Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 18

ส่วนแบ่งของปุโรหิต

18 ปุโรหิตซึ่งเป็นชาวเลวี รวมทั้งทุกคนในเผ่าเลวีจะไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับชาวอิสราเอล พวกเขาจะรับประทานสิ่งที่นำมาเผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเป็นมรดกของพวกเขา พวกเขาจะไม่ได้รับมรดกเหมือนพี่น้องเผ่าอื่นๆ พระผู้เป็นเจ้าเป็นมรดกของพวกเขาดังที่พระองค์ได้สัญญาเขาไว้ สิ่งที่ปุโรหิตมีสิทธิ์รับจากประชาชนและจากบรรดาผู้ถวายเครื่องสักการะคือ โคหรือแกะ พวกเขาจะมอบส่วนที่เป็นเนื้อสันขาหน้า แก้มทั้งสองข้าง และส่วนท้องให้แก่ปุโรหิต อีกทั้งพืชผลแรกที่ได้จากธัญพืช เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก และท่านจะต้องให้ขนแกะส่วนแรกที่ตัดมาได้ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลือกเขาและบุตรของเขาจากเผ่าพันธุ์ทั้งหมดของท่าน เพื่อประจำการและรับใช้ในพระนามของพระผู้เป็นเจ้าตลอดไป

ถ้าชาวเลวีมาจากเมืองใดก็ตามที่เขาอาศัยอยู่ในอิสราเอล ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะไปยังสถานที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าเลือก เขาก็จะกระทำได้ เขาจะรับใช้ในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเขาได้ เหมือนกับชาวเลวีทั้งปวงที่ประจำการรับใช้ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่นั่น พวกเขาควรจะได้รับส่วนแบ่งรับประทานเท่าๆ กัน นอกจากนั้นเขายังรับผลประโยชน์ที่ได้จากการค้าขายของบรรพบุรุษด้วย

การกระทำอันน่ารังเกียจ

เมื่อท่านก้าวเข้าไปยังแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้ ท่านก็อย่าเรียนรู้วิถีทางอันน่ารังเกียจของบรรดาประชาชาติ แล้วนำมาปฏิบัติตาม 10 อย่าให้พบว่ามีใครในหมู่พวกท่านที่เผาบุตรชายหรือบุตรหญิงของตนเป็นเครื่องสักการะ เป็นผู้ทำนาย หรือใช้เวทมนตร์ หมอดูโชคลาง และผู้ใช้วิทยาคม 11 เป็นผู้สาปแช่ง หรือเป็นคนทรง หรือหมอผี หรือเป็นผู้สื่อกับคนตาย 12 ใครก็ตามที่กระทำสิ่งเหล่านี้เป็นที่น่ารังเกียจต่อพระผู้เป็นเจ้า และเป็นเพราะการกระทำที่น่าชังเหล่านี้ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจึงขับไล่ชนชาติเหล่านั้นไปให้พ้นหน้าท่าน 13 ท่านจงเป็นคนดีเพียบพร้อมทุกประการ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน

ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า

14 บรรดาประชาชาติที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดครองเชื่อพวกใช้เวทมนตร์คาถาและผู้ทำนาย แต่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านไม่ยอมให้ท่านทำเช่นนั้น

