17 ท่านจงรักษาพระบัญญัติ พันธสัญญา และกฎเกณฑ์ของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างเคร่งครัดตามคำบัญชาของพระองค์ 18 ท่านจงประพฤติตามสิ่งที่ถูกที่ควรตามสายตาพระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าทุกสิ่งจะเป็นไปด้วยดีสำหรับท่าน และท่านจะได้เข้าไปยึดครองแผ่นดินอันอุดมซึ่งพระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณว่าจะมอบแก่บรรพบุรุษของท่าน 19 โดยขับไล่ศัตรูทุกคนออกไปให้พ้นหน้าท่าน ตามที่พระผู้เป็นเจ้าได้สัญญาไว้
20 ในอนาคต เวลาบุตรของท่านถามว่า ‘พันธสัญญา กฎเกณฑ์ และคำสั่งทั้งหลายที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราได้บัญชาพวกท่านไว้มีความหมายอย่างไร’ 21 แล้วท่านจะตอบบุตรของท่านว่า ‘พวกเราเป็นทาสของฟาโรห์ที่ประเทศอียิปต์ และพระผู้เป็นเจ้าพาพวกเราออกจากอียิปต์ด้วยอานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ 22 และพระผู้เป็นเจ้าได้แสดงให้เราเห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์และสิ่งมหัศจรรย์ต่างๆ อันยิ่งใหญ่ และสิ่งเลวร้ายที่เกิดกับอียิปต์ ทั้งฟาโรห์และทุกคนในครัวเรือนของท่าน 23 และพระองค์พาพวกเราออกจากที่นั่น เพื่อพระองค์จะได้นำพวกเราเข้าไปและมอบแผ่นดินที่พระองค์ได้ปฏิญาณไว้ว่าจะมอบแก่บรรพบุรุษของเรา 24 และพระผู้เป็นเจ้าบัญชาให้เราปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เหล่านี้ ให้ยำเกรงพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา เพื่อคงคุณประโยชน์แก่เราเสมอไป และให้มีชีวิตดังที่เป็นอยู่ในวันนี้ 25 ถ้าเราปฏิบัติตามพระบัญญัติทั้งปวงอย่างเคร่งครัด ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราอย่างที่พระองค์บัญชา แล้วความชอบธรรมก็จะเป็นของพวกเรา’
ความรักอันมั่นคงของพระเจ้า
เพลงสดุดีแห่งความฉลาดรอบรู้ของเอธาน ชาวเอศราค
1 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักอันมั่นคงของพระผู้เป็นเจ้าไปตลอดกาล
ข้าพเจ้าจะทำให้ความสัตย์จริงของพระองค์เป็นที่รู้จักไปทุกกาลสมัยด้วยปากของข้าพเจ้า
2 เพราะข้าพเจ้าได้ประกาศแล้วว่า ความรักอันมั่นคงของพระองค์จะยืนยงตลอดกาล
พระองค์สร้างความสัตย์จริงอย่างมั่นคงในฟ้าสวรรค์
3 พระองค์กล่าวว่า “เราได้ทำพันธสัญญากับผู้ที่ได้รับเลือกไว้
เราได้ปฏิญาณกับดาวิด ผู้รับใช้ของเรา
4 ‘เราจะทำให้เชื้อสายของเจ้าสืบต่อกันไปจนชั่วนิรันดร์กาล
ทำให้บัลลังก์ของเจ้ามั่นคงทุกชั่วอายุคน’” เซล่าห์
5 โอ พระผู้เป็นเจ้า สวรรค์ได้สรรเสริญการกระทำอัศจรรย์ของพระองค์
และความสัตย์จริงของพระองค์ในที่ประชุมของผู้บริสุทธิ์ทั้งหลาย
6 ด้วยว่า จะหาใครในสวรรค์ที่เท่าเทียมกับพระผู้เป็นเจ้าได้
ใครบ้างในหมู่ชาวสวรรค์ที่เป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้า
7 พระเจ้าเป็นที่น่าเกรงขามอย่างยิ่งในสภาของผู้บริสุทธิ์ทั้งปวง
ยิ่งใหญ่และเยี่ยมยอดเหนือกว่าใครๆ ที่อยู่รอบข้างพระองค์
8 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าจอมโยธา
ใครบ้างเป็นเหมือนพระองค์ พระองค์มีมหิทธานุภาพ โอ พระผู้เป็นเจ้า
และความสัตย์จริงของพระองค์อยู่โดยรอบพระองค์
9 คลื่นทะเลอยู่ภายใต้การควบคุมของพระองค์
เวลาคลื่นสูงขึ้น พระองค์ก็ทำให้สงบลง
10 พระองค์ปราบราหับ[a]จนราบคาบอย่างซากศพ
พระองค์ทำให้พวกศัตรูกระเจิดกระเจิงด้วยอานุภาพของพระองค์
11 ฟ้าสวรรค์เป็นของพระองค์ แผ่นดินโลกก็เช่นกัน
พระองค์ก่อตั้งโลกและทุกสิ่งที่อยู่ในโลกขึ้นมา
12 พระองค์สร้างทิศเหนือและทิศใต้
ภูเขาทาโบร์และเฮอร์โมนสรรเสริญพระนามของพระองค์ด้วยความยินดี
13 แขนของพระองค์กอปรด้วยฤทธานุภาพ
มือพระองค์มีพละกำลัง และมือขวายกขึ้นสูง
14 ความชอบธรรมและความเป็นธรรมคือรากฐานแห่งบัลลังก์ของพระองค์
ความรักอันมั่นคงและความสัตย์จริงตั้งอยู่ ณ เบื้องหน้าพระองค์
15 ชนชาติที่รู้จักร้องเพลงสรรเสริญก็เป็นสุข
โอ พระผู้เป็นเจ้า พวกเขาจะดำเนินชีวิตในความสว่างของพระองค์
16 เขาจะรื่นเริงใจในพระนามของพระองค์ตลอดวันเวลา
และจะโห่ร้องในความชอบธรรมของพระองค์
17 เพราะพระองค์เป็นพระบารมีแห่งพละกำลังของพวกเขา
พระองค์โปรดปรานที่จะชูพละกำลังของพวกเรา
18 โล่ป้องกันเราเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
กษัตริย์เราเป็นขององค์ผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล
19 นานมาแล้ว พระองค์กล่าวกับผู้ภักดีของพระองค์ในภาพนิมิตว่า
“เราให้ความช่วยเหลือแก่ชายฉกรรจ์ผู้หนึ่ง
เรายกคนหนึ่งที่ได้เลือกไว้ขึ้นจากชนชาติ
20 เราได้พบดาวิดผู้รับใช้ของเรา
เราเจิมเขาด้วยน้ำมันอันบริสุทธิ์
21 มือของเราจะค้ำจุนเขาอย่างมั่นคง
และแขนของเราจะทำให้เขาเก่งกาจ
22 ไม่มีศัตรูใดๆ จะเอาชนะเขาได้
ไม่มีคนชั่วคนไหนที่จะลบหลู่เขาได้
23 เราจะขยี้พวกข้าศึกต่อหน้าเขา
และฆ่าคนที่เกลียดชังเขา
24 ความสัตย์จริงและความรักอันมั่นคงของเราจะอยู่กับเขา
พละกำลังของเขาจะถูกเชิดชูโดยนามของเรา
25 เราจะวางมือข้างหนึ่งของเขาที่ทะเล
และมือขวาของเขาวางที่แม่น้ำ
26 เขาจะส่งเสียงร้องถึงเราว่า ‘พระองค์เป็นบิดาของข้าพเจ้า
พระเจ้าของข้าพเจ้า และศิลาแห่งความรอดพ้นของข้าพเจ้า’
27 เราจะให้เขาเป็นบุตรหัวปีของเรา
ผู้อยู่เหนือบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลก
28 เราจะรักษาความรักอันมั่นคงของเราเพื่อเขาไปตลอดกาล
พันธสัญญาของเราที่มีต่อเขาจะมั่นคง
29 เราจะสถาปนาเชื้อสายของเขาให้สืบต่อกันไปตลอดกาล
บัลลังก์ของเขาจะยืนยงตราบที่ท้องฟ้าจะคงอยู่
30 หากว่าผู้สืบเชื้อสายของเขาละเลยกฎบัญญัติของเรา
และไม่ดำเนินตามคำสั่งของเรา
31 ถ้าพวกเขาฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของเรา
และไม่รักษาบัญญัติของเรา
32 เราจะลงโทษบาปของพวกเขาด้วยไม้เรียว
และความชั่วด้วยการเฆี่ยน
33 แต่เราจะไม่พรากความรักอันมั่นคงของเราไปจากดาวิด
และไม่คืนความสัตย์จริงที่เรามีต่อเขา
34 เราจะไม่ฝ่าฝืนพันธสัญญาของเรา
หรือเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เราได้สัญญาไว้
35 เราได้ปฏิญาณในความบริสุทธิ์ของเราไว้ครั้งเดียวเป็นพอ
เราไม่หลอกลวงดาวิด
36 เชื้อสายของเขาจะคงอยู่ไปตลอดกาล
และบัลลังก์ของเขาเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ส่อง ณ เบื้องหน้าเรา
37 และจะได้รับการสถาปนาตลอดกาลอย่างดวงจันทร์
ที่เป็นพยานอันมั่นคง[b]บนท้องฟ้า” เซล่าห์
38 แต่พระองค์ปฏิเสธและไม่ใยดี
พระองค์กริ้วผู้ที่พระองค์เจิม
39 พระองค์ยกเลิกพันธสัญญากับผู้รับใช้ของพระองค์
และทำให้มงกุฎของท่านเป็นมลทิน ตกอยู่ในกองธุลี
40 พระองค์ทลายกำแพงเมืองของท่านลงทุกด้าน
และทิ้งให้หลักอันแข็งแกร่งต้องพังทลายลง
41 ทุกคนที่ผ่านมาก็ริบทุกสิ่งไปจากท่าน
ท่านกลายเป็นที่ถูกดูหมิ่นของบรรดาเพื่อนบ้าน
42 พระองค์ได้ยกชูมือขวาของข้าศึกของท่าน
พระองค์ทำให้ศัตรูทั้งปวงของท่านยินดี
43 พระองค์หันคมดาบของท่าน
และไม่ช่วยท่านในการสงคราม
44 พระองค์ยุติความยิ่งใหญ่ของท่านลง
และล้มบัลลังก์ของท่านลงสู่พื้นดิน
45 พระองค์ทำให้วันเวลาในวัยหนุ่มของท่านสั้นลง
พระองค์ให้ท่านสวมใส่ความอับอาย เซล่าห์
46 โอ พระผู้เป็นเจ้า นานเพียงไร พระองค์จะซ่อนไปตลอดกาลหรือ
ความกริ้วของพระองค์จะลุกเป็นไฟนานเพียงไร
47 ขอพระองค์ระลึกเถิดว่า ชีวิตคนอยู่ได้นานเพียงไร
พระองค์ได้สร้างบรรดามนุษยชาติโดยเปล่าประโยชน์เพียงไร
48 มนุษย์คนไหนมีชีวิตอยู่โดยไม่เห็นความตาย
หรือช่วยชีวิตของตนให้พ้นจากเงื้อมมือของแดนคนตาย เซล่าห์
49 โอ พระผู้เป็นเจ้า ความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่เคยสำแดงเป็นคำปฏิญาณ
ที่พระองค์ได้ทำไว้กับดาวิดอยู่ที่ไหนแล้ว
50 พระผู้เป็นเจ้า ขอระลึกถึงผู้รับใช้ที่ถูกเย้ยหยัน
และความรู้สึกในใจที่ข้าพเจ้าต้องรับแบกเพราะการดูหมิ่นของชนชาติจำนวนมาก
51 โอ พระผู้เป็นเจ้า เป็นพวกศัตรูของพระองค์ที่เย้ยหยัน
เขาเย้ยหยันผู้ได้รับการเจิมของพระองค์ทุกฝีก้าว
52 สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าตลอดไปเป็นนิตย์
อาเมน และอาเมน
การตัดสินโทษประชาชาติ
34 โอ บรรดาประชาชาติเอ๋ย จงเข้ามาฟังใกล้ๆ
และตั้งใจให้ดี โอ บรรดาชนชาติ
ขอให้แผ่นดินและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้นได้ยิน
ให้โลกและทุกสิ่งที่มาจากโลกได้ยิน
2 เพราะความกริ้วของพระผู้เป็นเจ้าพลุ่งขึ้นต่อประชาชาติทั้งปวง
และพระองค์กริ้วกองทัพทั้งหมดของพวกเขา
พระองค์กำจัดชีวิตพวกเขา
ปล่อยพวกเขาให้ถูกประหาร
3 พวกที่ถูกฆ่าจะถูกโยนออกไป
กลิ่นศพจะเหม็นฟุ้ง
เลือดของพวกเขาจะไหลนองเทือกเขา
4 หมู่ดาวทั้งหลายในท้องฟ้าจะสูญสิ้น
และท้องฟ้าจะม้วนอย่างหนังสือม้วน
ดาวทั้งปวงจะตก
เหมือนใบไม้ร่วงจากเถาองุ่น
เหมือนใบไม้ที่กำลังร่วงจากต้นมะเดื่อ
5 “เพราะดาบของเราในฟ้าสวรรค์ดื่มจนอิ่ม
ดูเถิด มันลงมายังเอโดม
และมายังชนชาติที่เรากำหนดให้พินาศ”
6 พระผู้เป็นเจ้ามีดาบเล่มหนึ่งซึ่งอาบเลือด
และหุ้มด้วยไขมัน
ด้วยเลือดของพวกลูกแกะและแพะ
ด้วยไขมันจากไตของแกะตัวผู้
เพราะพระผู้เป็นเจ้ามีเครื่องสักการะในเมืองโบสราห์
เป็นการประหารครั้งใหญ่ในแผ่นดินของเอโดม
7 กระทิงป่าจะล้มลงพร้อมกับพวกมัน
และโคหนุ่มพร้อมกับบรรดาผู้ที่แข็งแรง
แผ่นดินของพวกเขาจะดื่มเลือดจนอิ่ม
และผืนดินของเขาจะเกลื่อนกลาดไปด้วยไขมัน
8 เพราะพระผู้เป็นเจ้ามีวันแห่งการลงโทษ
ปีแห่งการชดใช้ที่พวกเขาได้กระทำต่อศิโยน
9 ธารน้ำของเอโดมจะไหลหลากด้วยน้ำมันดิน
และดินกลายเป็นกำมะถัน
แผ่นดินจะกลายเป็นน้ำมันดินที่คุกรุ่น
10 มันจะไม่ถูกดับไม่ว่ากลางวันหรือกลางคืน
ควันจะลอยขึ้นตลอดกาล
มันจะเป็นที่ร้างในทุกชั่วอายุคน
จะไม่มีผู้ใดเดินผ่านทางนี้ตลอดไปเป็นนิตย์
11 แต่นกกระทุงและเม่นจะยึดเป็นเจ้าของ
นกเค้าแมวใหญ่และอีกาจะอาศัยอยู่ที่นั่น
พระองค์จะขึงเชือกของความชุลมุนวุ่นวาย
และลูกดิ่งของความว่างเปล่าไว้ที่เอโดม
12 ไม่มีอะไรที่นั่นที่บรรดาผู้ปกครองจะเรียกว่าอาณาจักร
และจะไม่มีบรรดาผู้นำเหลืออยู่เลย
13 ไม้หนามจะงอกโตบนป้อมปราการ
วัชพืชหนามและพันธุ์ไม้หนามโตบนหลักอันแข็งแกร่ง
มันจะเป็นที่อยู่ของหมาใน
และเป็นที่พักสำหรับนกกระจอกเทศ
14 และสัตว์ในทะเลทรายจะเจอกับสุนัขป่า
แพะป่าจะร้องเรียกหาเพื่อนของมัน
นกราตรีปักหลัก
และหาที่พักอยู่ที่นั่น
15 นกเค้าแมวทำรัง วางไข่
กกลูกและโอบซ่อนลูกน้อยไว้ใต้ปีก
เหยี่ยวรวมกันอยู่ที่นั่น
แต่ละตัวอยู่กับคู่ของมัน
16 จงค้นหาและอ่านจากหนังสือของพระผู้เป็นเจ้า
อย่าให้สัตว์เหล่านี้ขาดหายไปสักตัวเดียว
ไม่มีตัวใดที่จะขาดคู่ของมัน
เพราะคำบัญชาออกจากปากของพระผู้เป็นเจ้า
