Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
เลวีนิติ 16

วันลบบาป(A)

16 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสหลังจากที่บุตรชายสองคนของอาโรนสิ้นชีวิตเมื่อพวกเขาเข้ามาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงเตือนอาโรนพี่ชายของเจ้าไม่ให้เข้าไปในอภิสุทธิสถานหลังม่านซึ่งอยู่เบื้องหน้าพระที่นั่งกรุณาที่อยู่บนหีบพันธสัญญาตามอำเภอใจ มิฉะนั้นเขาจะต้องตาย เพราะเราจะปรากฏในกลุ่มเมฆเหนือพระที่นั่งกรุณา

“ต่อไปนี้เป็นข้อปฏิบัติในการที่อาโรนจะเข้าไปยังบริเวณสถานนมัสการ เขาจะต้องนำวัวหนุ่มสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปและแกะผู้สำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาไป เขาต้องสวมเสื้อตัวในอันบริสุทธิ์ที่ทำด้วยผ้าลินินกับเครื่องแต่งกายชั้นในผ้าลินินที่ติดกับร่างกายของเขา คาดสายคาดเอวลินิน และโพกศีรษะด้วยผ้าลินิน นี่เป็นเครื่องแต่งกายอันบริสุทธิ์ ดังนั้นเขาต้องอาบน้ำก่อนที่จะสวมใส่ ให้เขารับแพะผู้สองตัวสำหรับเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป และแกะผู้หนึ่งตัวสำหรับเป็นเครื่องเผาบูชาจากชุมชนอิสราเอล

“ให้อาโรนถวายวัวหนุ่มหนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป เพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว จากนั้นจะนำแพะสองตัวมาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทางเข้าเต็นท์นัดพบ เขาจะต้องจับฉลากสำหรับแพะทั้งสองนั้น ฉลากอันหนึ่งสำหรับองค์พระผู้เป็นเจ้า และอีกอันหนึ่งสำหรับแพะรับบาป[a] อาโรนจะถวายแพะตัวที่ใช้ถวายองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป 10 แต่แพะที่ได้รับเลือกโดยฉลากให้เป็นแพะรับบาปจะถูกนำมาถวายทั้งที่ยังมีชีวิตต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อเป็นการลบบาป โดยส่งมันเข้าไปในถิ่นกันดารเป็นแพะรับบาป

11 “อาโรนจะนำวัวหนุ่มมาฆ่าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อลบบาปให้ตนเองและครอบครัว 12 เขาจะเอากระถางไฟบรรจุถ่านคุโชนจากแท่นบูชาต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและกอบผงเครื่องหอมซึ่งบดละเอียดสองกำมือนำเข้าไปหลังม่าน 13 เขาจะโรยเครื่องหอมบนไฟต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าให้ควันเครื่องหอมปกคลุมทั่วพระที่นั่งกรุณาเหนือหีบพันธสัญญา เพื่อว่าเขาจะไม่ตาย 14 เขาจะนำเลือดบางส่วนของวัวหนุ่มเข้าไปและใช้นิ้วพรมบนด้านหน้าของพระที่นั่งกรุณาเจ็ดครั้ง

15 “แล้วอาโรนจะฆ่าแพะเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับประชากร และนำเลือดของมันเข้าไปหลังม่าน แล้วทำเช่นเดียวกับที่ทำกับเลือดวัวผู้คือ เขาจะพรมเลือดนั้นที่ข้างบนและข้างหน้าของพระที่นั่งกรุณา 16 เขาจะลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถานด้วยวิธีนี้เพราะมลทินและการกบฏของชาวอิสราเอล ไม่ว่าบาปของเขาจะเป็นอะไร เขาจะต้องทำอย่างเดียวกันนี้สำหรับเต็นท์นัดพบซึ่งอยู่ท่ามกลางพวกเขา ซึ่งแวดล้อมด้วยมลทินของพวกเขา 17 ห้ามผู้ใดอยู่ในเต็นท์นัดพบขณะที่อาโรนเข้าไปทำการลบบาปในอภิสุทธิสถาน จนกว่าเขาจะออกมาอีกครั้งหลังจากลบบาปให้ตนเอง ให้ครอบครัวและชุมชนอิสราเอลทั้งหมดแล้ว

18 “จากนั้นอาโรนจะไปยังแท่นบูชา คือต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและทำการลบบาปสำหรับแท่นนั้น เขาจะเอาเลือดวัวผู้และเลือดแพะบางส่วนทาที่เชิงงอนของแท่น 19 แล้วเอานิ้วจุ่มเลือดพรมบนแท่นบูชาเจ็ดครั้ง เป็นการชำระแท่นนั้นให้บริสุทธิ์พ้นจากมลทินของชนอิสราเอล

20 “เมื่ออาโรนลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถาน เต็นท์นัดพบ และแท่นบูชาเสร็จแล้ว เขาจะนำแพะที่มีชีวิตตัวนั้นมา 21 วางมือทั้งสองบนหัวแพะ สารภาพความชั่วร้ายและการละเมิดฝ่าฝืนของชนอิสราเอล ปลดเปลื้องบาปทั้งหมดลงบนแพะ แล้วมอบหมายให้ชายคนหนึ่งจูงแพะเข้าไปในถิ่นกันดาร 22 แพะตัวนั้นจะแบกรับบาปทั้งหมดของเหล่าประชากรเข้าสู่ที่เปลี่ยว ชายผู้นั้นจะปล่อยมันไว้ในถิ่นกันดาร

23 “จากนั้นให้อาโรนเข้าไปในเต็นท์นัดพบ ถอดชุดผ้าลินินซึ่งใช้สวมเข้าไปในอภิสุทธิสถานนั้นวางไว้ในเต็นท์นัดพบ 24 แล้วอาบน้ำชำระกายในที่บริสุทธิ์ สวมเสื้อผ้าชุดปกติ แล้วออกไปถวายเครื่องเผาบูชาสำหรับตนเองและเครื่องเผาบูชาสำหรับประชากร เพื่อลบบาปให้ตนเองและประชากร 25 เขาจะเผาไขมันของเครื่องบูชาไถ่บาปบนแท่นบูชาด้วย

26 “ชายคนที่จูงแพะเข้าไปปล่อยในถิ่นกันดารเสร็จแล้ว ต้องอาบน้ำ ซักเสื้อผ้า แล้วกลับเข้ามาในค่ายพัก 27 วัวหนุ่มและแพะซึ่งใช้เป็นเครื่องบูชาไถ่บาป ซึ่งอาโรนนำเลือดของมันเข้าไปในอภิสุทธิสถานเพื่อทำการลบบาป จะถูกนำไปเผาให้หมดนอกค่ายพัก รวมทั้งหนัง เนื้อ และไส้ 28 แล้วผู้ทำหน้าที่เผาต้องซักเสื้อผ้าและอาบน้ำ และค่อยกลับมาที่ค่ายพัก

29 “ต่อไปนี้เป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าคือ ห้ามเจ้าทำกิจธุระในวันที่สิบเดือนที่เจ็ด แต่จงบังคับตน[b] ไม่ว่าจะเป็นคนอิสราเอลโดยกำเนิดหรือเป็นคนต่างด้าวซึ่งอาศัยอยู่ในหมู่พวกเจ้า 30 เพราะในวันนี้จะมีการลบบาปสำหรับเจ้า เพื่อชำระเจ้าให้สะอาด แล้วเจ้าจะสะอาดพ้นจากบาปทั้งสิ้นต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า 31 เป็นสะบาโตแห่งการหยุดพัก เจ้าต้องบังคับตน ถือเป็นข้อปฏิบัติถาวรสืบไปทุกชั่วอายุ 32 ปุโรหิตซึ่งได้รับการเจิมและสถาปนาให้เป็นมหาปุโรหิตสืบทอดจากบิดาจะเป็นผู้ลบบาป เขาจะต้องสวมชุดบริสุทธิ์ที่ทำจากผ้าลินิน 33 และลบบาปสำหรับอภิสุทธิสถาน เต็นท์นัดพบ และแท่นบูชา สำหรับปุโรหิตและประชากรทั้งปวงในชุมชน

34 “นี่เป็นข้อปฏิบัติถาวรสำหรับเจ้าทั้งหลายสืบไปคือ ให้ลบบาปทั้งสิ้นสำหรับประชากรอิสราเอลปีละครั้ง”

และเขาก็ทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญชาโมเสสไว้

สดุดี 19

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

19 ฟ้าสวรรค์ประกาศพระเกียรติสิริของพระเจ้า
ท้องฟ้าสำแดงฝีพระหัตถ์ของพระองค์
วันแล้ววันเล่ากล่าวถึงพระเจ้า
คืนแล้วคืนเล่าสำแดงความรู้
พวกมันไม่มีคำพูด ไม่มีถ้อยคำ
ไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากพวกมัน
แต่กระนั้นเสียงของพวกมันก็ยังออกไปทั่วโลก
ถ้อยคำของพวกมันไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลก
พระองค์ทรงกำหนดตำแหน่งของดวงอาทิตย์ไว้บนฟ้าสวรรค์
ซึ่งเป็นเหมือนเจ้าบ่าวก้าวเข้าสู่พิธีสมรส
เหมือนนักกีฬาผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งร่าเริงยินดีที่จะเข้าสู่การแข่งขัน
ดวงอาทิตย์ขึ้นจากฟากหนึ่ง
แล้วโคจรไปยังอีกฟากหนึ่งของฟ้าสวรรค์
ไม่มีสิ่งใดหลบซ่อนจากความร้อนของมันได้

บทบัญญัติขององค์พระผู้เป็นเจ้าสมบูรณ์ไร้ที่ติ
ฟื้นฟูจิตวิญญาณ
กฎเกณฑ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าเชื่อถือได้
กระทำให้คนรู้น้อยมีปัญญา
ข้อบังคับขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นถูกต้อง
ให้ความชื่นชมยินดีแก่จิตใจ
พระบัญชาขององค์พระผู้เป็นเจ้ากระจ่างชัด
ให้ความสว่างแก่ดวงตา
ความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้านั้นบริสุทธิ์
ยั่งยืนเป็นนิตย์
ข้อปฏิบัติขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้นแน่นอน
และล้วนแต่ชอบธรรมทั้งสิ้น

10 ล้ำค่ากว่าทองคำ
ยิ่งกว่าทองบริสุทธิ์
หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง
ยิ่งกว่าน้ำผึ้งที่หยดจากรวง
11 สิ่งเหล่านี้ตักเตือนผู้รับใช้ของพระองค์
และเป็นบำเหน็จยิ่งใหญ่แก่ทุกคนที่ยึดถือปฏิบัติตาม
12 ใครเล่าสามารถสังเกตเห็นความผิดพลาดของตน?
ขอทรงอภัยความผิดที่ซ่อนเร้นของข้าพระองค์
13 ขอทรงยับยั้งผู้รับใช้ของพระองค์ไม่ให้ทำบาปโดยตั้งใจ
อย่าให้บาปเหล่านั้นครอบงำข้าพระองค์
แล้วข้าพระองค์จะไร้ตำหนิ
พ้นจากการล่วงละเมิดอันใหญ่หลวง

14 ขอให้วาจาที่ออกจากปากและการใคร่ครวญในใจของข้าพระองค์นั้น
เป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของพระองค์
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระศิลาและพระผู้ไถ่ของข้าพระองค์

สุภาษิต 30

คำสอนของอากูร์

30 นี่คือคำสอนของอากูร์บุตรยาเคห์ เป็นถ้อยคำที่ได้รับการดลใจ[a]

เขากล่าวกับอิธีเอลว่า
“ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์อ่อนล้า
แต่ข้าพระองค์มีชัยได้[b]
ข้าพเจ้าโง่เขลาเกินกว่าจะเป็นมนุษย์
ที่จริง ข้าพเจ้าไม่มีความเข้าใจอย่างมนุษย์ทั่วไป
ข้าพเจ้าไม่ได้เรียนรู้สติปัญญา
และไม่รู้จักองค์บริสุทธิ์
ใครเล่าได้ขึ้นสู่สวรรค์และลงมา?
ใครเล่าได้กำกระแสลมไว้ในอุ้งมือ?
ใครเล่าได้ห่อหุ้มห้วงน้ำไว้ในเสื้อคลุม?
ใครเล่าได้สถาปนาทั่วทุกมุมโลก?
ผู้นั้นมีนามว่าอะไร? และบุตรของผู้นั้นมีนามว่าอะไร?
แน่นอน เจ้ารู้!

“พระดำรัสทุกคำของพระเจ้าไม่มีข้อผิดพลาด
พระองค์ทรงเป็นโล่สำหรับบรรดาผู้ที่ลี้ภัยในพระองค์[c]
อย่าเพิ่มเติมพระวจนะของพระองค์
มิฉะนั้นพระองค์จะทรงตำหนิเจ้า และเจ้าจะถูกจับได้ว่าโกหก

“ข้าพระองค์ทูลขอสองสิ่งจากพระองค์
ขออย่าทรงปฏิเสธก่อนที่ข้าพระองค์จะตายไป
คือขอให้สิ่งเท็จเทียมและคำโกหกห่างไกลจากข้าพระองค์
ขออย่าให้ข้าพระองค์ยากจนหรือร่ำรวย
แต่ขอโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์
มิฉะนั้นข้าพระองค์อาจอิ่มหนำสำราญแล้วปฏิเสธพระเจ้า
และพูดว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นใครกัน?’
หรือข้าพระองค์อาจยากจนแล้วลักขโมย
ก็ลบหลู่พระนามพระเจ้าของข้าพระองค์

10 “อย่ากล่าวร้ายคนรับใช้ให้นายเขาฟัง
เกรงว่าผู้นั้นจะแช่งด่าเจ้า และเจ้าต้องชดใช้

11 “มีบางคนแช่งด่าพ่อ
และไม่อวยพรแม่ของตน
12 บางคนคิดว่าตัวเองบริสุทธิ์
ทั้งที่ยังไม่ได้รับการชำระมลทิน
13 บางคนยโสโอหังยิ่งนัก
บางคนปรายตาดูถูกผู้อื่น
14 บางคนฟันของเขาคือดาบ
บางคนกรามของเขาคือมีด
เขมือบผู้ยากไร้ไปจากแผ่นดิน
เขมือบคนขัดสนจากมวลมนุษยชาติ

15 “ปลิงมีปากสองปาก
มันร้องว่า ‘เอาอีก! เอาอีก!’

“มีสามสิ่งที่ไม่เคยอิ่มหนำ
ที่จริง มีสี่สิ่งที่ไม่เคยพูดว่า ‘พอแล้ว!’
16 คือแดนผู้ตายครรภ์ของหญิงหมัน
แผ่นดินที่ไม่เคยอิ่มน้ำ
และไฟที่ไม่เคยพูดว่า ‘พอแล้ว!’

17 “ตาที่เย้ยหยันพ่อ
ที่ดูหมิ่นไม่เชื่อฟังแม่ผู้ชรา
จะถูกกาแห่งหุบเขาจิกออกมา
จะถูกแร้งรุมกิน

18 “มีสามสิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าประหลาดใจ
ที่จริง มีสี่สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ
19 คือการเคลื่อนไหวของนกอินทรีในท้องฟ้า
การเลื้อยของงูบนก้อนหิน
การแล่นของเรือในท้องทะเล
และความสัมพันธ์ของชายหนุ่มกับหญิงสาว
20 นี่คือการปรนเปรอตนเองของหญิงสำส่อน
นางกินแล้วเช็ดปาก
และพูดว่า ‘ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด’

21 “มีสามสิ่งที่ทำให้แผ่นดินโลกสั่นสะเทือน
ที่จริง มีสี่สิ่งซึ่งโลกทนไม่ได้
22 คือคนรับใช้ที่กลายเป็นกษัตริย์
คนโฉดเขลาที่มีอาหารเหลือเฟือ
23 หญิงที่ไม่มีใครรักได้แต่งงาน
สาวใช้ที่ครองตำแหน่งแทนนายหญิง

24 “มีสี่สิ่งในโลกซึ่งเล็กกระจิริด
แต่ฉลาดเหลือล้ำ ได้แก่
25 มด กำลังน้อยนิด
แต่ก็ยังรู้จักสะสมอาหารในฤดูร้อน
26 ตัวตุ่นผา แรงน้อย
แต่ก็ยังทำรังในซอกหิน
27 ตั๊กแตน ไม่มีราชา
แต่ก็ยังรวมตัวกันไปเป็นขบวน
28 จิ้งจก เอามือจับก็ได้
แต่ก็ยังพบมันในพระราชวัง

29 “มีสามสิ่งที่มีท่วงท่าสง่างาม
ที่จริง มีสี่สิ่งซึ่งเคลื่อนไหวอย่างองอาจ
30 คือราชสีห์ ผู้เป็นเจ้าป่า
มันไม่ถอยหนีสิ่งใด
31 พ่อไก่ที่เดินป้อ แพะตัวผู้
และกษัตริย์ที่ไม่มีใครต่อต้าน

32 “หากเจ้าได้ทำตัวโง่เขลาด้วยการยกย่องตัวเอง
หรือหากเจ้าได้วางแผนชั่ว
จงเอามืออุดปากของเจ้าเสีย!
33 เพราะเมื่อกวนนมก็ได้เนย
หรือเมื่อกระแทกจมูกก็ได้เลือดกำเดาฉันใด
เมื่อกวนโมโหก็ได้การวิวาทฉันนั้น”

1 ทิโมธี 1

จดหมายฉบับนี้จากข้าพเจ้าเปาโลผู้เป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์ตามพระบัญชาของพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของเรา และของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นความหวังของเรา

ถึงทิโมธีลูกแท้ของข้าพเจ้าในความเชื่อ

ขอพระคุณ พระเมตตา และสันติสุขจากพระเจ้าพระบิดาและพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรามีแก่ท่าน

คำเตือนเกี่ยวกับผู้สอนผิด

ตามที่ข้าพเจ้าได้กำชับท่านเมื่อข้าพเจ้าไปยังแคว้นมาซิโดเนียว่าให้ท่านอยู่ที่เอเฟซัส เพื่อท่านจะได้กำชับบางคนไม่ให้สอนหลักข้อเชื่อผิดๆ อีกต่อไป ทั้งไม่ให้หมกมุ่นกับนิยายปรัมปราและลำดับวงศ์ตระกูลอันไม่รู้จบ ซึ่งเป็นการคาดเดาแบบส่งเดชมากกว่าจะส่งเสริมพระราชกิจของพระเจ้าซึ่งเป็นไปโดยความเชื่อ เป้าหมายของการกำชับนี้คือความรักอันมาจากใจบริสุทธิ์ จากจิตสำนึกที่ดีและจากความเชื่ออย่างจริงใจ บางคนหลงเตลิดไปจากสิ่งเหล่านี้ หันไปพูดจาไร้สาระ พวกเขาอยากจะเป็นครูสอนบทบัญญัติทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าตนเองพูดอะไรหรือยืนยันอย่างหนักแน่นถึงเรื่องอะไร

เรารู้อยู่ว่าบทบัญญัตินั้นดีหากใช้ในทางที่ถูก ซึ่งหมายความว่าบทบัญญัติไม่ได้มีขึ้นเพื่อผู้ชอบธรรม แต่มีขึ้นเพื่อคนชอบแหกกฎกับคนกบฏ คนอธรรมกับคนบาป คนไม่บริสุทธิ์กับคนไม่มีศาสนา คนฆ่าพ่อกับคนฆ่าแม่ ฆาตกร 10 คนสำส่อนและคนรักร่วมเพศ เพื่อคนค้าทาสกับคนโกหก และคนให้การเท็จ และเพื่อสิ่งอื่นๆ อีกสารพัดที่ขัดกับคำสอนอันมีหลัก 11 ซึ่งสอดคล้องกับข่าวประเสริฐอันรุ่งโรจน์ของพระเจ้าผู้ทรงเป็นที่สรรเสริญ คือข่าวประเสริฐที่ทรงมอบหมายให้ข้าพเจ้าประกาศนี้

พระคุณของพระเจ้าต่อเปาโล

12 ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราผู้ทรงประทานกำลังแก่ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเห็นว่าข้าพเจ้าสัตย์ซื่อจึงทรงแต่งตั้งข้าพเจ้าให้รับใช้พระองค์ 13 ถึงแม้ว่าครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยหมิ่นประมาทพระองค์ ข่มเหงผู้เชื่อและก่อความรุนแรง แต่พระองค์ทรงกรุณาข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าได้ทำไปด้วยความไม่รู้และไม่เชื่อ 14 พระคุณขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเราได้หลั่งลงมาแก่ข้าพเจ้าอย่างเหลือล้น พร้อมด้วยความเชื่อและความรักซึ่งอยู่ในพระเยซูคริสต์

15 ข้อความนี้เป็นความจริงซึ่งสมควรแก่การยอมรับโดยไม่มีข้อกังขา คือพระเยซูคริสต์เสด็จเข้ามาในโลกเพื่อช่วยคนบาปให้รอด และในบรรดาคนบาปข้าพเจ้าเป็นตัวร้ายที่สุด 16 แต่เนื่องด้วยเหตุนี้เองจึงทรงกรุณาข้าพเจ้าผู้เป็นตัวร้ายที่สุดในบรรดาคนบาป เพื่อพระเยซูคริสต์จะได้ทรงสำแดงความอดกลั้นพระทัยอันไม่จำกัดให้เป็นตัวอย่างแก่คนทั้งปวงที่จะเชื่อในพระองค์และรับชีวิตนิรันดร์ 17 บัดนี้ขอพระเกียรติและพระสิริมีแด่จอมราชันองค์นิรันดร์ผู้ทรงอมตะและเราไม่อาจมองเห็นได้ ผู้ทรงเป็นพระเจ้าแต่ผู้เดียวนั้นตลอดกาลสืบๆ ไปเป็นนิตย์ อาเมน

18 ทิโมธีลูกชายของข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้ากำชับท่านเช่นนี้ก็สอดคล้องกับคำเผยพระวจนะที่เคยมีมาเกี่ยวกับท่าน เพื่อเมื่อท่านปฏิบัติตามท่านจะได้ต่อสู้อย่างเข้มแข็ง 19 จงยึดมั่นในความเชื่อและจิตสำนึกอันดี บางคนละทิ้งข้อนี้ทำให้ความเชื่อของตนอับปาง 20 ในหมู่คนเหล่านี้ได้แก่ฮีเมเนอัสกับอเล็กซานเดอร์ ซึ่งข้าพเจ้ามอบไว้แก่ซาตานเพื่อเขาจะได้เรียนรู้ที่จะไม่หมิ่นประมาทพระเจ้า

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.