15 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะกำหนดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งดังเช่นเราให้แก่ท่าน และท่านผู้นั้นมาจากหมู่พี่น้องของท่านเอง ฉะนั้นจงฟังท่านผู้นั้น[a] 16 ตามที่ท่านต้องการจากพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านที่โฮเรบในวันที่มีประชุมกัน เมื่อท่านกล่าวว่า ‘อย่าให้เราได้ยินเสียงของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราอีก หรือเห็นเพลิงไฟขนาดใหญ่เช่นนี้อีก เพราะเกรงว่าเราจะถึงกาลวิบัติ’ 17 แล้วพระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับเราว่า ‘ทุกสิ่งที่พวกเขาพูดมานั้นถูกต้องทีเดียว 18 เราจะกำหนดผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งดังเช่นเจ้าให้แก่พวกเขา และผู้นั้นจะมาจากหมู่พี่น้องของเขาเอง เขาจะพูดสิ่งที่เราบอกให้พูด และจะพูดทุกสิ่งที่เราสั่งให้เขาพูดกับพวกเขา 19 เขาจะพูดในนามของเรา แต่ถ้าใครก็ตามไม่ฟังคำของเรา เราจะลงโทษผู้นั้น 20 แต่ผู้เผยคำกล่าวผู้ใดกล้าบังอาจพูดในนามของเราโดยที่เราไม่ได้สั่งให้เขาพูด หรือเขาพูดในนามของเทพเจ้าใดๆ เขาจะต้องตาย’ 21 และถ้าท่านคิดในใจว่า ‘เราจะทราบได้อย่างไรว่าผู้เผยคำกล่าวได้รับข้อความมาจากพระผู้เป็นเจ้า 22 เมื่อผู้เผยคำกล่าวพูดในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า แล้วสิ่งที่พูดไม่เกิดขึ้นหรือไม่เป็นจริง แสดงว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่ได้พูด เขาบังอาจพูดด้วยความอาจเอื้อม ท่านไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวเขาเหล่านั้น

สดุดี 105

พระเจ้าและชนชาติของพระองค์

จงขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า ร้องเรียกพระนามของพระองค์
    ให้สิ่งที่พระองค์กระทำเป็นที่รู้จักในบรรดาชนชาติ
จงร้องเพลงถวายแด่พระองค์ จงร้องเพลงสรรเสริญถวายแด่พระองค์
    จงประกาศการกระทำอันมหัศจรรย์ทั้งสิ้นของพระองค์
สรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์ด้วยความภาคภูมิ
    ให้บรรดาผู้แสวงหาพระผู้เป็นเจ้ามีใจยินดีเถิด
จงแสวงหาพระผู้เป็นเจ้าและพละกำลังของพระองค์
    จงเข้าเฝ้าพระองค์เสมอ
จงระลึกถึงสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ได้กระทำ
    สิ่งอัศจรรย์และการพิพากษาลงโทษที่พระองค์กล่าว
โอ บรรดาผู้สืบเชื้อสายของอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
    บรรดาบุตรของยาโคบ คนที่พระองค์เลือก
พระองค์คือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกเรา
    การพิพากษาลงโทษของพระองค์มีอยู่ทั่วทั้งแผ่นดินโลก
พระองค์ระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดกาล
    ระลึกถึงคำบัญชาของพระองค์นานนับพันชั่วอายุคน
พันธสัญญาซึ่งพระองค์ทำไว้กับอับราฮัม
    และสัญญาที่พระองค์ได้ปฏิญาณไว้กับอิสอัค
10 ซึ่งพระองค์ยืนยันว่าเป็นกฎเกณฑ์แก่ยาโคบ
    เป็นพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์แก่อิสราเอล
11 โดยกล่าวว่า “เราจะยกดินแดนคานาอันให้แก่เจ้า
    เป็นส่วนแบ่งที่เจ้าจะได้รับเป็นมรดก”

12 ในเวลาที่พวกเขามีจำนวนน้อย
    เป็นกลุ่มเล็กๆ และอาศัยอยู่ที่นั่นเพียงชั่วคราว
13 ระหกระเหินจากประชาชาติหนึ่งไปยังอีกประชาชาติหนึ่ง
    และจากอาณาจักรหนึ่งไปยังอีกชนชาติหนึ่ง
14 พระองค์ไม่ยอมให้ใครมาบีบบังคับพวกเขา
    พระองค์เตือนบรรดากษัตริย์เพื่อเห็นแก่พวกเขา
15 โดยกล่าวว่า “อย่าแตะต้องบรรดาผู้ที่เราเจิมไว้
    อย่าทำร้ายบรรดาผู้เผยคำกล่าวของเรา”

16 แล้วพระองค์บันดาลให้เกิดทุพภิกขภัยขึ้นในแผ่นดิน
    ผลผลิตที่เป็นอาหารเสียหายหมด
17 แต่พระองค์ใช้ชายผู้หนึ่งไปล่วงหน้าพวกเขา
    คือโยเซฟผู้ถูกขายไปเป็นทาส
18 มีตรวนเหล็กล่ามอยู่ที่เท้า
    ปลอกเหล็กสวมอยู่ที่คอ
19 จนกระทั่งสิ่งที่ท่านพยากรณ์ไว้ได้บังเกิดขึ้นจริง
    คำของพระผู้เป็นเจ้าได้พิสูจน์ให้เห็นว่าท่านถูกต้อง
20 กษัตริย์ให้พาตัวท่านมา และปลดปล่อยตัวไป
    ผู้ปกครองของบรรดาชนชาติได้ปล่อยให้ท่านเป็นอิสระ
21 กษัตริย์แต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้ควบคุมวัง
    และปกครองสมบัติพัสถานทั้งหลาย
22 ท่านบัญชาพวกเจ้าหน้าที่ได้ตามใจชอบ
    และสอนบรรดาผู้อาวุโสให้ใช้สติปัญญา[a]

23 ครั้นแล้วอิสราเอลก็มาถึงประเทศอียิปต์
    ยาโคบตั้งถิ่นฐานในดินแดนของฮาม
24 แล้วพระผู้เป็นเจ้าทำให้ชนชาติของพระองค์เพิ่มพูนจำนวนลูกหลานมากขึ้น
    และมีมากเกินกว่าพวกศัตรูของเขา
25 พระองค์ทำให้จิตใจของชาวอียิปต์เกลียดชังชนชาติของพระองค์
    และปฏิบัติต่อผู้รับใช้ของพระองค์ด้วยเล่ห์อุบาย
26 พระองค์ให้โมเสสผู้รับใช้ของพระองค์ไป
    และอาโรนผู้ที่พระองค์ได้เลือกไว้
27 ทั้งสองท่านได้แสดงสิ่งอัศจรรย์ของพระเจ้าท่ามกลางพวกเขา
    และสิ่งมหัศจรรย์ในดินแดนของฮาม
28 พระองค์ให้มีความมืดและทำให้ดินแดนมืดมิด
    แต่พวกเขาขัดคำสั่งของพระองค์
29 พระองค์ทำให้น้ำที่มีอยู่ของพวกเขากลายเป็นเลือด
    อันเป็นเหตุให้ปลาตาย
30 แผ่นดินของพวกเขาเต็มไปด้วยกบ
    แม้ในห้องพักของเชื้อพระวงศ์
31 เพียงพระองค์กล่าว แมลงเป็นฝูงๆ ก็พากันบินมา
    และตัวริ้นแพร่ขยายไปทั่วอาณาเขตของเขาทั้งปวง
32 พระองค์ทำให้ลูกเห็บตกแทนฝน
    และสายฟ้าแลบแปลบปลาบไปทั่วแผ่นดินของเขา
33 พระองค์ทำลายเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของพวกเขา
    และโค่นต้นไม้ในอาณาเขตของเขาลง
34 เพียงพระองค์กล่าว ฝูงตั๊กแตนก็พากันมา
    มีตั๊กแตนเล็กมากมายจนนับไม่ถ้วน
35 พวกมันกัดกินพืชทั้งหมดในแผ่นดินของเขา
    และกินผลที่ได้จากการเพาะปลูกจนเกลี้ยง
36 พระองค์ผลาญชีวิตลูกหัวปีทุกคนบนแผ่นดิน
    ผลแรกแห่งพละกำลังทั้งปวงของพวกเขา

37 ครั้นแล้วพระองค์ก็นำอิสราเอลไปพร้อมกับเงินและทองคำ
    ไม่มีสักคนในเผ่าของพระองค์ที่ถูกกีดขวาง
38 อียิปต์ดีใจเมื่ออิสราเอลไปจากพวกเขา
    เพราะอิสราเอลทำให้พวกเขาพรั่นพรึง

39 พระองค์คลี่ก้อนเมฆออกเป็นร่มเงา
    แสงจากเพลิงเป็นแสงสว่างในยามค่ำ
40 พวกเขาเรียกร้อง และพระองค์ก็ให้นกกระทา
    และให้รับประทานอาหารที่ตกลงจากฟ้าจนอิ่มหนำ
41 พระองค์แยกหิน แล้วน้ำก็พวยพุ่งออกมา
    ไหลไปรวมเป็นแม่น้ำในที่กันดาร
42 เพราะพระองค์ระลึกถึงคำสัญญาอันบริสุทธิ์ของพระองค์
    และระลึกถึงอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์[b]

43 พระองค์จึงพาชนชาติของพระองค์ไปโดยที่พวกเขารื่นเริงเบิกบาน
    และบรรดาผู้ที่พระองค์เลือกไว้ไปกับเสียงร้องด้วยความยินดี
44 และพระองค์มอบแผ่นดินของประชาชาติให้กับอิสราเอล
    และพวกเขาได้ไร่นาจากบรรดาชนชาติมาเป็นของตน
45 เพื่อชนชาติของพระองค์จะได้รักษากฎเกณฑ์ของพระองค์
    และปฏิบัติตามกฎบัญญัติของพระองค์

จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า[c]

อิสยาห์ 45

ไซรัสเครื่องมือของพระเจ้า

45 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวถึงไซรัสผู้ที่พระองค์เจิมดังนี้
    “เราได้ทำให้มือขวาของเขาแข็งแกร่ง
เพื่อปราบบรรดาประชาชาติที่อยู่ตรงหน้าเขา
    และเพื่อปลดอำนาจของบรรดากษัตริย์
เพื่อเปิดประตูที่อยู่ข้างหน้าเขา
    และประตูเมืองจะไม่ปิดกั้นเขา”

พระองค์กล่าวกับไซรัส

“เราจะไปเบื้องหน้าเจ้า
    และทำที่สูงให้ราบ
เราจะพังประตูทองสัมฤทธิ์ให้เป็นชิ้นๆ
    และหักซี่ลูกกรงเหล็ก
เราจะให้ของล้ำค่าที่อยู่ในที่มืดแก่เจ้า
    และให้ความมั่งคั่งที่สะสมไว้ในที่ลี้ลับ
เพื่อเจ้าจะได้รู้ว่า เรานี่แหละคือพระผู้เป็นเจ้า
    พระเจ้าของอิสราเอล ที่เรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า
เพื่อยาโคบผู้รับใช้ของเรา
    และอิสราเอลผู้ที่เราเลือก
เราเรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า
    เราตั้งชื่อให้แก่เจ้า แม้ว่าเจ้าจะไม่เคยรู้จักเราก็ตาม
เราคือพระผู้เป็นเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
    นอกจากเราแล้ว ไม่มีพระเจ้า
เราเตรียมเจ้าให้พร้อม
    แม้ว่าเจ้าจะไม่เคยรู้จักเราก็ตาม
เพื่อว่า นับจากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น
    จรดทิศที่ดวงอาทิตย์ตก
พวกเขาจะได้รู้ว่า ไม่มีผู้ใดอีกนอกจากเราเท่านั้น
    เราคือพระผู้เป็นเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
เราทำให้เกิดความสว่างขึ้น และสร้างความมืด
    เราทำให้เกิดความสมบูรณ์พูนสุข และให้มีความวิบัติ
    เราคือพระผู้เป็นเจ้าผู้กระทำสิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้น

โอ ฟ้าสวรรค์จงโปรยฝนจากเบื้องบน
    และให้หมู่เมฆหลั่งความชอบธรรมลงมา
ให้แผ่นดินโลกเปิดรับ เพื่อความรอดพ้นและความชอบธรรมจะได้เกิดผล
    งอกเงยบนแผ่นดินโลก
    เราคือพระผู้เป็นเจ้าผู้ได้สร้างมันขึ้นมา

วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่ฮึดฮัดต่อองค์ผู้ปั้นเขาขึ้นมา
    ภาชนะดินเผาใบหนึ่งในบรรดาเครื่องปั้นดินเผาที่ทำขึ้นจากดิน
ดินเหนียวจะพูดกับผู้ปั้นหรือว่า
    ‘ท่านกำลังปั้นอะไรอยู่’[a]
หรือจะพูดว่า
    ‘ผลงานของท่านไม่มีหูจับ’
10 วิบัติจงเกิดแก่ผู้ที่พูดกับบิดาว่า
    ‘ท่านกำลังให้กำเนิดใคร’
หรือพูดกับฝ่ายหญิงว่า
    ‘ท่านกำลังจะคลอดใคร’”

11 พระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
    และเป็นผู้ที่ปั้นเขากล่าวว่า
“จงถามเราถึงสิ่งที่จะมาในภายหน้า
    พวกเจ้าถามเราเรื่องลูกๆ ของเรา
    และสั่งเราเรื่องผลงานของเราหรือ
12 เราสร้างแผ่นดินโลก
    และสร้างมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลก
เราแผ่ฟ้าสวรรค์ออกไปด้วยมือของเราเอง
    และเราบัญชาหมู่ดาวทั้งปวง
13 เราได้กระตุ้นเขาด้วยความชอบธรรมของเรา
    และเราจะทำวิถีทางของเขาให้เรียบตรง
เขาจะสร้างเมืองของเรา
    และปลดปล่อยบรรดาผู้ลี้ภัยของเราให้มีอิสระ
โดยปราศจากสินบนหรือรางวัล”
    พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น

พระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้ช่วยให้รอดพ้น

14 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า

“ความมั่งคั่งของอียิปต์ สินค้าของคูช
    และชาวเส-บาผู้มีร่างสูงใหญ่
จะมาหาเจ้า และจะอยู่ในอาณัติของเจ้า
    พวกเขาจะตามเจ้าไป
    และจะถูกล่ามโซ่มา และก้มกราบเจ้า
พวกเขาจะขอร้องเจ้าว่า
    ‘พระเจ้าสถิตกับท่านอย่างแน่นอน และไม่มีผู้อื่นอีก
    ไม่มีพระเจ้าใดนอกจากพระองค์’”

15 แน่ทีเดียว พระองค์เป็นพระเจ้าผู้ซ่อนพระองค์เอง
    โอ พระเจ้าของอิสราเอล องค์ผู้ช่วยให้รอดพ้น
16 พวกที่สร้างรูปเคารพจะต้องอับอายและอดสู
    พวกเขาจะสับสนไปด้วยกัน
17 แต่อิสราเอลได้รับความรอดจากพระผู้เป็นเจ้า
    ด้วยความรอดพ้นอันเป็นนิรันดร์
เจ้าจะไม่ประสบกับความอับอาย
    หรืออดสูชั่วกัปชั่วกัลป์

18 พระผู้เป็นเจ้า องค์ผู้สร้างฟ้าสวรรค์
    พระองค์เป็นพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียว
ผู้ปั้นแผ่นดินโลกให้เป็นรูปเป็นร่าง
    พระองค์สร้างมันขึ้นมา
พระองค์ไม่ได้บันดาลให้โลกว่างเปล่า
    พระองค์สร้างมันขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัย
พระองค์กล่าวดังนี้ว่า
    “เราคือพระผู้เป็นเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
19 เราไม่ได้พูดในที่ลับ
    ในดินแดนของความมืด
เราไม่ได้พูดกับบรรดาผู้สืบเชื้อสายของยาโคบว่า
    ‘จงแสวงหาเราในความว่างเปล่า’
เราคือพระผู้เป็นเจ้าผู้พูดความจริง
    เราประกาศสิ่งที่ถูกต้อง

20 จงประชุมร่วมกันและมาเถิด
    พวกเจ้าผู้ลี้ภัยของบรรดาประชาชาติ
จงร่วมชุมนุมกัน
    พวกที่แบกรูปเคารพสลักขาดความรู้
และอธิษฐานต่อเทพเจ้า
    ที่ไม่สามารถช่วยให้รอดพ้นได้
21 จงประกาศและเบิกความ
    ให้พวกเขาปรึกษากัน
ใครบอกเรื่องนี้นานมาแล้ว
    ใครประกาศตั้งแต่กาลโน้น
ไม่ใช่พระผู้เป็นเจ้าหรอกหรือ เราเองนั่นแหละ
    นอกจากเราแล้ว ไม่มีพระเจ้าอื่นใดอีก
พระเจ้าผู้มีความชอบธรรมและเป็นผู้ช่วยให้รอดพ้น
    ไม่มีใครอีกนอกจากเรา

