Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
2 พงศาวดาร 30

ฉลองเทศกาลปัสกา

30 เฮเซคียาห์แจ้งให้ทั่วหน้าทั้งอิสราเอลและยูดาห์ และมีสาสน์ถึงเอฟราอิมและมนัสเสห์ เชิญให้พวกเขามายังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้าที่เยรูซาเล็ม เพื่อฉลองเทศกาลปัสกาแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล กษัตริย์ บรรดาขุนนาง และที่ประชุมในเยรูซาเล็มได้ตัดสินใจฉลองเทศกาลปัสกาในเดือนที่สอง พวกเขาไม่สามารถฉลองได้ตามกำหนด[a] เนื่องจากบรรดาปุโรหิตชำระตัวให้บริสุทธิ์เพียงไม่กี่คน และประชาชนไม่ได้มาชุมนุมร่วมกันในเยรูซาเล็ม กษัตริย์และที่ประชุมทั้งปวงจึงเห็นว่าแผนงานนี้ดูเหมาะสม เขาทั้งหลายจึงได้ตัดสินใจส่งคำประกาศไปทั่วอิสราเอล ตั้งแต่เบเออร์เช-บาถึงดาน เชิญประชาชนให้มาฉลองเทศกาลปัสกาแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอลที่เยรูซาเล็ม เพราะนานแล้วที่คนจำนวนมากไม่ได้มาฉลองให้พร้อมเพรียงกันอย่างที่ระบุไว้ในกฎบัญญัติ

ดังนั้นคนเดินข่าวด่วนจึงนำสาสน์จากกษัตริย์และบรรดาขุนนาง แจ้งไปทั่วอิสราเอลและยูดาห์ ตามที่กษัตริย์ได้บัญชาว่า “โอ ประชาชนของอิสราเอล จงกลับมาหาพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอับราฮัม อิสอัค และอิสราเอล เพื่อพระองค์จะได้กลับมาหาท่านที่ยังมีชีวิตเหลืออยู่ ที่ได้หนีรอดมาจากมือของบรรดากษัตริย์แห่งอัสซีเรีย อย่าเป็นเหมือนบรรพบุรุษและพี่น้องของพวกท่าน ผู้ไม่ภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา พระองค์จึงทำให้เกิดความวิบัติกับพวกเขา ดังที่ท่านก็เห็น บัดนี้ จงอย่าดื้อรั้นเหมือนบรรพบุรุษของท่าน แต่จงยอมเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า และมายังที่พำนักของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้ชำระให้บริสุทธิ์เป็นนิตย์ และจงรับใช้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เพื่อความกริ้วอันร้อนแรงของพระองค์จะหันไปจากท่าน เพราะถ้าท่านกลับมาหาพระผู้เป็นเจ้า บรรดาพี่น้องและบุตรทั้งหลายของท่านก็จะได้รับความสงสารจากผู้ที่จับตัวพวกเขาไป และจะได้กลับมายังแผ่นดินนี้ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมีพระคุณและความเมตตา และจะไม่หันหน้าไปจากท่าน ถ้าหากว่าท่านกลับมาหาพระองค์”

10 ดังนั้น บรรดาคนเดินข่าวด่วนจึงตระเวนไปแต่ละเมืองทั่วดินแดนเอฟราอิมและมนัสเสห์ ไปไกลจนถึงเศบูลุน แต่ประชาชนหัวเราะเยาะ และดูหมิ่นพวกเขา 11 แม้กระนั้น บางคนจากตระกูลอาเชอร์ มนัสเสห์ และเศบูลุน ก็ถ่อมตัวลง และไปยังเยรูซาเล็ม 12 มือของพระเจ้าสถิตกับยูดาห์ด้วย เพื่อให้พวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน กระทำสิ่งที่กษัตริย์และบรรดาขุนนางได้บัญชาตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า

13 ผู้คนจำนวนมากมาชุมนุมกันในเยรูซาเล็ม เพื่อฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อในเดือนที่สอง เป็นการชุมนุมร่วมกันครั้งยิ่งใหญ่ 14 เขาทั้งหลายเริ่มทำงานและเอาแท่นบูชาหลายแห่งออกไปจากเยรูซาเล็ม และขนแท่นสำหรับเผาเครื่องหอมอื่นๆ ออกไปโยนทิ้งในหุบเขาขิดโรน 15 พวกเขาฆ่าลูกแกะปัสกาในวันที่สิบสี่ของเดือนที่สอง บรรดาปุโรหิตและชาวเลวีรู้สึกละอายใจ พวกเขาจึงชำระตัวให้บริสุทธิ์ และนำสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายมายังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า 16 พวกเขาเข้าประจำตำแหน่ง ตามกฎบัญญัติของโมเสสคนของพระเจ้า บรรดาปุโรหิตประพรมเลือดที่รับจากมือของชาวเลวี 17 มีหลายคนในที่ชุมนุมยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ ฉะนั้นชาวเลวีจึงต้องฆ่าลูกแกะปัสกาให้ทุกๆ คนที่ไม่บริสุทธิ์ในพิธี เพื่อถวายลูกแกะที่บริสุทธิ์สำหรับพระผู้เป็นเจ้า 18 เนื่องจากคนส่วนใหญ่มาจากตระกูลเอฟราอิม มนัสเสห์ อิสสาคาร์ และเศบูลุน ยังไม่ได้ชำระตัวให้บริสุทธิ์ แต่ก็รับประทานในเทศกาลปัสกา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ตรงกับที่ระบุในกฎบัญญัติ[b] เฮเซคียาห์ได้กล่าวคำอธิษฐานเผื่อพวกเขาว่า “ขอพระผู้เป็นเจ้าผู้ประเสริฐให้อภัยทุกคน 19 ที่มีใจแสวงหาพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของเขา แม้ว่าจะไม่ปฏิบัติตามกฎในเรื่องความบริสุทธิ์ของสถานที่บริสุทธิ์” 20 และพระผู้เป็นเจ้าฟังคำของเฮเซคียาห์ และโปรดรักษาโรคของประชาชน 21 ประชาชนของอิสราเอลที่อยู่ในเยรูซาเล็มฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อด้วยความยินดียิ่งเป็นเวลา 7 วัน ชาวเลวีและปุโรหิตก็สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าทุกวันด้วยการร้องเพลงถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าด้วยสุดกำลังของพวกเขา 22 เฮเซคียาห์กล่าวให้กำลังใจแก่ชาวเลวีทั้งปวงที่ชำนาญในการปฏิบัติงานของพระผู้เป็นเจ้า ดังนั้นเขาทั้งปวงจึงรับประทานอาหารของเทศกาล 7 วัน และมอบของถวายเพื่อสามัคคีธรรม และขอบคุณพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของบรรพบุรุษของพวกเขา

23 หลังจากนั้น ผู้ชุมนุมทั้งปวงก็ตกลงที่จะฉลองเทศกาลต่ออีก 7 วัน ดังนั้นพวกเขาจึงฉลองเทศกาลกันต่อไปอีก 7 วันด้วยความยินดี 24 เฮเซคียาห์กษัตริย์แห่งยูดาห์มอบของถวายเป็นโคตัวผู้ 1,000 ตัว และแกะ 7,000 ตัว ให้แก่ผู้ที่มาชุมนุม และบรรดาขุนนางมอบโคตัวผู้ 1,000 ตัว และแกะ 10,000 ตัว และบรรดาปุโรหิตจำนวนมากก็ชำระตัวให้บริสุทธิ์ 25 ผู้ที่มาชุมนุมทั้งปวงของยูดาห์ บรรดาปุโรหิตและชาวเลวี ผู้ที่มาชุมนุมทั้งหมดที่มาจากอิสราเอล ชาวต่างด้าวที่มาจากแผ่นดินอิสราเอล และชาวต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในยูดาห์ ต่างก็ชื่นชมยินดี 26 ดังนั้นจึงมีความยินดียิ่งนักในเยรูซาเล็ม เพราะตั้งแต่สมัยของซาโลมอนบุตรของดาวิดกษัตริย์แห่งอิสราเอล ไม่เคยมีการฉลองอย่างนี้มาก่อนในเยรูซาเล็ม 27 แล้วบรรดาปุโรหิตและชาวเลวีก็ลุกขึ้นอวยพรประชาชน และพระเจ้าฟังเสียงของพวกเขา และคำอธิษฐานของพวกเขาขึ้นไปยังสถานที่บริสุทธิ์ของพระองค์ในเบื้องฟ้าสวรรค์

วิวรณ์ 16

ขัน 7 ใบแห่งการลงโทษ

16 แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงดังจากพระวิหารกล่าวแก่ทูตสวรรค์ 7 องค์ว่า “ไปเถิด แล้วเอาขัน 7 ใบแห่งการลงโทษของพระเจ้าเทลงบนแผ่นดินโลก”

ทูตสวรรค์องค์แรกจึงออกไปและเทขันของท่านลงสู่แผ่นดินโลก คนทั้งหลายที่มีเครื่องหมายของอสุรกายและนมัสการรูปจำลองของตัวมัน ก็เกิดมีฝีร้ายที่ทำให้เจ็บปวดทรมาน

ทูตสวรรค์องค์ที่สองเทขันของท่านลงสู่ทะเล และทะเลก็กลายเป็นเลือดเหมือนเลือดของคนตาย และทุกสิ่งที่มีชีวิตในทะเลก็ตายสิ้น

ทูตสวรรค์องค์ที่สามเทขันของท่านลงสู่แม่น้ำและบ่อน้ำพุ และน้ำก็กลายเป็นเลือด ครั้นแล้ว ข้าพเจ้าได้ยินทูตสวรรค์ที่ดูแลน้ำพูดว่า

“พระองค์เป็นผู้มีความยุติธรรม
    องค์ผู้บริสุทธิ์ผู้ดำรงอยู่ในปัจจุบันและในอดีต
    เพราะพระองค์พิพากษาสิ่งเหล่านี้
ด้วยเหตุว่าเขาเหล่านั้นได้ทำให้บรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าและผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าหลั่งโลหิต
    และพระองค์ได้ให้พวกเขาดื่มโลหิต ตามที่พวกเขาสมควรได้รับ”

แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงตอบจากแท่นบูชาว่า

“จริงทีเดียว พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจอมโยธา
    การพิพากษาของพระองค์เป็นจริงและยุติธรรม”

ทูตสวรรค์องค์ที่สี่ก็เทขันของท่านลงบนดวงอาทิตย์ และดวงอาทิตย์ก็ได้รับอนุญาตให้ใช้ไฟเผาไหม้มนุษย์ได้ด้วยไฟ แล้วมนุษย์ก็ถูกความร้อนอันแรงกล้าแผดเผา พวกเขาพูดหมิ่นประมาทพระนามของพระเจ้าผู้มีอานุภาพเหนือภัยพิบัติเหล่านี้ แต่พวกเขาก็ไม่ยอมกลับใจและไม่สรรเสริญพระบารมีของพระองค์

10 ทูตสวรรค์องค์ที่ห้าก็เทขันของท่านลงบนบัลลังก์ของอสุรกาย ซึ่งทำให้อาณาจักรของมันมืดมิด เหล่ามนุษย์กัดลิ้นของตนเนื่องจากความเจ็บปวด 11 แล้วก็พูดหมิ่นประมาทพระเจ้าแห่งสวรรค์เพราะความเจ็บปวดและแผลของพวกเขา แต่ก็ไม่กลับใจจากการประพฤติตน

12 ทูตสวรรค์องค์ที่หกก็เทขันของท่านลงสู่แม่น้ำยูเฟรติสที่ยิ่งใหญ่ ทำให้น้ำแห้ง เพื่อเตรียมทางให้กษัตริย์ทั้งปวงที่มาจากทิศตะวันออก 13 ข้าพเจ้าเห็นวิญญาณร้าย 3 ดวงที่ดูเหมือนตัวกบออกมาจากปากมังกร จากปากอสุรกาย และจากปากผู้เผยคำกล่าวจอมปลอม 14 มันเป็นวิญญาณของพวกมารที่แสดงปรากฏการณ์อัศจรรย์ และมันออกไปรวบรวมกษัตริย์ทั้งปวงทั่วโลก เพื่อให้มาสมทบกันทำสงครามในวันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจอมโยธา

15 “ดูเถิด เรามาประดุจขโมยมา คนที่ตื่นอยู่และเก็บเสื้อผ้าของตนพร้อมไว้ก็เป็นสุข เพื่อเขาจะได้ไม่ต้องเดินเปลือยกายและอับอายผู้คน”

16 ครั้นแล้วพวกมันก็ให้กษัตริย์ทั้งปวงมาชุมนุมกัน ณ สถานที่ซึ่งภาษาฮีบรูเรียกว่า อาร์มาเกโดน

17 ทูตสวรรค์องค์ที่เจ็ดก็เทขันของท่านลงในอากาศ มีเสียงดังมาจากบัลลังก์ของพระวิหารว่า “สิ้นสุดแล้ว” 18 ครั้นแล้วก็เกิดสายฟ้าแลบ เสียงต่างๆ เสียงฟ้าคำรามครืนครั่นหลายครั้ง และมีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ไม่เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใดที่เหมือนครั้งนี้เลย นับตั้งแต่มนุษย์เคยอยู่มาบนแผ่นดินโลก เป็นแผ่นดินไหวครั้งที่ร้ายแรงที่สุด 19 เมืองอันยิ่งใหญ่ก็ถูกแยกออกเป็น 3 ส่วน และเมืองต่างๆ ของประเทศทั้งปวงก็ถล่มทลายลง พระเจ้าไม่ลืมบาบิโลนเมืองอันยิ่งใหญ่ และได้ให้นางดื่มจากถ้วยที่มีเหล้าองุ่นของความโกรธกริ้วแห่งการลงโทษของพระองค์ 20 เกาะทุกเกาะหายไป และภูเขาทั้งหลายก็ไม่มีใครหาพบ 21 พายุลูกเห็บซึ่งมีน้ำหนักประมาณลูกละ 45 กิโลกรัมตกลงจากฟ้าสวรรค์ใส่ตัวคน แล้วคนทั้งปวงก็หมิ่นประมาทพระเจ้า เนื่องจากภัยพิบัติที่เกิดจากลูกเห็บร้ายแรงยิ่งนัก

เศคาริยาห์ 12:1-13

พระผู้เป็นเจ้าจะให้ความรอดพ้น

12 คำพยากรณ์แห่งคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้าเกี่ยวกับอิสราเอล พระผู้เป็นเจ้าผู้สร้างฟ้าสวรรค์ให้แผ่กว้างออกไป และวางฐานรากของแผ่นดินโลก และสร้างจิตวิญญาณให้อยู่ในร่างของมนุษย์ ประกาศดังนี้ “ดูเถิด เรากำลังจะทำเยรูซาเล็มให้เป็นถ้วยมึนเมาแก่ประชาชนที่อยู่โดยรอบ การที่เยรูซาเล็มถูกล้อมทำให้ยูดาห์ถูกกระทำเช่นเดียวกัน ในวันนั้น เราจะทำให้เยรูซาเล็มเป็นหินหนักก้อนหนึ่งสำหรับชนชาติทั้งปวง ทุกคนที่ยกหินก็จะเจ็บตัวอย่างแน่นอน และประชาชาติทั้งปวงของแผ่นดินโลกจะร่วมกันต่อต้านเมือง ในวันนั้น เราจะทำให้ม้าทุกตัวตื่นตระหนก และคนขี่จะบ้าระห่ำ” พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ “เราจะจับตาเฝ้าดูพงศ์พันธุ์ของยูดาห์ แต่เราจะทำให้ม้าทั้งปวงของทุกชนชาติตาบอด แล้วบรรดาผู้นำของยูดาห์จะคิดในใจว่า ‘ผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มเข้มแข็งได้ก็เพราะพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธาเป็นพระเจ้าของพวกเขา’

ในวันนั้น เราจะทำให้บรรดาผู้นำของยูดาห์เป็นเหมือนหม้อที่ร้อนดั่งเพลิงในกองถ่าน เหมือนคบไฟลุกฟางข้าว และเขาจะปราบประชาชนทั้งปวงที่อยู่รอบด้านทั้งซ้ายและขวา ขณะที่เยรูซาเล็มจะมีผู้อยู่อาศัยในที่ของตนอย่างมั่นคง

พระผู้เป็นเจ้าจะให้ยูดาห์ได้รับความรอดพ้นก่อนผู้อื่น เพื่อเกียรติของพงศ์พันธุ์ของดาวิดและผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็มจะไม่ล้ำหน้ายูดาห์ ในวันนั้น พระผู้เป็นเจ้าจะปกป้องผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็ม เพื่อบรรดาผู้อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาจะเป็นเหมือนดาวิด และพงศ์พันธุ์ของดาวิดจะเป็นเหมือนกับพระเจ้า เหมือนทูตสวรรค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่นำหน้าพวกเขาไป และในวันนั้น เราพร้อมที่จะทำลายประชาชาติทั้งปวงที่มาต่อต้านเยรูซาเล็ม

องค์ผู้ที่พวกเขาได้แทง

10 และเราจะหลั่งวิญญาณแห่งพระคุณและคำขอร้องสู่พงศ์พันธุ์ของดาวิดและสู่บรรดาผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็ม พวกเขาจะมองดูองค์ผู้ที่พวกเขาได้แทง[a] พวกเขาจะครวญคร่ำร่ำไห้ถึงพระองค์ ราวกับผู้ที่ครวญคร่ำร่ำไห้ถึงบุตรคนเดียวของตน และร้องไห้อย่างขมขื่นถึงพระองค์ อย่างผู้ที่ร้องไห้ถึงบุตรหัวปี 11 ในวันนั้น การครวญคร่ำร่ำไห้ในเยรูซาเล็มจะหนักเท่ากับการครวญคร่ำร่ำไห้แก่ฮาดัดริมโมนบนที่ราบเมกิดโด 12 แผ่นดินจะครวญคร่ำร่ำไห้ แต่ละครอบครัวตามลำพัง ครอบครัวของพงศ์พันธุ์ของดาวิดตามลำพัง และบรรดาภรรยาของพวกเขาตามลำพัง ครอบครัวของพงศ์พันธุ์ของนาธาน[b]ตามลำพัง และบรรดาภรรยาของพวกเขาตามลำพัง 13 ครอบครัวของพงศ์พันธุ์ของเลวีตามลำพัง และบรรดาภรรยาของพวกเขาตามลำพัง ครอบครัวของชาวชิเมอี[c]ตามลำพัง และบรรดาภรรยาของพวกเขาตามลำพัง 14 และครอบครัวทั้งปวงที่เหลือ ต่างก็ครวญคร่ำร่ำไห้ตามลำพัง และบรรดาภรรยาของพวกเขาตามลำพัง

13 ในวันนั้น จะมีน้ำพุแห่งหนึ่งพวยพุ่งให้แก่พงศ์พันธุ์ของดาวิดและบรรดาผู้อยู่อาศัยของเยรูซาเล็ม เพื่อชำระพวกเขาให้สะอาดจากบาปและมลทิน”

ยอห์น 15

เถาองุ่นแท้

15 เราคือเถาองุ่นแท้ และพระบิดาของเราคือผู้ดูแลรักษาสวน พระองค์ตัดทุกกิ่งก้านที่เป็นส่วนหนึ่งของเราซึ่งไม่ออกผลทิ้งเสีย กิ่งก้านใดที่ผลิดอกออกผล พระองค์จะตัดแต่งให้ออกผลมากขึ้น บัดนี้พวกเจ้าสะอาดแล้วเพราะคำกล่าวที่เราได้ให้แก่เจ้า จงดำรงอยู่ในเราและเราจะดำรงอยู่ในพวกเจ้า กิ่งก้านจะให้ผลตามลำพังไม่ได้ นอกจากว่าจะติดอยู่กับเถาองุ่น พวกเจ้าจะเกิดผลเองไม่ได้ นอกจากเจ้าจะดำรงอยู่ในเรา เราคือเถาองุ่น ส่วนพวกเจ้าคือกิ่งก้าน ผู้ที่ดำรงอยู่ในเราและเราดำรงอยู่ในเขา ผู้นั้นก็จะให้ผลมาก หากแยกห่างจากเราไปแล้ว พวกเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าผู้ใดไม่ดำรงอยู่ในเรา เขาก็เหมือนกิ่งก้านที่จะถูกโยนทิ้งให้แห้งตาย รังแต่จะมีคนเก็บไปเผาไฟทิ้ง ถ้าเจ้าดำรงอยู่ในเรา และคำกล่าวของเราดำรงอยู่ในเจ้าแล้ว จงขอสิ่งที่เจ้าปรารถนา แล้วเจ้าก็จะได้รับสิ่งนั้น เมื่อเจ้าให้ผลมาก พระบิดาของเราก็ได้รับพระบารมี และพวกเจ้าก็จะเป็นบรรดาสาวกของเรา พระบิดารักเราเช่นไร เราก็รักเจ้าเช่นนั้น จงดำรงอยู่ในความรักของเรา 10 ถ้าพวกเจ้าปฏิบัติตามบัญญัติของเรา เจ้าก็ย่อมดำรงอยู่ในความรักของเราด้วย เช่นเดียวกับที่เราได้ปฏิบัติตามบัญญัติของพระบิดา และดำรงอยู่ในความรักของพระองค์ 11 เราพูดถึงสิ่งเหล่านี้กับเจ้า เพื่อให้ความยินดีของเราดำรงอยู่ในตัวเจ้า และความยินดีของเจ้าจะได้เต็มเปี่ยม

12 บัญญัติของเราคือให้พวกเจ้ารักซึ่งกันและกัน เหมือนที่เรารักเจ้า 13 ไม่มีผู้ใดที่มีความรักมากไปกว่าผู้ที่สละชีวิตของตนให้แก่สหายของเขา 14 ถ้าเจ้าปฏิบัติตามที่เราสั่ง เจ้าก็เป็นสหายของเรา 15 เราจะไม่เรียกเจ้าว่าทาสรับใช้ เพราะทาสไม่รู้ว่านายของเขาทำอะไร แต่เราเรียกเจ้าว่าสหาย เพราะว่าทุกสิ่งที่เราได้ยินจากพระบิดาของเรา เราได้บอกให้พวกเจ้ารู้แล้ว 16 พวกเจ้าไม่ได้เลือกเรา แต่เป็นเราที่เลือก และแต่งตั้งเจ้าให้ออกไปและก่อเกิดผล อันเป็นผลซึ่งจะยั่งยืน เพื่อว่าสิ่งใดก็ตามที่เจ้าขอพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะได้ให้แก่เจ้า 17 สิ่งที่เราบัญญัติกับพวกเจ้าไว้ก็คือ เจ้าจงรักซึ่งกันและกัน

โลกเกลียดชังผู้ที่ติดตามพระเยซู

18 ถ้าโลกนี้เกลียดชังเจ้า ก็จงรู้เถิดว่าโลกได้เกลียดชังเราก่อนที่จะเกลียดชังเจ้า 19 ถ้าเจ้าเป็นคนของโลกนี้ โลกจะรักเจ้าซึ่งเป็นคนของโลก แต่เจ้าไม่ใช่คนของโลกนี้เพราะเราได้เลือกให้เจ้าออกมาจากโลก ฉะนั้นโลกจึงเกลียดชังเจ้า 20 จงจำคำที่เรากล่าวไว้กับเจ้าว่า ‘ทาสรับใช้ไม่ยิ่งใหญ่กว่านายของเขา’ ถ้าคนของโลกกดขี่ข่มเหงเราแล้ว เขาก็จะกดขี่ข่มเหงเจ้าด้วย ถ้าพวกเขาปฏิบัติตามคำของเราแล้ว เขาก็จะปฏิบัติตามคำของเจ้าด้วย 21 สิ่งที่พวกเขาจะกระทำต่อเจ้าเป็นเพราะชื่อของเรา เพราะพวกเขาไม่รู้จักพระองค์ผู้ส่งเรามา 22 ถ้าเราไม่ได้พูดกับพวกเขา พวกเขาก็จะไม่มีบาป แต่บัดนี้เขาเหล่านั้นไม่มีข้ออ้างในเรื่องบาปของเขา 23 ผู้ที่เกลียดชังเรา ก็เกลียดชังพระบิดาของเราด้วย 24 ถ้าเราไม่ได้กระทำสิ่งต่างๆ ซึ่งไม่มีใครเคยทำในหมู่เขา พวกเขาก็จะไม่มีบาป แต่บัดนี้เขาเหล่านั้นได้เห็นและเกลียดชังทั้งเราและพระบิดาของเรา 25 เพื่อให้เป็นไปตามที่เขียนไว้ในกฎบัญญัติของพวกเขาว่า ‘พวกเขาเกลียดชังข้าพเจ้าอย่างไร้สาเหตุ’[a]

26 เราจะส่งองค์ผู้ช่วยจากพระบิดามายังพวกเจ้า องค์ผู้ช่วยคือพระวิญญาณแห่งความจริงที่มาจากพระบิดา พระองค์มาเพื่อจะยืนยันในเรื่องที่เกี่ยวกับเรา 27 และเจ้าจะร่วมยืนยันด้วย เพราะเจ้าได้อยู่กับเราตั้งแต่แรกแล้ว

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation