M’Cheyne Bible Reading Plan
นมัสการบรรดาเทพเจ้า
13 ถ้าเกิดมีใครสักคนเป็นผู้เผยคำกล่าว หรือเป็นผู้ทำนายฝันมาปรากฏ และบอกท่านเรื่องหมายสำคัญหรือสิ่งมหัศจรรย์ 2 แล้วหมายสำคัญหรือสิ่งมหัศจรรย์ที่เขาบอกท่านก็เกิดขึ้นจริง และถ้าหากเขาพูดว่า ‘เราหันไปเชื่อบรรดาเทพเจ้ากันเถิด (และท่านเองก็ไม่รู้จักมาก่อน) แล้วเราไปนมัสการกันเถิด’ 3 อย่าฟังถ้อยคำของผู้เผยคำกล่าวหรือผู้ทำนายฝันคนนั้น เพราะว่าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านกำลังลองใจว่า ท่านรักพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอย่างสุดดวงใจและสุดดวงจิตของท่านหรือไม่ 4 ท่านจงดำเนินชีวิตตามพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านและเกรงกลัวพระองค์ ปฏิบัติตามพระบัญญัติและเชื่อฟังพระองค์ จงรับใช้และผูกพันอยู่กับพระองค์ 5 ส่วนผู้เผยคำกล่าวหรือผู้ทำนายฝันจะต้องถูกประหาร เพราะเขาสั่งสอนให้ขัดขืนพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของพวกท่าน ผู้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ และให้ท่านหลุดพ้นจากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส เขาทำให้ท่านละจากวิถีทางซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านบัญชาท่านให้ดำเนินตาม ฉะนั้นท่านจงกำจัดคนชั่วร้ายออกไปจากพวกท่าน
6 ถ้าพี่ชายน้องชายของท่านที่เกิดจากมารดาเดียวกัน หรือบุตรชายบุตรหญิงของท่าน หรือภรรยาสุดที่รักของท่านหรือเพื่อนสนิทที่รู้ใจ มาแอบลวงล่อใจท่านว่า ‘เราไปนมัสการบรรดาเทพเจ้ากันเถิด’ ซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จักมาก่อน 7 ปวงเทพเจ้าของบรรดาประชาชาติที่อยู่รายรอบท่าน ไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลจากตัวท่าน คือไม่ว่าที่ใดในโลกก็ตาม 8 ท่านจะต้องไม่คล้อยตามหรือฟังเขา หรือใจอ่อนสงสารเขา และอย่าแสดงความเมตตาต่อเขาหรือปกปิดความผิดของเขา 9 แต่ท่านจงฆ่าเขา ท่านจงเป็นคนแรกที่ลงมือกำจัดชีวิตเขาเสีย หลังจากนั้นก็ให้คนอื่นลงมือได้ 10 ท่านจงใช้ก้อนหินขว้างให้เขาตาย เพราะเขาพยายามดึงท่านให้ออกห่างจากพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ผู้นำท่านออกจากแผ่นดินอียิปต์ จากบ้านเรือนแห่งความเป็นทาส 11 และชาวอิสราเอลทั้งปวงจะได้ยินเรื่องราวและเกรงกลัว แล้วจะไม่กระทำความชั่วเช่นนี้ในหมู่พวกท่านอีก
12 ถ้าท่านได้ยินว่าเมืองใดเมืองหนึ่งที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านให้ท่านอาศัยอยู่ 13 มีคนชั่วมาจากพวกท่านเอง ทำให้ประชาชนในเมืองของพวกเขาหลงผิด โดยพูดว่า ‘เราไปนมัสการบรรดาเทพเจ้ากันเถิด’ ซึ่งท่านไม่รู้จักมาก่อน 14 ฉะนั้นแล้ว ท่านจงไต่ถาม สืบเสาะและสืบสวนให้แน่ชัด ถ้าเป็นความจริงและแน่ใจว่าสิ่งที่น่ารังเกียจเช่นนั้นได้เกิดขึ้นในหมู่พวกท่านจริง 15 ท่านจงฆ่าฟันประชาชนในเมืองนั้น กำจัดทุกคนที่อยู่ที่นั่นรวมทั้งสัตว์เลี้ยงให้ราบคาบด้วยคมดาบ 16 รวบรวมข้าวของที่ริบได้มาไว้ที่กลางลานเมือง จงเผาเมืองและข้าวของที่ริบได้ ดังเช่นสัตว์ทั้งตัวที่เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ให้เป็นกองสลักหักพังเป็นนิตย์ ไม่มีการก่อสร้างขึ้นใหม่อีก 17 อย่าให้สิ่งที่ถวายแล้วติดมือติดไม้ไปกับท่านเลย เพื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าจะหันเหจากความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์ และมีเมตตาต่อท่าน สงสารท่าน และเพิ่มจำนวนทายาทของพวกท่านมากขึ้น ตามที่พระองค์ปฏิญาณต่อบรรพบุรุษของท่าน 18 เพราะท่านเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน โดยปฏิบัติตามพระบัญญัติซึ่งเราบัญชาท่านในวันนี้ และประพฤติตามสิ่งที่ถูกที่ควรตามสายตาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
อาหารที่สะอาดและที่มีมลทิน
14 พวกท่านเป็นบุตรของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน อย่ากรีดเนื้อหนังหรือโกนหน้าผากตนเองให้โล้นเพื่อคนตาย 2 ด้วยว่า ท่านเป็นชนชาติบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และพระผู้เป็นเจ้าได้เลือกท่านให้เป็นชนชาติหนึ่งจากชนชาติทั้งปวงบนแผ่นดินโลก เพื่อให้เป็นสมบัติอันมีค่าของพระองค์
3 ห้ามรับประทานสิ่งที่น่ารังเกียจ 4 เนื้อสัตว์ที่ท่านรับประทานได้คือ โค แกะ แพะ 5 กวาง ละองละมั่ง เก้ง แพะป่า เลียงผา ละมั่งน้อย และแกะป่า 6 สัตว์เลี้ยงทุกชนิดที่แยกกีบคือแยกเป็น 2 กีบและเคี้ยวเอื้อง ท่านรับประทานได้ 7 อย่างไรก็ตาม ห้ามรับประทานสัตว์บางชนิดที่เพียงเคี้ยวเอื้องหรือเพียงมีกีบแยกเป็นสองคือ อูฐ กระต่าย และตัวแบดเจอร์ เพราะสัตว์จำพวกนี้เคี้ยวเอื้องแต่ไม่แยกกีบ ซึ่งเป็นมลทินสำหรับท่าน 8 และหมู เพราะมันแยกกีบแต่ไม่เคี้ยวเอื้องซึ่งเป็นมลทินสำหรับท่าน ห้ามรับประทานเนื้อสัตว์ประเภทเหล่านี้ และอย่าแตะต้องซากของมัน
9 สัตว์น้ำที่ท่านรับประทานได้คือ สัตว์ทุกชนิดที่มีครีบและเกล็ด 10 ส่วนสัตว์ที่ไม่มีครีบและเกล็ด ห้ามรับประทาน เพราะเป็นมลทินสำหรับท่าน
11 ท่านรับประทานนกทุกชนิดที่ไม่มีมลทินได้ 12 นกที่ท่านไม่ควรรับประทานคือ นกอินทรี แร้งหนวดยาว แร้งดำ 13 เหยี่ยวแดง เหยี่ยวดำ เหยี่ยวนกเขาชนิดใดก็ตาม 14 อีกาทุกชนิด 15 นกกระจอกเทศ นกเค้าเหยี่ยว นกนางนวล และเหยี่ยวชนิดใดก็ตาม 16 นกเค้าแมวน้อย นกเค้าแมวใหญ่ นกเค้าแมวขาว 17 นกกระทุง อีแร้งกินซากศพ นกงั่วกินปลา 18 นกกระสา นกกระยางชนิดใดก็ตาม นกกะรางหัวขวาน และค้างคาว 19 และแมลงมีปีกทุกชนิดเป็นมลทินสำหรับท่าน ห้ามรับประทาน 20 สิ่งที่มีปีกทุกชนิดที่สะอาด ท่านรับประทานได้
21 ห้ามรับประทานสิ่งที่ตายเอง ท่านให้คนพลัดถิ่นที่อยู่ในเมืองของท่านรับประทานได้ หรือขายให้แก่ชนชาติอื่นได้ เพราะท่านเป็นชนชาติบริสุทธิ์ต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน อย่าต้มลูกแพะในน้ำนมของแม่มัน[a]
การให้หนึ่งในสิบ
22 ท่านจงมอบหนึ่งในสิบของพืชผลจากไร่นาของท่านที่ผลิตได้ในแต่ละปี 23 และท่านจงรับประทานธัญพืช เหล้าองุ่น น้ำมัน ลูกหัวปีจากฝูงโคและฝูงแพะแกะของท่านที่เป็นหนึ่งในสิบ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านในที่ซึ่งพระองค์จะเลือกเพื่อยกย่องพระนามของพระองค์ที่นั่น เพื่อท่านจะได้รู้จักเกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเป็นนิตย์ 24 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านอวยพรท่านด้วยพืชผล แต่ถ้าระยะทางที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลือก เพื่อให้เป็นที่สำหรับยกย่องพระนามของพระองค์นั้นไกลเกินกว่าที่ท่านจะสามารถนำหนึ่งในสิบมาได้ 25 ท่านก็จงขายพืชผลส่วนนั้น ได้เป็นเหรียญเงินเก็บไว้ แล้วนำไปยังที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลือก 26 และใช้เงินนั้นสำหรับจ่ายค่าโค แพะแกะ เหล้าองุ่นหรือสุรา อะไรก็ตามที่ท่านและครอบครัวท่านอยากรับประทาน ท่านจะรับประทานและยินดีอยู่ที่นั่น ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน 27 ท่านอย่าทอดทิ้งชาวเลวีซึ่งอยู่ในเมืองของท่าน เพราะเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกร่วมกับท่าน
28 ทุกๆ ปลายปีที่สามท่านจงนำหนึ่งในสิบของจำนวนพืชผลที่ได้จากปีที่สาม และเก็บไว้ในที่เก็บของในเมือง 29 บรรดาผู้ที่จะมารับประทานอย่างอิ่มหนำคือ ชาวเลวี (เพราะเขาไม่ได้รับส่วนแบ่งหรือมรดกเป็นของตนเอง) ชาวต่างด้าว เด็กกำพร้า และหญิงม่ายซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองของท่าน เพื่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะอวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำ
พระผู้เป็นเจ้าเป็นกษัตริย์สูงสุด
1 พระผู้เป็นเจ้าครอบครองบัลลังก์
ให้บรรดาชนชาติตัวสั่นครั่นคร้าม
พระองค์สถิตบนบัลลังก์เหนือตัวเครูบ
ให้แผ่นดินโลกสะเทือนเลื่อนลั่น
2 พระผู้เป็นเจ้าใหญ่ยิ่งในศิโยน
พระองค์ถูกเชิดชูเหนือชนชาติทั้งปวง
3 ให้พวกเขาสรรเสริญพระนามของพระองค์ องค์ผู้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม
พระองค์บริสุทธิ์
4 กษัตริย์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพรักความเป็นธรรม
พระองค์สร้างความยุติธรรม
พระองค์ได้แสดงความเป็นธรรม
และความชอบธรรมแก่ยาโคบ[a]
5 จงยกย่องพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
และกราบนมัสการ ณ ที่วางเท้าของพระองค์
พระองค์บริสุทธิ์
6 โมเสสและอาโรนอยู่ในบรรดาปุโรหิตของพระองค์
ซามูเอลอยู่ในบรรดาผู้ร้องเรียกพระนามของพระองค์
ท่านเหล่านี้ได้ร้องบอกพระผู้เป็นเจ้า
และพระองค์ก็ตอบท่าน
7 พระองค์กล่าวกับท่านเหล่านั้นจากเสาเมฆก้อนมหึมา
ท่านรักษาคำสั่งของพระองค์
และกฎเกณฑ์ที่พระองค์บัญชาไว้
8 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา พระองค์ตอบชนชาติของพระองค์
พระองค์เป็นพระเจ้าผู้พรั่งพร้อมด้วยการให้อภัย
และลงโทษเมื่อพวกเขากระทำบาป
9 จงยกย่องพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
และกราบนมัสการ ณ ภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์
เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราบริสุทธิ์
รับใช้พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดี
เพลงสดุดีแห่งการขอบคุณ
1 ทั่วทั้งโลกเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าเถิด
2 รับใช้พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดี
เข้าเฝ้าพระองค์ด้วยการร้องเพลง
3 จงรู้เถิดว่าพระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้า
พระองค์เป็นผู้สร้างพวกเรา และเราเป็นคนของพระองค์
เป็นชนชาติของพระองค์ และเป็นฝูงแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์
4 เข้าสู่ประตูของพระองค์ด้วยใจขอบคุณ
เข้าสู่ลานพระตำหนักของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ
ขอบคุณพระองค์ และสรรเสริญพระนามของพระองค์
5 เพราะพระผู้เป็นเจ้าประเสริฐ
ความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
ความสัตย์จริงของพระองค์ยืนยงไปทุกชั่วอายุคน
สัจจะของกษัตริย์
เพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักอันมั่นคงและความเป็นธรรม
โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะบรรเลงเพลงถวายแด่พระองค์
2 ข้าพเจ้าจะใส่ใจในวิถีทางแห่งสัจจะ
เมื่อใดเล่าพระองค์จึงจะมาเยือนข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าใช้สัจจะเป็นเครื่องดำเนินชีวิต
ภายในเรือนของข้าพเจ้า
3 ข้าพเจ้าจะไม่ข้องแวะกับสิ่งเลวใดๆ
ข้าพเจ้าเกลียดการกระทำความชั่วของคน
และข้าพเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
4 ข้าพเจ้าอยู่ห่างจากคนมีใจลวงหลอก
ข้าพเจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งเลวร้าย
5 ใครก็ตามที่แอบว่าร้ายเพื่อนบ้านของตน
ข้าพเจ้าก็จะไม่ไว้ชีวิตเขา
ข้าพเจ้าจะไม่ยอมทนกับคน
ที่มีสายตาหยิ่งจองหองและมีใจยโส
6 ข้าพเจ้าหมายตาคนภักดีในแผ่นดิน
เพื่อให้เขาอาศัยอยู่กับข้าพเจ้า
คนที่ดำเนินชีวิตโดยปราศจากข้อตำหนิ
จะปรนนิบัติข้าพเจ้า
7 ไม่มีคนพูดเท็จคนใดจะอาศัยในเรือนของข้าพเจ้าได้
คนโป้ปดไม่มีวันยืนอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้าได้นาน
8 ทุกๆ เช้า ข้าพเจ้าไม่ไว้ชีวิตคนชั่วร้ายทั้งปวง
ในแผ่นดิน
ข้าพเจ้าจะกำจัดบรรดาคนทำชั่ว
ให้ไปเสียจากเมืองของพระผู้เป็นเจ้า[b]
อย่ากลัวเลย เพราะเราอยู่กับเจ้า
41 “โอ หมู่เกาะทั้งหลายเอ๋ย จงนิ่งเงียบต่อหน้าเรา
ให้บรรดาชนชาติเสริมสร้างพลังของพวกเขาขึ้นใหม่
ให้พวกเขาเข้ามาใกล้ แล้วก็ให้พวกเขาพูด
เราเข้ามาร่วมชุมนุมกันในที่พิพากษาเถิด
2 ใครกระตุ้นชายคนหนึ่งจากทิศตะวันออก
เขาประสบชัยชนะทุกก้าวของเขา
บรรดาประชาชาติถูกมอบไว้ในมือของเขา
เพื่อให้เขาเหยียบย่ำบรรดากษัตริย์
เขาปราบพวกเขาด้วยดาบเหมือนฝุ่น
และขับไล่พวกเขาไปด้วยคันธนูของเขาเหมือนแกลบ
3 เขาตามล่าและดำเนินผ่านพ้นไปอย่างปลอดภัย
และเดินในทางที่เขาไม่เคยเหยียบย่างมาก่อน
4 ใครเป็นผู้กระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความสำเร็จ
ผู้ที่เรียกทุกชั่วอายุคนออกมานับแต่ครั้งปฐมกาล
เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราอยู่กับชั่วอายุแรก
และเราจะอยู่กับชั่วอายุสุดท้าย เราคือผู้นั้น”
5 หมู่เกาะต่างๆ ได้เห็นแล้ว และเกรงกลัว
แดนไกลสุดขอบโลกสั่นสะเทือน
พวกเขาได้เข้ามาใกล้ และก็ถึงแล้ว
6 ทุกคนต่างช่วยเหลือเพื่อนบ้านของตน
และพูดต่อกันและกันว่า “จงเข้มแข็งเถิด”
7 ช่างฝีมือให้กำลังใจช่างทอง
และผู้ที่ใช้ค้อนทุบให้เรียบกระตุ้นผู้ที่ตีทั่ง
เขาบอกผู้ที่เชื่อมโลหะว่า “งานออกมาดี”
พวกเขาตอกตะปูรูปเคารพให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้มันขยับเขยื้อน
8 “แต่อิสราเอล เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
ยาโคบผู้ที่เราได้เลือก
เชื้อสายของอับราฮัมสหายของเรา
9 เราเอาตัวเจ้าออกมาจากแดนไกลสุดขอบโลก
และเรียกจากที่ไกลสุดของโลก
เราบอกเจ้าว่า ‘เจ้าเป็นผู้รับใช้ของเรา
เราได้เลือกเจ้า และไม่ได้ปฏิเสธเจ้า’
10 ไม่ต้องกลัว เพราะเราอยู่กับเจ้า
อย่าหวั่นกลัว เพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้า
เราจะเสริมกำลังแก่เจ้า เราจะช่วยเจ้า
เราจะประคองเจ้าด้วยมือขวาอันชอบธรรมของเรา
11 ดูเถิด ทุกคนที่เกรี้ยวกราดเจ้า
จะได้รับความอับอายและสับสน
บรรดาผู้ที่ต่อต้านเจ้า
จะทำสิ่งใดไม่ได้และจะสิ้นชีวิต
12 เจ้าจะค้นหาพวกที่ราวีเจ้า
แต่เจ้าจะหาไม่พบ
พวกที่สู้รบกับเจ้า
จะทำสิ่งใดไม่ได้เลย
13 เพราะเราคือพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า
เราจูงมือขวาของเจ้า
เรานี่แหละพูดกับเจ้าว่า ‘อย่ากลัวเลย
เราเป็นผู้ที่ช่วยเจ้า’
14 อย่ากลัวเลย ยาโคบ เจ้าเป็นเหมือนหนอนตัวหนึ่ง
โอ อิสราเอลผู้น้อย
พระผู้เป็นเจ้าประกาศว่า เราเป็นผู้ที่ช่วยเจ้า
ผู้ไถ่ของเจ้าคือองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
15 ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าเป็นเครื่องนวดข้าวใหม่
ทั้งคมและมีฟัน
เจ้าจะนวดบดเทือกเขา
และเจ้าจะทำให้เนินเขาเป็นเหมือนแกลบ
16 เจ้าจะฝัดร่อนพวกเขา และลมจะพัดพาพวกเขาไปเสีย
และพายุอันแรงกล้าจะทำให้พวกเขากระจัดกระจายไป
และเจ้าจะยินดีในพระผู้เป็นเจ้า
เจ้าจะอยู่ใต้ร่มพระบารมีขององค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
17 เมื่อผู้ขัดสนและยากไร้เสาะหาน้ำ
แต่ก็ไม่มีน้ำ
และลิ้นของพวกเขาแห้งผากด้วยความกระหาย
เราผู้เป็นพระผู้เป็นเจ้าจะตอบพวกเขา
เราผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอลจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา
18 เราจะทำให้แม่น้ำหลายสายไหลบนที่ราบสูง
และน้ำพุพุ่งในท่ามกลางหุบเขา
เราจะทำให้มีแอ่งน้ำในถิ่นทุรกันดาร
และแหล่งน้ำพุบนแผ่นดินอันแห้งแล้ง
19 เราจะให้มีต้นซีดาร์ ต้นสีเสียด ต้นเมอร์เทิล และต้นมะกอก
ในถิ่นทุรกันดาร
เราจะให้มีทั้งต้นสน ต้นเพลน และต้นสนไซเปร็ส
ขึ้นด้วยกันในทะเลทราย
20 เพื่อพวกเขาจะเห็นและทราบ
จะพิจารณาและเข้าใจด้วยกันว่า
พระผู้เป็นเจ้าได้กระทำสิ่งเหล่านี้ด้วยมือของพระองค์
องค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอลได้บันดาลให้มีขึ้นมา”
รูปเคารพที่ไร้ประโยชน์
21 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้
“ยื่นคำร้องของเจ้าเถิด”
กษัตริย์ของยาโคบกล่าวว่า
“นำข้อพิสูจน์ของเจ้ามา”
22 ให้พวกเขานำรูปเคารพมา
และบอกพวกเราว่าอะไรจะเกิดขึ้น
บอกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา
เพื่อพวกเราจะได้พิจารณา
และจะได้ทราบผลลัพธ์
หรือแจ้งให้พวกเราทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
23 จงบอกพวกเราว่า อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้
เพื่อจะได้ทราบว่าพวกท่านเป็นเทพเจ้า
กระทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งสิ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย
พวกเราจะได้ตกใจกลัวและหวาดหวั่นพรั่นพรึง
24 ดูเถิด พวกท่านไม่สามารถกระทำสิ่งใดได้
และการงานของท่านเปล่าประโยชน์ยิ่งกว่าศูนย์
ผู้ที่เลือกท่านเป็นผู้ที่น่ารังเกียจ
25 “เรากระตุ้นคนหนึ่งจากทิศเหนือ และเขาก็มาแล้ว
จากทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น และเขาจะร้องเรียกนามของเรา
เขาจะเหยียบย่ำบรรดาผู้อยู่ในระดับปกครองราวกับว่าพวกเขาเป็นปูนสอ
ประหนึ่งว่าเขาเป็นช่างปั้นหม้อเหยียบย่ำดินเหนียว”
26 ใครแจ้งเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม พวกเราจึงจะได้ทราบกัน
หรือเล่าล่วงหน้า พวกเราจึงจะพูดได้ว่า “ท่านถูกต้อง”
ไม่มีใครที่ประกาศ
ไม่มีใครที่แจ้ง
ไม่มีใครที่ได้ยินคำพูดของท่าน
27 “เราเป็นผู้แรกที่บอกศิโยนว่า ‘ดูเถิด นี่ไงพวกเขาอยู่นี่’
และเรามอบผู้ประกาศข่าวประเสริฐให้แก่เยรูซาเล็ม
28 แต่เมื่อเรามองดู ก็ไม่มีใครเลย
ไม่มีรูปเคารพใดเป็นที่ปรึกษาได้
ที่ตอบคำถามเราได้
29 ดูเถิด รูปเคารพเหล่านี้ไร้ประโยชน์
ไม่ปรากฏผลแต่อย่างไร
รูปเคารพที่หล่อขึ้นเป็นเพียงลมที่ว่างเปล่า
พยานทั้งสอง
11 ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็ได้รับไม้วัดที่ดูเหมือนไม้เท้าอันหนึ่ง พร้อมกับมีเสียงพูดกับข้าพเจ้าว่า “จงไปวัดขนาดพระวิหารของพระเจ้าและแท่นบูชา แล้วนับจำนวนคนที่นมัสการในนั้น 2 แต่ไม่รวมลานรอบนอกพระวิหาร ไม่ต้องวัดที่นั่นเพราะเป็นส่วนที่ได้ให้แก่บรรดาคนนอกแล้ว พวกเขาจะเหยียบย่ำเมืองบริสุทธิ์เป็นเวลา 42 เดือน 3 และเราจะให้อำนาจแก่พยานทั้งสองของเรา ไปประกาศสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยให้ทราบเป็นเวลา 1,260 วัน เขาจะสวมผ้ากระสอบ”
4 เขาทั้งสองคือ ต้นมะกอก 2 ต้น และคันประทีป 2 คันที่ยืนอยู่เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินโลก 5 ถ้าผู้ใดอยากจะทำร้ายเขา ก็จะเกิดไฟพลุ่งออกจากปากของเขาทั้งสอง แล้วทำลายศัตรูไปเสีย ถ้าผู้ใดอยากจะทำร้ายเขา ก็จะต้องถูกฆ่าตายโดยวิธีนี้ 6 ทั้งสองมีอานุภาพที่จะปิดท้องฟ้า เพื่อไม่ให้ฝนตกในขณะที่เขากำลังประกาศสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยให้ทราบ เขามีอานุภาพที่ทำให้น้ำกลายเป็นเลือดได้ และทำให้ภัยพิบัติทุกชนิดบังเกิดแก่โลกกี่ครั้งก็ได้ 7 เมื่อเสร็จสิ้นการยืนยันของเขาแล้ว อสุรกายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก ก็จะทำสงครามกับเขาทั้งสองจนชนะและฆ่าเขาเสีย 8 และร่างอันไร้ชีวิตของเขาจะอยู่บนถนนในเมืองอันยิ่งใหญ่ที่พระผู้เป็นเจ้าของเขาถูกตรึงบนไม้กางเขนด้วย ชื่อของเมืองนี้เปรียบเทียบโดยฝ่ายวิญญาณได้เหมือนกับโสโดมและอียิปต์ 9 บรรดาผู้ที่มาจากชนชาติ เผ่า ภาษา และประเทศต่างๆ จะมองดูร่างอันไร้ชีวิตของเขาเป็นเวลาสามวันครึ่ง และจะไม่ยอมให้ร่างที่ไร้ชีวิตของเขาฝังไว้ในถ้ำ 10 คนทั้งปวงที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินโลกจะร่าเริงใจกับความตายของเขา พวกเขาจะเฉลิมฉลองและมอบของขวัญให้กันและกัน เพราะผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าทั้งสองคนได้นำความทุกข์ทรมานมาให้คนที่อาศัยอยู่บนแผ่นดินโลก 11 แต่หลังจากสามวันครึ่งผ่านพ้นไปแล้ว ลมหายใจแห่งชีวิตจากพระเจ้าก็จะเข้าสู่ตัวเขาทั้งสอง และเขาจะลุกขึ้น ส่วนพวกที่เห็นก็จะพากันหวาดกลัว 12 เขาได้ยินเสียงดังจากสวรรค์กล่าวกับเขาว่า “ขึ้นมาที่นี่เถิด” แล้วพวกศัตรูก็เห็นเขาลอยขึ้นไปในหมู่เมฆสู่สวรรค์ 13 ในขณะนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ หนึ่งในสิบส่วนของเมืองก็ถล่มลง และคน 7,000 คนตายเพราะแผ่นดินไหว ส่วนคนที่เหลืออยู่ก็ตกใจกลัว และได้ถวายพระบารมีแด่พระเจ้าแห่งสวรรค์
14 ความวิบัติอย่างที่สองก็ผ่านไปแล้ว ดูเถิด ความวิบัติอย่างที่สามก็จะมาในไม่ช้านี้เอง
แตรคันที่เจ็ด
15 เมื่อทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดเป่าแตร มีหลายเสียงดังขึ้นในสวรรค์ว่า “อาณาจักรแห่งโลกได้มาเป็นอาณาจักรแห่งพระผู้เป็นเจ้าของเรา และแห่งพระคริสต์ของพระองค์ และพระองค์จะครองบัลลังก์ชั่วนิรันดร์กาล” 16 ครั้นแล้วผู้ใหญ่ 24 ท่านที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ของตน ณ เบื้องหน้าพระเจ้าก็หมอบลงนมัสการพระเจ้า 17 พลางพูดว่า
“พวกเราขอบคุณพระองค์ พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจอมโยธา
ผู้ดำรงอยู่ในปัจจุบันและในอดีต
เพราะพระองค์ได้ใช้อานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
และได้เริ่มครองบัลลังก์
18 ประเทศชาติทั้งหลายโกรธแค้น
และการพิพากษาของพระองค์ก็มาถึงแล้ว
ถึงเวลาที่พระองค์จะพิพากษาคนที่ตายไป
และจะมอบรางวัลแก่ผู้รับใช้ของพระองค์
คือบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
แก่ผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า
และแก่บรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระนามของพระองค์ทั้งผู้ใหญ่ผู้น้อย
และจะทำลายพวกที่ทำลายแผ่นดินโลก”
19 แล้วพระวิหารของพระเจ้าในสวรรค์ก็เปิดออก หีบพันธสัญญาของพระองค์ปรากฏอยู่ในพระวิหาร แล้วได้เกิดสายฟ้าแลบ เสียงต่างๆ พร้อมกับเสียงฟ้าคำรามครืนครั่นหลายครั้ง แผ่นดินไหว และพายุลูกเห็บ
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation