Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
กันดารวิถี 23

บาลาอัมทำนายเป็นครั้งแรก

23 บาลาอัมกล่าวว่า “จงก่อแท่นบูชาขึ้นที่นี่เจ็ดแท่น และเตรียมวัวหนุ่มกับแกะผู้อย่างละเจ็ดตัวให้ข้าพเจ้า” บาลาคก็ปฏิบัติตามโดยถวายวัวหนุ่มและแกะผู้อย่างละตัวบนแท่นแต่ละแท่น

แล้วบาลาอัมกล่าวกับบาลาคว่า “จงยืนอยู่ข้างเครื่องบูชาของท่านที่นี่ ข้าพเจ้าจะไปดูว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาหาข้าพเจ้าหรือไม่ แล้วข้าพเจ้าจะบอกให้ฟังว่าพระองค์ตรัสว่าอย่างไร” แล้วเขาก็ขึ้นไปบนยอดเนินเขา

พระเจ้ามาปรากฏแก่บาลาอัม และเขากราบทูลว่า “ข้าพระองค์ได้เตรียมแท่นบูชาเจ็ดแท่น และได้ถวายวัวหนุ่มกับแกะผู้อย่างละตัวบนแท่นแต่ละแท่น”

องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใส่ถ้อยคำในปากของบาลาอัมและตรัสว่า “จงกลับไปหาบาลาค และกล่าวกับเขาตามนี้”

บาลาอัมจึงกลับลงมา และพบบาลาคยืนอยู่ข้างเครื่องบูชาพร้อมด้วยบรรดาเจ้านายของโมอับ บาลาอัมจึงกล่าวคำพยากรณ์ว่า

“บาลาคนำข้าพเจ้ามาจากอารัม
กษัตริย์แห่งโมอับพาข้าพเจ้ามาจากภูเขาทางตะวันออก
เขากล่าวว่า ‘มาเถิด มาแช่งยาโคบให้เรา
จงมาประณามอิสราเอล’
ข้าพเจ้าจะสาปแช่ง
ผู้ที่พระเจ้าไม่ได้ทรงสาปแช่งได้อย่างไร?
ข้าพเจ้าจะประณาม
ผู้ที่องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงประณามได้อย่างไร?
จากยอดผา ข้าพเจ้าเห็นคนเหล่านั้น
จากเบื้องสูง ข้าพเจ้าแลเห็นพวกเขา
ข้าพเจ้าเห็นชนชาติหนึ่งอยู่ตามลำพัง
และไม่ได้ถือว่าตนเป็นหนึ่งในบรรดาประชาชาติ
10 ใครเล่าอาจนับยาโคบซึ่งมากมายดั่งผงธุลี?
ใครเล่าอาจนับแม้เพียงเสี้ยวของอิสราเอล?
ขอให้ข้าพเจ้าได้ตายอย่างคนชอบธรรมเถิด
ขอให้บั้นปลายชีวิตของข้าพเจ้าเป็นเช่นพวกเขาเถิด!”

11 บาลาคกล่าวกับบาลาอัมว่า “ท่านทำอะไร? เราพาท่านมาแช่งศัตรู ท่านกลับมาอวยพรพวกเขา!”

12 บาลาอัมตอบว่า “ข้าพเจ้าต้องพูดสิ่งที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงใส่ไว้ในปากของข้าพเจ้าไม่ใช่หรือ?”

คำทำนายครั้งที่สองของบาลาอัม

13 บาลาคจึงพูดกับเขาว่า “เชิญไปยังอีกที่หนึ่งกับข้าพเจ้า ที่นั่นท่านจะเห็นคนอิสราเอลเพียงส่วนหนึ่ง และจงสาปแช่งพวกเขาเพื่อข้าพเจ้าที่นั่น” 14 บาลาคจึงพาบาลาอัมไปยังทุ่งโศฟิม บนยอดเขาปิสกาห์ ก่อแท่นบูชาขึ้นเจ็ดแท่น และถวายวัวหนุ่มกับแกะผู้อย่างละตัวบนแท่นแต่ละแท่น

15 บาลาอัมบอกบาลาคว่า “จงยืนข้างเครื่องบูชาของท่าน ข้าพเจ้าจะไปเข้าเฝ้าพระเจ้าที่โน่น”

16 องค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาหาบาลาอัม ทรงใส่ถ้อยคำไว้ในปากของเขาและตรัสว่า “จงกลับไปหาบาลาคและกล่าวกับเขาตามนี้”

17 เขาจึงกลับมาหาบาลาคและพบเขากับเจ้านายของโมอับยืนอยู่ข้างเครื่องบูชา บาลาคถามว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสอะไรบ้าง?”

18 บาลาอัมจึงกล่าวคำพยากรณ์ว่า

“ลุกขึ้นเถิด บาลาค ฟังนะ
บุตรศิปโปร์เอ๋ย จงฟังเรา
19 พระเจ้าไม่ใช่มนุษย์ จะได้พูดมุสา
พระองค์ไม่ได้ทรงเปลี่ยนใจอย่างมนุษย์
มีหรือที่ทรงลั่นวาจาไว้แล้วไม่ทรงกระทำ?
หรือทรงสัญญาไว้แล้วไม่ทรงกระทำให้เป็นไปตามนั้น?
20 ข้าพเจ้าได้รับคำบัญชาให้อวยพร
พระเจ้าได้ทรงอวยพร ข้าพเจ้าไม่อาจกล่าวเป็นอื่น

21 “ไม่เห็นเคราะห์กรรมอันใดในยาโคบ
ไม่พบความทุกข์ยากใดในอิสราเอล[a]
องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าของพวกเขาสถิตกับพวกเขา
เสียงโห่ร้องถวายพรชัยองค์กษัตริย์อยู่ท่ามกลางพวกเขา
22 พระเจ้าทรงพาพวกเขาออกมาจากอียิปต์
พวกเขาทรงพลังอย่างกระทิง
23 ไม่มีอาถรรพ์ใดๆ ตกแก่ยาโคบ
ไม่อาจทำเวทมนตร์ใดๆ แก่อิสราเอล
ถึงเวลาแล้วที่จะพูดถึงยาโคบ
ที่จะพูดถึงอิสราเอลว่า ‘ดูสิ่งที่พระเจ้าทรงกระทำเถิด!’
24 ประชากรเหล่านี้ผงาดขึ้นมาเยี่ยงนางสิงห์
พวกเขาตื่นขึ้นเยี่ยงราชสีห์
พวกเขาจะไม่หยุดพักจนกว่าจะได้เขมือบเหยื่อ
และได้ดื่มเลือดของเหยื่อเสียก่อน”

25 บาลาคกล่าวกับบาลาอัมว่า “ถ้าท่านจะไม่แช่งด่าพวกเขา ก็อย่าอวยพรเขาเลย!”

26 บาลาอัมตอบว่า “ข้าพเจ้าบอกท่านแล้วไม่ใช่หรือว่าข้าพเจ้าจะต้องทำตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส?”

คำทำนายครั้งที่สามของบาลาอัม

27 บาลาคพูดกับบาลาอัมว่า “เราจะพาท่านไปอีกที่หนึ่ง พระเจ้าอาจพอพระทัยที่จะให้ท่านแช่งพวกเขาที่นั่น” 28 บาลาคจึงพาบาลาอัมไปที่ยอดเขาเปโอร์ซึ่งมองลงมาเห็นถิ่นกันดาร

29 บาลาอัมกล่าวว่า “จงก่อแท่นบูชาเจ็ดแท่นและเตรียมวัวหนุ่มเจ็ดตัวกับแกะผู้เจ็ดตัวเป็นเครื่องบูชา” 30 บาลาคก็ทำตามที่บาลาอัมกล่าว และถวายวัวหนุ่มและแกะผู้อย่างละหนึ่งตัวบนแท่นแต่ละแท่น

สดุดี 64-65

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด)

64 ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงฟังคำร้องทุกข์ของข้าพระองค์
ขอทรงปกป้องชีวิตข้าพระองค์ให้พ้นจากการคุกคามของเหล่าศัตรู

ขอทรงซ่อนข้าพระองค์ให้พ้นจากการสมรู้ร่วมคิดของเหล่าคนชั่ว
ให้พ้นจากอุบายของพวกคนชั่ว
พวกเขาลับลิ้นของตนอย่างลับดาบ
และพ่นวาจาดั่งยิงธนูอาบยาพิษ
พวกเขายิงใส่ผู้บริสุทธิ์จากที่ซุ่ม
พวกเขายิงทันทีอย่างไม่เกรงกลัว

เขาปลุกใจซึ่งกันและกันในการวางแผนชั่ว
พวกเขาพูดกันเรื่องวางกับดักล่อเหยื่อ
เขาพูดว่า “ใครจะเห็นมัน[a]?”
พวกเขาวางแผนการที่อยุติธรรมและพูดว่า
“เราได้วางแผนไว้อย่างยอดเยี่ยม!”
แน่นอน ความคิดและจิตใจของมนุษย์นั้นเจ้าเล่ห์นัก

แต่พระเจ้าเองจะทรงยิงธนูใส่เขา
เขาจะถูกโค่นล้มโดยไม่ทันรู้ตัว
พระองค์จะทำให้พวกเขาย่อยยับด้วยลิ้นของตนเอง
ทุกคนที่เห็นเขาจะส่ายหน้าเย้ยหยัน
มวลมนุษยชาติจะเกรงกลัว
จะป่าวประกาศพระราชกิจของพระเจ้า
และใคร่ครวญสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ

10 ให้คนชอบธรรมชื่นชมยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้า
และลี้ภัยในพระองค์
ให้ผู้มีจิตใจเที่ยงธรรมสรรเสริญพระองค์เถิด!

(ถึงหัวหน้านักร้อง บทสดุดีของดาวิด บทเพลง)

65 ข้าแต่พระเจ้า การสรรเสริญรอคอย[b]พระองค์อยู่ในศิโยน
ข้าพระองค์ทั้งหลายจะทำตามที่ถวายปฏิญาณไว้กับพระองค์
ข้าแต่พระเจ้า ผู้ทรงฟังคำอธิษฐาน
มวลมนุษยชาติจะมาเข้าเฝ้าพระองค์
เมื่อบาปท่วมท้นข้าพระองค์ทั้งหลาย
พระองค์ทรงอภัย[c]การล่วงละเมิดของข้าพระองค์ทั้งหลาย
ความสุขย่อมมีแก่ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรร
และทรงนำมาใกล้เพื่อให้อยู่ในที่พำนักของพระองค์!
ข้าพระองค์ทั้งหลายจะอิ่มเอมด้วยสิ่งดีจากพระนิเวศของพระองค์
จากพระวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์

พระองค์ทรงตอบข้าพระองค์ทั้งหลายโดยการสำแดงความชอบธรรมอย่างน่าครั่นคร้าม
ข้าแต่พระเจ้าองค์พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์ทั้งหลาย
ผู้ทรงเป็นความหวังของทั่วทุกมุมโลก
และของห้วงทะเลไกลโพ้นที่สุด
พระองค์ผู้ทรงสถาปนาภูเขาโดยพระเดชานุภาพ
ทรงมีพระกำลังเป็นอาวุธ
ผู้ทรงระงับเสียงครืนครั่นของท้องทะเล
เสียงครึกโครมของคลื่น
และเสียงโกลาหลของชนชาติต่างๆ
บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ไกลโพ้นหวั่นเกรงการอัศจรรย์ของพระองค์
ในที่ซึ่งฟ้าสางและในที่ซึ่งอาทิตย์อัสดง
พระองค์ทรงให้มีบทเพลงแห่งความชื่นบาน

พระองค์ทรงดูแลผืนแผ่นดินและรดน้ำให้
ทรงทะนุบำรุงแผ่นดินให้อุดมสมบูรณ์
สายธารของพระเจ้าเต็มเปี่ยมเพื่อให้ข้าวแก่ผู้คน
เพราะพระองค์ทรงบัญชาไว้เช่นนั้น[d]
10 พระองค์ทรงให้ฝนชุกรดตามรอยไถ
และทำให้ดินราบเป็นเนื้อเดียวกัน
ทรงให้สายฝนชโลมไล้ผิวดินให้อ่อนนุ่ม
และทรงอวยพระพรพืชพันธุ์
11 พระองค์ทรงอวยพรการเก็บเกี่ยวอย่างอุดมสมบูรณ์
และเกวียนของพระองค์ก็มีพืชพันธุ์ธัญญาหารล้นเหลือ
12 ทุ่งหญ้าเขียวขจีในทะเลทราย
เนินเขาปกคลุมด้วยความชื่นบาน
13 ท้องทุ่งเต็มไปด้วยฝูงแกะ
หุบเขาก็ดาษดื่นด้วยเมล็ดข้าว
ผู้คนโห่ร้องยินดีและขับเพลง

อิสยาห์ 13

คำพยากรณ์กล่าวโทษบาบิโลน

13 พระดำรัสเกี่ยวกับบาบิโลนซึ่งอิสยาห์บุตรอาโมศได้รับ

จงชูธงขึ้นเหนือยอดเขาหัวโล้น
จงร้องเรียกพวกเขา
จงส่งสัญญาณให้พวกเขา
เข้ามาทางประตูของบรรดาเจ้านาย
เราได้ออกคำสั่งแก่วิสุทธิชนของเรา
เราเรียกชุมนุมเหล่านักรบผู้ปีติยินดีในชัยชนะของเรา
ให้เป็นผู้ลบล้างโทสะของเรา

ฟังสิ เสียงอึกทึกบนภูเขา
ดั่งเสียงมหาชนล้นหลาม!
ฟังสิ เสียงครึกโครมในหมู่อาณาจักร
ดั่งเสียงชุมนุมประชาชาติ!
พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
ทรงกรีธาทัพมาเพื่อทำศึก
พวกเขามาจากดินแดนไกลโพ้น จากสุดขอบฟ้า
คือองค์พระผู้เป็นเจ้าและอาวุธแห่งพระพิโรธของพระองค์
เพื่อทำลายดินแดนทั้งหมด

จงร้องไห้เถิด เพราะวันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว
วันนั้นจะมาถึงดั่งหายนะจากองค์ทรงฤทธิ์
ด้วยเหตุนี้แขนทุกแขนจะอ่อนปวกเปียก
หัวใจทุกดวงจะระทดท้อ
ความหวาดกลัวจะจู่โจมพวกเขา
ความปวดร้าวและทุกข์ทรมานจะเกาะกุมพวกเขา
พวกเขาจะทุรนทุรายดั่งผู้หญิงเจ็บท้องใกล้คลอด
พวกเขาจะมองตากัน
ใบหน้าแดงก่ำ

ดูเถิด วันแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้าใกล้เข้ามา
เป็นวันหฤโหด มาพร้อมกับความกริ้วและพระพิโรธอันรุนแรง
เพื่อทำให้ดินแดนนั้นเริศร้าง
และทำลายคนบาปทั้งปวงซึ่งอยู่ที่นั่น
10 เหล่าดวงดาวบนท้องฟ้าและหมู่ดาว
จะไม่ฉายแสง
ดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นจะถูกดับ
และดวงจันทร์จะไม่ทอแสง
11 เราจะลงโทษโลกเพราะความชั่วร้าย
ลงโทษคนชั่วเพราะบาปของพวกเขา
เราจะยุติความเย่อหยิ่งของคนทะนง
และจะทำให้ความอหังการของคนอำมหิตต่ำลง
12 เราจะทำให้มนุษย์หายากยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์
หายากยิ่งกว่าทองคำของเมืองโอฟีร์
13 ดังนั้นเราจะทำให้ฟ้าสวรรค์สั่นสะท้าน
และโลกจะกระเด็นจากที่ตั้งของมัน
โดยพระพิโรธของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์
ในวันแห่งพระพิโรธอันรุนแรงของพระองค์

14 แต่ละคนจะหันกลับไปหาพี่น้องร่วมชาติ
จะหนีกลับไปบ้านเกิดเมืองนอน
ดั่งละมั่งที่ถูกล่า
ดั่งแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง
15 ใครที่ถูกจับเป็นเชลยจะถูกแทงทะลุ
ทุกคนที่ถูกจับได้จะล้มตายด้วยดาบ
16 ลูกเล็กเด็กแดงของพวกเขาจะถูกจับฟาดจนแหลกเป็นชิ้นๆ ต่อหน้าต่อตา
บ้านของพวกเขาจะถูกปล้น และภรรยาจะถูกข่มขืน

17 ดูเถิด เราจะเร่งเร้าชาวมีเดีย
ผู้ไม่แยแสเงินและไม่ใส่ใจทอง
มาต่อสู้กับพวกเขา
18 ธนูของเขาจะสังหารพวกคนหนุ่ม
เขาจะไม่ปรานีเด็กอ่อน
หรือเวทนาสงสารผู้เยาว์
19 บาบิโลน มณีแห่งอาณาจักรทั้งหลาย
ศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของชาวบาบิโลน[a]
จะถูกพระเจ้าล้มล้าง
เหมือนเมืองโสโดมและโกโมราห์
20 ตลอดทุกชั่วอายุจะไม่มีใครมาตั้งรกรากอีกต่อไป
ไม่มีใครมาอาศัยตลอดทุกชั่วอายุ
ไม่มีชาวอาหรับมาตั้งเต็นท์
ไม่มีคนเลี้ยงแกะพาฝูงแกะมาพักอีก
21 แต่สัตว์ป่าแห่งถิ่นทะเลทรายจะนอนอยู่ที่นั่น
บ้านเรือนทั้งหลายจะเต็มไปด้วยหมาใน
นกเค้าแมวจะอาศัยอยู่ที่นั่น
ที่นั่นแพะป่าจะโลดเต้นไปมา
22 บรรดาหมาป่าไฮยีน่าจะเห่าหอนอยู่ในป้อมปราการ
เหล่าหมาในอยู่ในปราสาทราชวังอันโอ่อ่าของเมืองนั้น
กำหนดเวลาของมันใกล้เข้ามาแล้ว
และไม่มีการยืดเวลาออกไปอีก

1 เปโตร 1

จดหมายฉบับนี้จากข้าพเจ้าเปโตรผู้เป็นอัครทูตของพระเยซูคริสต์

ถึงบรรดาผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรรไว้ ท่านทั้งหลายคือคนแปลกหน้าที่อาศัยในโลกเพียงชั่วคราว ผู้ได้กระจัดกระจายไปทั่วแคว้นปอนทัส กาลาเทีย คัปปาโดเซีย เอเชียและบิธีเนีย พระเจ้าพระบิดาได้ทรงเลือกสรรพวกท่านตามที่พระองค์ทรงทราบล่วงหน้าแล้วผ่านทางการทรงชำระให้บริสุทธิ์ของพระวิญญาณ เพื่อให้พวกท่านมาเชื่อฟังพระเยซูคริสต์และรับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระองค์

ขอพระคุณและสันติสุขมีแด่พวกท่านอย่างล้นเหลือ

สรรเสริญพระเจ้าสำหรับความหวังอันยืนยง

สรรเสริญพระเจ้าพระบิดาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา! ด้วยพระเมตตายิ่งใหญ่พระองค์ทรงให้เราทั้งหลายบังเกิดใหม่เข้าในความหวังอันยืนยงโดยการเป็นขึ้นจากตายของพระเยซูคริสต์ และเข้าในมรดกอันไม่มีวันเสื่อมสลาย เน่าเสียหรือเลือนหายไปซึ่งทรงเตรียมไว้ในสวรรค์เพื่อพวกท่าน โดยความเชื่อพระเจ้าได้ทรงปกป้องพวกท่านไว้ด้วยฤทธานุภาพของพระองค์จนถึงความรอดซึ่งพร้อมแล้วที่จะทรงสำแดงในยุคสุดท้าย พวกท่านชื่นชมยินดียิ่งนักในเรื่องนี้ แม้ขณะนี้ท่านต้องทนความทุกข์โศกชั่วระยะหนึ่งจากการทดลองสารพัดอย่าง สิ่งเหล่านี้มีมาเพื่อพิสูจน์ว่าท่านมีความเชื่อแท้ ความเชื่อนี้ล้ำค่ายิ่งกว่าทองคำซึ่งเสื่อมสลายไปแม้ได้ทำให้บริสุทธิ์แล้วด้วยไฟ ความเชื่อนี้ก่อให้เกิดคำสรรเสริญ เกียรติและศักดิ์ศรีเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จมาปรากฏ แม้ท่านยังไม่เห็นพระองค์แต่ก็รักพระองค์ แม้ขณะนี้ท่านไม่เห็นพระองค์ แต่ก็เชื่อในพระองค์และเปี่ยมด้วยความชื่นชมยินดีอันยิ่งใหญ่สุดจะพรรณนา เพราะท่านกำลังรับความรอดแห่งจิตวิญญาณของท่านอันเป็นเป้าหมายแห่งความเชื่อของท่าน

10 บรรดาผู้เผยพระวจนะผู้ได้กล่าวถึงพระคุณที่จะมีมาถึงท่านนั้น ได้ตั้งใจสืบเสาะค้นหาอย่างถี่ถ้วนที่สุดเกี่ยวกับความรอดนี้ 11 พวกเขาพยายามพิเคราะห์ดูว่าสิ่งที่พระวิญญาณของพระคริสต์ในพวกเขาได้บ่งชี้ไว้นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อใดและจะเกิดขึ้นอย่างไร เมื่อพระองค์ได้ทำนายถึงการทนทุกข์ของพระคริสต์และบรรดาพระเกียรติสิริที่จะตามมา 12 พวกเขาได้รับการสำแดงว่าสิ่งต่างๆ ที่ได้พยากรณ์ถึงนั้นไม่ใช่เพื่อพวกเขาเอง แต่เพื่อพวกท่าน บัดนี้บรรดาผู้ประกาศข่าวประเสริฐได้แจ้งสิ่งต่างๆ เหล่านี้แก่ท่านแล้วโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ซึ่งส่งมาจากสวรรค์ แม้แต่ทูตสวรรค์ยังปรารถนาจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้

จงบริสุทธิ์

13 เพราะฉะนั้นจงเตรียมความคิดจิตใจให้พร้อม จงรู้จักบังคับตนเอง จงตั้งความหวังแน่วแน่ในพระคุณซึ่งจะประทานแก่ท่านเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จมาปรากฏ 14 ในฐานะลูกที่เชื่อฟัง อย่าดำเนินตามตัณหาชั่วซึ่งท่านเคยมีเมื่อใช้ชีวิตอย่างผู้ที่ไม่รู้ความจริง 15 แต่ท่านทั้งหลายจงบริสุทธิ์ในการทุกอย่างที่ท่านทำเหมือนอย่างที่พระองค์ผู้ทรงเรียกท่านนั้นบริสุทธิ์ 16 เพราะมีเขียนไว้ว่า “จงบริสุทธิ์เพราะเราบริสุทธิ์”[a]

17 ในเมื่อท่านทูลต่อพระบิดาผู้ทรงตัดสินการกระทำของแต่ละคนโดยไม่ลำเอียง ก็จงดำเนินชีวิตด้วยความเคารพยำเกรงในฐานะที่เป็นคนแปลกหน้าในโลกนี้ 18 เพราะท่านรู้ว่าพระองค์ได้ทรงไถ่ท่านพ้นจากวิถีชีวิตอันไร้แก่นสารซึ่งท่านรับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ พระองค์ไม่ได้ทรงไถ่ท่านด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้เช่นเงินหรือทอง 19 แต่ด้วยพระโลหิตล้ำค่าของพระคริสต์ผู้เป็นลูกแกะอันปราศจากตำหนิหรือข้อบกพร่องใดๆ 20 พระองค์ได้ทรงเลือกสรรพระคริสต์ไว้ตั้งแต่ก่อนทรงสร้างโลก แต่ทรงให้พระคริสต์ปรากฏในวาระสุดท้ายนี้เพื่อท่านทั้งหลาย 21 โดยทางพระคริสต์ท่านจึงเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตายและประทานพระเกียรติสิริให้แก่พระองค์ ดังนั้นความเชื่อและความหวังของท่านจึงอยู่ในพระเจ้า

22 บัดนี้เมื่อท่านได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ด้วยการเชื่อฟังความจริงเพื่อจะรักพี่น้องอย่างจริงใจแล้ว ก็จงรักกันอย่างลึกซึ้งด้วยใจจริง[b] 23 เพราะท่านได้บังเกิดใหม่แล้ว ไม่ใช่เกิดจากเมล็ดพันธุ์อันเสื่อมสลายได้ แต่จากเมล็ดพันธุ์อันไม่รู้เสื่อมสลายคือพระวจนะของพระเจ้าอันทรงชีวิตและยืนยงถาวร 24 เพราะ

“มวลมนุษยชาตินั้นเหมือนหญ้า
และเกียรติทั้งปวงของพวกเขาเหมือนดอกไม้ในท้องทุ่ง
ต้นหญ้าเหี่ยวเฉาและดอกไม้ร่วงโรยไป
25 แต่พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้ายืนยงนิรันดร์”[c]

และพระวจนะนั้นคือข่าวประเสริฐซึ่งได้ประกาศแก่ท่านแล้ว

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.