และพระวิญญาณของพระองค์รวบรวมพวกมันไว้แล้ว
17 พระองค์ได้ตัดสินใจให้พวกมันแล้ว
มือของพระองค์ได้เลือกและขีดเส้นแดนให้พวกมัน
เพื่อให้ใช้กรรมสิทธิ์ได้ตลอดไป
พวกมันจะอาศัยอยู่ในที่นั้นทุกชั่วอายุคน
บัลลังก์ในสวรรค์
4 ดูเถิด หลังจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นประตูสวรรค์เปิดอยู่ เสียงที่ข้าพเจ้าได้ยินครั้งแรกดุจเสียงแตรนั้นพูดกับข้าพเจ้าว่า “จงขึ้นมาบนนี้เถิด และเราจะให้เจ้าเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไปแล้ว” 2 ในทันใดนั้น ข้าพเจ้าอยู่ในฝ่ายวิญญาณ ดูเถิด มีบัลลังก์ตั้งอยู่ในสวรรค์ และมีผู้หนึ่งนั่งอยู่ 3 องค์ที่นั่งอยู่นั้นปรากฏราวกับมณีสีเขียวและสีแดง และมีรุ้งล้อมรอบบัลลังก์ทรงกลดด้วยรัศมีแก้วมรกต 4 รอบบัลลังก์ก็มีบัลลังก์อีก 24 บัลลังก์ ข้าพเจ้าเห็นผู้ใหญ่ 24 ท่านซึ่งสวมมงกุฎทองคำบนศีรษะและนุ่งห่มด้วยผ้าสีขาวนั่งอยู่บนบัลลังก์ 5 มีสายฟ้าแลบ เสียงต่างๆ และเสียงฟ้าคำรามครืนครั่นหลายครั้งจากบัลลังก์ มีคบเพลิงจุดลุกอยู่ 7 ท่อนตรงหน้าบัลลังก์ ซึ่งเป็นพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า 6 และตรงหน้าบัลลังก์ดูเหมือนทะเลแก้วที่ใสดุจดังแก้วเจียระไน
ณ จตุรทิศรอบบัลลังก์มีสิ่งมีชีวิต 4 ตัวซึ่งมีตาเต็มไปหมดทั้งข้างหน้าและข้างหลัง 7 สิ่งมีชีวิตตัวแรกเหมือนสิงโต ตัวที่สองเหมือนโค ตัวที่สามมีหน้าเหมือนมนุษย์ ตัวที่สี่เหมือนนกอินทรีที่กำลังบิน 8 สิ่งมีชีวิตแต่ละตัวมีปีก 6 ปีกและมีตาโดยรอบ รวมทั้งที่ใต้ปีกด้วย ตลอดวันตลอดคืนสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นร้องไม่หยุดเลยว่า
“บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์
คือพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจอมโยธา
ผู้ดำรงอยู่ทั้งในอดีต ในปัจจุบัน และผู้ที่จะมาในอนาคต”
9 เมื่อใดก็ตามที่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นถวายพระบารมีและพระเกียรติแด่พระองค์ และขอบคุณองค์ที่นั่งบนบัลลังก์และมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์กาล 10 บรรดาผู้ใหญ่ 24 ท่านก็จะหมอบลงเบื้องหน้าองค์ที่นั่งบนบัลลังก์ และนมัสการองค์ผู้มีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์กาล ทั้งได้ถอดมงกุฎวางไว้ที่หน้าบัลลังก์พลางพูดว่า
11 “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
พระองค์สมควรที่จะรับพระบารมี พระเกียรติ และอานุภาพ
ด้วยว่าพระองค์ได้สร้างทุกสิ่ง
และด้วยความประสงค์ของพระองค์สิ่งเหล่านั้นจึงเป็นอยู่และถูกสร้างขึ้น”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation