Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
1 พงศ์กษัตริย์ 15

กษัตริย์อาบียาห์แห่งยูดาห์(A)

15 อาบียาห์[a]ขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ตรงกับปีที่สิบแปดของรัชกาลเยโรโบอัมบุตรเนบัท พระองค์ทรงครองราชย์อยู่ในกรุงเยรูซาเล็มสามปี ราชมารดาคือมาอาคาห์ธิดาของอาบีชาโลม[b]

พระองค์ทรงทำบาปทุกอย่างเช่นเดียวกับราชบิดา และไม่ได้มีพระทัยภักดีแน่วแน่ต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์เหมือนดาวิดบรรพบุรุษ แต่เพื่อเห็นแก่ดาวิด พระยาห์เวห์พระเจ้าของเขาทรงโปรดประทานดวงประทีปดวงหนึ่งในเยรูซาเล็ม โดยให้โอรสองค์หนึ่งขึ้นมาครองราชย์ต่อและทำให้เยรูซาเล็มเข้มแข็ง เพราะดาวิดได้ทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า

ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์ทุกประการตลอดชีวิต ยกเว้นเรื่องที่เกี่ยวกับอุรียาห์ชาวฮิตไทต์

ตลอดพระชนม์ชีพของอาบียาห์มีสงครามระหว่างเรโหโบอัม[c]กับเยโรโบอัม เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลอาบียาห์และพระราชกิจทั้งปวงมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ? และมีสงครามระหว่างอาบียาห์กับเยโรโบอัม และอาบียาห์ทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษและถูกฝังไว้ในเมืองดาวิด แล้วอาสาโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน

กษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์(B)

อาสาขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ ตรงกับปีที่ยี่สิบของรัชกาลเยโรโบอัมแห่งอิสราเอล 10 ทรงครองราชย์อยู่ 41 ปีในกรุงเยรูซาเล็ม เสด็จย่าของพระองค์คือมาอาคาห์ ธิดาของอาบีชาโลม

11 อาสาทรงทำสิ่งที่ถูกต้องในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้าเหมือนดาวิดบรรพบุรุษ 12 อาสาทรงเนรเทศโสเภณีชายประจำเทวสถานออกไปจากดินแดน และทรงขจัดเทวรูปทั้งปวงที่บรรพบุรุษสร้างขึ้น 13 พระองค์ทรงถอดพระนางมาอาคาห์เสด็จย่าของพระองค์ออกจากตำแหน่งพระพันปีหลวง เพราะพระนางได้สร้างเสาเจ้าแม่อาเชราห์อันน่ารังเกียจ อาสาทรงโค่นเสานั้นและเผาทิ้งที่หุบเขาขิดโรน 14 แม้พระองค์ไม่ได้ทรงรื้อสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลายทิ้ง แต่พระทัยของอาสาก็ภักดีแน่วแน่ต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดพระชนม์ชีพ 15 พระองค์ทรงนำเงินและทองกับเครื่องใช้ไม้สอยต่างๆ ซึ่งพระองค์กับราชบิดาได้ถวายแด่พระเจ้ามาไว้ในพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า

16 มีสงครามระหว่างอาสากับกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลตลอดรัชกาล 17 กษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอลมาสู้รบกับยูดาห์ และบาอาชาทรงสร้างป้อมปราการที่เมืองรามาห์ เพื่อปิดทางเข้าออกสู่เขตแดนของกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์

18 อาสาจึงทรงนำเงินและทองคำที่เหลือทั้งหมดจากคลังพระวิหารขององค์พระผู้เป็นเจ้า และจากท้องพระคลังของพระราชวังของพระองค์เองมามอบให้ข้าราชบริพารนำไปถวายกษัตริย์เบนฮาดัดแห่งอารัมซึ่งปกครองอยู่ที่เมืองดามัสกัส เบนฮาดัดนี้เป็นโอรสของทับริมโมน ซึ่งเป็นโอรสของเฮซีโอน กษัตริย์อาสาทูลว่า 19 “ขอให้เราเป็นพันธมิตรกันเหมือนราชบิดาของเราทั้งสอง ข้าพเจ้าส่งเงินและทองนี้มากำนัลแด่ท่าน ขอให้ท่านตัดสัมพันธไมตรีกับกษัตริย์บาอาชาแห่งอิสราเอล เพื่อเขาจะได้ถอยทัพไปจากข้าพเจ้า”

20 เบนฮาดัดทรงเห็นชอบกับกษัตริย์อาสา และทรงส่งแม่ทัพและกองกำลังไปโจมตีเมืองต่างๆ ของอิสราเอล ทรงพิชิตเมืองอิโยน ดาน อาเบลเบธมาอาคาห์ คินเนเรททั้งหมด รวมทั้งนัฟทาลี 21 เมื่อบาอาชาทราบเรื่องนี้ก็หยุดการสร้างเมืองรามาห์ แล้วถอยทัพกลับไปยังทีรซาห์ 22 จากนั้นกษัตริย์อาสาทรงเกณฑ์ทุกคนในยูดาห์ ไม่เว้นผู้ใดเลย ให้พวกเขาช่วยกันขนหินและไม้ซึ่งบาอาชาทรงใช้อยู่ที่เมืองรามาห์ นำไปสร้างเมืองเกบาในแดนเบนยามินและเมืองมิสปาห์

23 เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของอาสา ความสำเร็จทั้งปวง พระราชกิจทั้งสิ้น และเมืองต่างๆ ที่ทรงสร้างขึ้นมีบันทึกในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งยูดาห์ไม่ใช่หรือ? เมื่ออาสาทรงชราแล้วก็ทรงประชวรด้วยโรคที่พระบาท 24 แล้วอาสาก็ทรงล่วงลับไปอยู่กับบรรพบุรุษ และถูกฝังไว้ด้วยกันในเมืองดาวิด และเยโฮชาฟัทโอรสของพระองค์ขึ้นครองราชย์แทน

นาดับแห่งอิสราเอล

25 นาดับโอรสของเยโรโบอัมขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอล ตรงกับปีที่สองของรัชกาลกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ ทรงครองราชย์เหนืออิสราเอลอยู่สองปี 26 ทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ดำเนินตามวิถีและบาปของราชบิดา ซึ่งชักนำอิสราเอลให้ทำตาม

27 ฝ่ายบาอาชาบุตรอาหิยาห์เผ่าอิสสาคาร์วางแผนและลงมือสังหารนาดับ ขณะที่ทรงร่วมกับกองทัพอิสราเอลล้อมเมืองกิบเบโธนของฟีลิสเตีย 28 บาอาชาปลงพระชนม์นาดับแล้วขึ้นครองราชย์แทน ตรงกับปีที่สามของรัชกาลกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์

29 ทันทีที่ขึ้นครองราชย์ บาอาชาก็ประหารวงศ์วานทั้งปวงของเยโรโบอัม ไม่ปล่อยให้ใครรอดชีวิตเลย เป็นไปตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ตรัสไว้ผ่านทางอาหิยาห์ชาวชิโลห์ผู้รับใช้ของพระองค์ 30 เพราะบาปที่เยโรโบอัมได้ทำและชักนำอิสราเอลให้ทำตาม และเพราะเขาได้ยั่วยุพระพิโรธของพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล

31 เหตุการณ์อื่นๆ ในรัชกาลของนาดับและพระราชกิจทั้งปวงมีบันทึกไว้ในจดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอลไม่ใช่หรือ? 32 มีสงครามระหว่างอาสากับบาอาชากษัตริย์แห่งอิสราเอลตลอดรัชกาล

บาอาชาแห่งอิสราเอล

33 บาอาชาบุตรอาหิยาห์ขึ้นเป็นกษัตริย์เหนือดินแดนอิสราเอลทั้งหมดที่เมืองทีรซาห์ ตรงกับปีที่สามของรัชกาลกษัตริย์อาสาแห่งยูดาห์ ทรงครองราชย์อยู่ 24 ปี 34 บาอาชาทรงทำสิ่งที่ชั่วในสายพระเนตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ดำเนินตามวิถีและบาปของเยโรโบอัม ซึ่งชักนำให้อิสราเอลทำตาม

โคโลสี 2

ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่าข้าพเจ้ากำลังต่อสู้ดิ้นรนขนาดไหนเพื่อท่าน เพื่อพวกพี่น้องที่เมืองเลาดีเซียและเพื่อคนทั้งปวงที่ยังไม่เคยพบหน้าข้าพเจ้าเลย จุดมุ่งหมายของข้าพเจ้าก็คือให้กำลังใจพวกเขา ให้พวกเขาประสานรวมกันด้วยความรักและด้วยความเชื่อมั่นอันเต็มเปี่ยมซึ่งเกิดจากความเข้าใจที่แท้จริง เพื่อว่าพวกเขาจะได้รู้ถึงความล้ำลึกของพระเจ้า คือพระคริสต์ ซึ่งคลังสติปัญญาและความรู้ทั้งมวลซ่อนอยู่ในพระองค์ ข้าพเจ้าบอกอย่างนี้เพื่อไม่ให้ใครมาล่อลวงท่านด้วยถ้อยคำที่ฟังน่าเชื่อถือ เพราะถึงแม้ตัวข้าพเจ้าไม่อยู่กับท่านแต่ใจก็อยู่กับท่าน และดีใจที่เห็นว่าท่านอยู่กันอย่างเรียบร้อยและเชื่อมั่นคงในพระคริสต์

ความบริบูรณ์ในพระคริสต์

ดังนั้นในเมื่อท่านได้รับพระเยซูคริสต์เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้วก็จงดำเนินชีวิตในพระองค์ต่อ ไป ด้วยการหยั่งรากและรับการก่อร่างสร้างขึ้นในพระองค์ มั่นคงขึ้นในความเชื่อตามที่ได้รับการสอนมาและเต็มล้นด้วยการขอบพระคุณ

จงระวังให้ดีอย่าให้ใครมาจับท่านเป็นทาสด้วยปรัชญาอันไร้แก่นสารและหลอกลวง ซึ่งอาศัยธรรมเนียมปฏิบัติที่มนุษย์ถ่ายทอดกันมาและหลักการพื้นฐานต่างๆ ของโลกนี้[a] แทนที่จะอาศัยพระคริสต์

เพราะในพระคริสต์พระลักษณะทั้งสิ้นของพระเจ้าดำรงอยู่อย่างบริบูรณ์ในพระกายของพระองค์ 10 และท่านได้รับความบริบูรณ์ในพระคริสต์ผู้ทรงเป็นศีรษะเหนือเทพผู้ทรงเดชานุภาพและเทพผู้ทรงอำนาจทั้งสิ้น 11 ในพระองค์ท่านยังได้เข้าสุหนัตคือการสลัดวิสัยบาป[b] ทิ้ง เป็นสุหนัตที่ไม่ได้ทำด้วยมือมนุษย์แต่ทำโดยพระคริสต์ 12 ท่านถูกฝังไว้กับพระองค์ในพิธีบัพติศมา และทรงให้ท่านเป็นขึ้นจากตายกับพระองค์ผ่านทางความเชื่อของท่านในฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าผู้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย

13 เมื่อท่านตายแล้วในบาปของท่านและในวิสัยบาป[c]ของท่านซึ่งไม่ได้เข้าสุหนัต พระเจ้าได้ทรงให้ท่าน[d]มีชีวิตด้วยกันกับพระคริสต์ พระองค์ทรงอภัยโทษบาปทั้งสิ้นของเรา 14 ทรงยกเลิกหนังสือสัญญาที่ผูกมัดเราด้วยกฎเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งขัดขวางและต่อต้านเรา พระองค์ทรงเอาหนังสือนี้ออกไปตรึงที่กางเขน 15 และทรงปลดเทพผู้ทรงเดชานุภาพและเทพผู้ทรงอำนาจต่างๆ ลง พระองค์ได้ทรงประจานและพิชิตพวกนี้โดยกางเขนนั้น[e]

16 เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครมาตัดสินท่านจากสิ่งที่ท่านกินหรือดื่มหรือเกี่ยวกับเทศกาลทางศาสนา ไม่ว่าวันฉลองขึ้นหนึ่งค่ำหรือวันสะบาโต 17 สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเงาของสิ่งที่จะมาภายหลัง ส่วนความจริงแท้พบอยู่ในพระคริสต์ 18 อย่าให้ใครที่ชื่นชอบการแสร้งถ่อมตัวและการกราบไหว้ทูตสวรรค์มาทำให้ท่านหมดสิทธิ์รับรางวัล คนเช่นนี้เพ้อพล่ามถึงสิ่งที่ตนเห็น ผยองขึ้นด้วยความคิดไร้สาระตามจิตใจฝ่ายเนื้อหนัง 19 เป็นเหมือนร่างกายที่ไม่ได้ยึดติดกับองค์ผู้ทรงเป็นศีรษะซึ่งบำรุงเลี้ยงและประสานทั้งร่างกายไว้ด้วยข้อและเอ็นต่างๆ และให้ร่างกายนี้เจริญเติบโตขึ้นตามที่พระเจ้าทรงให้เติบโต

20 ในเมื่อท่านตายกับพระคริสต์ พ้นจากหลักการพื้นฐานต่างๆ ของโลกนี้ ทำไมยังยอมอยู่ใต้กฎต่างๆ ราวกับว่าท่านยังเป็นของโลก 21 เช่นกฎที่ว่า “ห้ามหยิบ! ห้ามชิม! ห้ามแตะต้อง!” 22 สิ่งทั้งปวงเหล่านี้ถูกกำหนดให้เสื่อมสูญไปเมื่อใช้มัน เพราะตั้งอยู่บนคำสั่งและคำสอนของมนุษย์ 23 ที่จริงกฎเกณฑ์พวกนี้ดูเหมือนมีปัญญา พวกเขานมัสการตามแนวที่กำหนดขึ้นเอง เสแสร้งถ่อมตัวและทรมานร่างกายของตน แต่สิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรต่อการควบคุมกิเลสตัณหาเลย

เอเสเคียล 45

การแบ่งสรรที่ดิน

45 “ ‘เมื่อเจ้าแบ่งสรรดินแดนกรรมสิทธิ์ จงถวายที่ดินส่วนหนึ่งแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเขตศักดิ์สิทธิ์ยาว 25,000 คิวบิท[a] และกว้าง 20,000 คิวบิท[b]ทั้งเขตแดนนั้นจะเป็นที่บริสุทธิ์ ในบริเวณนี้ให้มีที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวด้านละ 500 คิวบิท[c] เพื่อเป็นสถานนมัสการและมีที่ว่างโดยรอบเป็นระยะ 50 คิวบิท[d] ในเขตศักดิ์สิทธิ์นี้ จงวัดที่แบ่งออกมาให้ได้ขนาดยาว 25,000 คิวบิท กว้าง 10,000 คิวบิท[e] ในบริเวณนี้จะเป็นสถานนมัสการคืออภิสุทธิสถาน จะเป็นเขตแดนบริสุทธิ์สำหรับบรรดาปุโรหิต ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสถานนมัสการ และเข้าปรนนิบัติรับใช้อยู่ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าใช้เป็นที่สำหรับบ้านเรือนของปุโรหิตและวิสุทธิสถานของสถานนมัสการ อีกส่วนซึ่งยาว 25,000 คิวบิท และกว้าง 10,000 คิวบิท เป็นของคนเลวีซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในพระวิหาร มอบให้เป็นกรรมสิทธิ์ของเขาที่จะสร้างบ้านเมืองเพื่ออยู่อาศัย[f]

“ ‘เจ้าจงมอบที่กว้าง 5,000 คิวบิท[g]ยาว 25,000 คิวบิท ต่อจากเขตศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นส่วนของเมืองนั้น ที่นี่จะเป็นของพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งหมด

“ ‘ที่ดินแต่ละข้างของเนื้อที่เขตศักดิ์สิทธิ์และทรัพย์สมบัติของเมืองยกให้เป็นของเจ้านาย ทอดออกไปทางตะวันตกและตะวันออก ตลอดความยาวของพรมแดนตะวันตกจดตะวันออกเทียบเท่ากับส่วนที่ยกให้ตระกูลหนึ่ง ที่ดินนี้จะเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้านายในอิสราเอล และเจ้านายเหล่านั้นจะได้ไม่กดขี่ข่มเหงประชากรของเราอีกต่อไป แต่จะยอมให้พงศ์พันธุ์อิสราเอลครอบครองดินแดนตามตระกูลต่างๆ

“ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่าบรรดาเจ้านายของอิสราเอลเอ๋ย เจ้าทำเกินเลยมามากพอแล้ว! เลิกกดขี่ข่มเหงและทารุณเถิด จงทำสิ่งที่ถูกต้อง ยุติธรรม และเลิกเสือกไสไล่ส่งประชากรของเราจากกรรมสิทธิ์ของเขา พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 10 จงใช้เครื่องชั่งที่เที่ยงตรง เอฟาห์และบัทที่เที่ยงตรง[h] 11 เอฟาห์จะเท่ากับบัท คือเอฟาห์และบัทล้วนเท่ากับหนึ่งในสิบโฮเมอร์ โฮเมอร์เป็นหน่วยมาตรฐานของการตวงทั้งของแห้งและของเหลว 12 1 เชเขล[i] เท่ากับ 20 เกราห์และ 60 เชเขลเท่ากับ 1 มินา[j]

ของถวายและวันบริสุทธิ์

13 “ ‘ของถวายพิเศษที่เจ้าจะต้องนำมามอบให้คือ ข้าวสาลีหนึ่งในหกเอฟาห์จากทุกๆ หนึ่งโฮเมอร์ ข้าวบาร์เลย์ก็หนึ่งในหกเอฟาห์จากทุกๆ หนึ่งโฮเมอร์ 14 ส่วนน้ำมันตวงด้วยหน่วยบัท คือหนึ่งในสิบบัทจากทุกหนึ่งโคร์ (ซึ่งเท่ากับหนึ่งโฮเมอร์หรือสิบบัท) 15 พร้อมทั้งแกะหนึ่งตัวจากทุกสองร้อยตัว จากทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ของอิสราเอล สิ่งเหล่านี้จะใช้เป็นธัญบูชา เครื่องเผาบูชา และเครื่องสันติบูชาเพื่อลบบาปสำหรับประชากร พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตประกาศดังนั้น 16 ประชากรทั้งหมดจะร่วมกันนำของถวายพิเศษนี้มาสำหรับเจ้านายของอิสราเอล 17 เป็นหน้าที่ของเจ้านายที่จะจัดเตรียมเครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และเครื่องดื่มบูชาซึ่งใช้ในเทศกาลต่างๆ วันขึ้นหนึ่งค่ำและสะบาโตทั้งหลาย คือทุกเทศกาลที่กำหนดไว้ของพงศ์พันธุ์อิสราเอล เขาจะจัดเครื่องบูชาไถ่บาป ธัญบูชา เครื่องเผาบูชา และเครื่องสันติบูชาเพื่อลบบาปของพงศ์พันธุ์อิสราเอล

18 “ ‘พระยาห์เวห์องค์เจ้าชีวิตตรัสดังนี้ว่า ในวันที่หนึ่งเดือนที่หนึ่ง เจ้าจงเอาวัวหนุ่มปราศจากตำหนิมาเพื่อการชำระสถานนมัสการ 19 ให้ปุโรหิตเอาเลือดของเครื่องบูชาไถ่บาปทาไว้ที่เสาประตูพระวิหาร ที่มุมทั้งสี่ของคิ้วบนของแท่นบูชา และที่เสาประตูของลานชั้นใน 20 จงทำอย่างนี้อีกในวันที่เจ็ดของเดือนนั้น เป็นการลบมลทินของพระวิหารเพื่อผู้หนึ่งผู้ใดซึ่งทำบาปโดยไม่เจตนาหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์

21 “ ‘ในวันที่สิบสี่เดือนที่หนึ่ง จงถือเทศกาลปัสกา เจ้าจะกินขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวันของเทศกาล 22 ในวันนั้นเจ้านายจะถวายวัวหนุ่มเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับตนเอง และสำหรับประชาชนทั้งหมด 23 ทุกวันตลอดเจ็ดวันของเทศกาล เขาจะถวายวัวหนุ่มเจ็ดตัวและแกะผู้เจ็ดตัว ซึ่งปราศจากตำหนิ เป็นเครื่องเผาบูชาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และถวายแพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 24 เขาจะจัดธัญบูชาควบคู่โดยใช้แป้ง 1 เอฟาห์[k]ต่อวัวหนุ่มหนึ่งตัว และ 1 เอฟาห์ต่อแกะผู้หนึ่งตัว พร้อมทั้งน้ำมัน 1 ฮิน[l] ต่อแป้ง 1 เอฟาห์

25 “ ‘ตลอดเจ็ดวันของเทศกาลนั้น ซึ่งเริ่มในวันที่สิบห้าของเดือนที่เจ็ด ให้เขาจัดเตรียมเครื่องบูชาไถ่บาป เครื่องเผาบูชา ธัญบูชา และน้ำมันแบบเดียวกัน

สดุดี 99-101

99 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงครอบครอง ประชาชาติทั้งหลายจงครั่นคร้าม
พระองค์ประทับบนบัลลังก์ระหว่างเครูบ แผ่นดินโลกจงสั่นสะท้าน
องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทับในศิโยนทรงยิ่งใหญ่
พระองค์ทรงเป็นที่เทิดทูนเหนือมวลประชาชาติ
ให้พวกเขาสรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามของพระองค์
พระองค์ทรงบริสุทธิ์

จอมกษัตริย์องค์นี้ทรงฤทธิ์ พระองค์ทรงรักความยุติธรรม
พระองค์ได้ทรงสถาปนาความเสมอภาคไว้
พระองค์ทรงกระทำ
สิ่งที่ยุติธรรมและถูกต้องในอิสราเอล[a]
จงยกย่องเทิดทูนพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
จงกราบนมัสการที่แท่นรองพระบาทของพระองค์
พระองค์ทรงบริสุทธิ์

โมเสสและอาโรนอยู่ในกลุ่มปุโรหิตของพระองค์
ซามูเอลเป็นคนหนึ่งในกลุ่มผู้ร้องทูลออกพระนามของพระองค์
พวกเขาร้องทูลต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า
และพระองค์ทรงตอบพวกเขา
พระองค์ตรัสกับพวกเขาจากเสาเมฆ
เขาเหล่านั้นเชื่อฟังกฎเกณฑ์และกฎหมายที่พระองค์ประทานแก่พวกเขา

ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย
พระองค์ทรงตอบเขาเหล่านั้น
ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงให้อภัยสำหรับอิสราเอล[b]
แม้ทรงลงโทษเมื่อพวกเขาทำผิด[c]
จงเทิดทูนพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
และนมัสการที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของเราทรงบริสุทธิ์

(บทสดุดี เพื่อขอบพระคุณ)

100 ชาวโลกทั้งสิ้นเอ๋ย จงโห่ร้องยินดีถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า
จงนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความเปรมปรีดิ์
จงมาเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยบทเพลงชื่นบาน
จงรู้เถิดว่าพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า
พระองค์นี่แหละที่ทรงสร้างเรา และเราเป็นของพระองค์[d]
เราเป็นประชากรของพระองค์ เป็นแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์

จงเข้าประตูของพระองค์ด้วยการขอบพระคุณ
เข้ามาในพระนิเวศของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ
จงขอบพระคุณพระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์
เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแสนดี และความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิรันดร์
ความซื่อสัตย์ของพระองค์คงอยู่ตลอดทุกชั่วอายุ

(บทสดุดีของดาวิด)

101 ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงความรักมั่นคงและความยุติธรรมของพระองค์
ข้าพระองค์จะร้องบทเพลงสรรเสริญพระองค์
ข้าพระองค์จะระแวดระวังรักษาชีวิตให้ไร้ตำหนิ
เมื่อใดหนอ พระองค์จะเสด็จมาหาข้าพระองค์?

ข้าพระองค์จะดำเนินชีวิตในบ้านของข้าพระองค์
ด้วยจิตใจที่ไม่มีตำหนิ
ข้าพระองค์จะไม่เห็นดีเห็นงาม
กับสิ่งชั่วช้าเลวทรามใดๆ

ข้าพระองค์เกลียดชังการกระทำของคนปลิ้นปล้อนตลบตะแลง
และไม่ข้องเกี่ยวในกิจการเหล่านั้น
ข้าพระองค์จะหลีกห่างจากคนจิตใจดื้อด้าน
จะไม่ยอมมีส่วนร่วมใดๆ กับความชั่ว

ข้าพระองค์จะปิดปากคนที่แอบใส่ร้ายเพื่อนบ้าน
ข้าพระองค์จะไม่ทนกับคนที่วางท่ายโสและมีจิตใจเย่อหยิ่ง

ตาของข้าพระองค์จะมองผู้ที่ซื่อสัตย์ในแผ่นดิน
เพื่อเขาจะอยู่กับข้าพระองค์
ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างไร้ตำหนิ
จะมาปรนนิบัติข้าพระองค์

คนหลอกลวงจะไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของข้าพระองค์
คนโป้ปดมดเท็จจะไม่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าข้าพระองค์

ทุกๆ เช้าข้าพระองค์จะกำจัดคนชั่วทั้งปวงใน แผ่นดิน
ข้าพระองค์จะขจัดคนทำชั่วให้หมดสิ้นจากนครขององค์พระผู้เป็นเจ้า

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.