22 ทั่วทุกแหล่งหล้าเอ๋ย
    จงหันเข้าหาเรา และรับความรอดเถิด
    เพราะเราคือพระเจ้า และไม่มีผู้อื่นอีก
23 เราได้ปฏิญาณโดยตัวเราเอง
    ปากของเรากล่าวคำที่พูดออกไปด้วยความชอบธรรม
    ซึ่งจะไม่หวนกลับ
‘ทุกคนจะคุกเข่าลงต่อหน้าเรา
    ทุกลิ้นจะสาบานตนยอมรับเรา’[b]
24 พวกเขาจะพูดถึงเราว่า ความชอบธรรมและพลานุภาพ
    เป็นของพระผู้เป็นเจ้าแต่เพียงผู้เดียว”
ทุกคนที่เกรี้ยวกราดใส่พระองค์
    จะมาหาพระองค์และจะอับอาย
25 แต่ผู้สืบเชื้อสายของอิสราเอลทั้งปวง
    จะพ้นผิดและจะโห่ร้องร่วมกันในพระผู้เป็นเจ้า

วิวรณ์ 15

ทูตสวรรค์ 7 องค์และภัยพิบัติ 7 อย่าง

15 ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็เห็นปรากฏการณ์อัศจรรย์อันยิ่งใหญ่และวิเศษยิ่งในสวรรค์อีกประการหนึ่งคือ ทูตสวรรค์ 7 องค์ถือภัยพิบัติ 7 อย่าง ซึ่งเป็นภัยพิบัติสุดท้าย เพราะการลงโทษของพระเจ้าสิ้นสุดลงด้วยภัยพิบัติเหล่านั้น

ข้าพเจ้าเห็นสิ่งหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นทะเลแก้วปนไฟ และมีบรรดาผู้ที่ได้มีชัยชนะต่ออสุรกาย ต่อรูปจำลองของตัวมัน และมีชัยชนะต่อหมายเลขอันแสดงถึงชื่อของมัน ยืนอยู่บนฝั่งทะเลแก้วนั้นพร้อมทั้งถือพิณของพระเจ้า เขาเหล่านั้นร้องเพลงของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า และเพลงของลูกแกะว่า

“พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจอมโยธา
    สิ่งที่พระองค์กระทำนั้นยิ่งใหญ่และวิเศษยิ่งนัก
พระองค์เป็นกษัตริย์แห่งประเทศทั้งปวง
    วิธีการของพระองค์ยุติธรรมและเป็นจริง
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า มีใครบ้างที่ไม่เกรงกลัวพระองค์
    และไม่ถวายพระบารมีแด่พระนามของพระองค์
    ด้วยว่าพระองค์เพียงผู้เดียวที่บริสุทธิ์
ทุกประเทศจะมานมัสการ ณ เบื้องหน้าพระองค์
    ด้วยว่าการกระทำอันชอบธรรมของพระองค์เป็นที่ประจักษ์แล้ว”

หลังจากนั้นข้าพเจ้าก็มองดู และพระวิหารคือกระโจมแห่งสักขีพยานในสวรรค์ก็เปิดออก ทูตสวรรค์ 7 องค์ซึ่งนุ่งห่มด้วยผ้าป่านสะอาดและสุกใส ถือภัยพิบัติ 7 อย่างออกมาจากพระวิหาร และที่หน้าอกคาดด้วยรัดประคดทองคำ สิ่งมีชีวิตหนึ่งในสี่นั้นได้นำขันทองคำ 7 ใบซึ่งเปี่ยมไปด้วยการลงโทษของพระเจ้าผู้มีชีวิตชั่วนิรันดร์กาล ส่งให้แก่ทูตสวรรค์ทั้งเจ็ด พระวิหารก็อบอวลด้วยควันซึ่งมาจากพระบารมีของพระเจ้าและจากอานุภาพของพระองค์ และไม่มีใครสามารถเข้าไปในพระวิหารได้ จนกว่าภัยพิบัติทั้งเจ็ดของทูตสวรรค์ 7 องค์จะสิ้นสุดลง

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation