Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
2 พงศ์กษัตริย์ 4

เอลีชาและน้ำมันของหญิงม่าย

ภรรยาของผู้หนึ่งที่อยู่ในกลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าร้องต่อเอลีชาว่า “ผู้รับใช้ของท่าน คือสามีของฉันเสียชีวิต และท่านก็ทราบว่าผู้รับใช้ของท่านยำเกรงพระผู้เป็นเจ้า แต่เจ้าหนี้กำลังจะมายึดเอาลูกทั้งสองของฉันไปเป็นทาสของเขา” เอลีชาถามนางว่า “จะให้ฉันทำอะไรให้เจ้าล่ะ บอกฉันมาว่า เจ้ามีอะไรในบ้านบ้าง” นางตอบว่า “ผู้รับใช้ของท่านไม่มีอะไรในบ้าน นอกจากน้ำมันเพียงเล็กน้อย” ท่านบอกว่า “ออกไปหาเพื่อนบ้าน ไปขอยืมไหเปล่าจากทุกคนมาให้มากที่สุดเท่าที่จะหามาได้ แล้วเจ้ากับลูกๆ ก็เข้าบ้านปิดประตูเสีย จงเทน้ำมันใส่ไหเหล่านั้น พอเทเต็มแล้วก็วางแยกไว้” ดังนั้น นางก็ไปทำตามและปิดประตู อยู่ตามลำพังกับลูกของนาง เมื่อนางเทน้ำมัน ลูกๆ ก็จะเอาไหใบอื่นๆ มาให้นางเทใส่อีก ครั้นไหเต็มหมดแล้ว นางบอกลูกว่า “เอาไหอีกใบมา” เขาก็ตอบนางว่า “ไม่มีเหลือแล้ว” และน้ำมันก็หยุดไหล นางมาบอกคนของพระเจ้า และท่านพูดว่า “เอาน้ำมันไปขายใช้หนี้ของเจ้าเสีย ส่วนที่เหลือนั้น ตัวเจ้ากับลูกๆ ก็จะมีไว้เพื่อเลี้ยงชีวิตต่อไป”

เอลีชาและหญิงชาวชูเนม

วันหนึ่ง เอลีชาเดินทางต่อไปถึงเมืองชูเนม ซึ่งที่นั่นมีสตรีผู้เป็นที่นับหน้าถือตาคนหนึ่งอาศัยอยู่ นางชักชวนให้ท่านรับประทานอาหาร ดังนั้นเมื่อใดที่ท่านผ่านไปทางนั้น ท่านจะแวะรับประทานอาหารที่นั่น นางพูดกับสามีของนางว่า “ดูเถิด ฉันทราบว่าท่านผู้นี้เป็นคนของพระเจ้า และท่านเดินทางผ่านมาทางบ้านเราเป็นประจำ 10 เรามากั้นห้องเล็กๆ บนดาดฟ้า พร้อมจัดที่นอน โต๊ะ เก้าอี้ กับตะเกียงดวงหนึ่งไว้ เพื่อว่าเวลาท่านมาหาเรา ท่านจะได้ขึ้นไปพักอยู่ที่นั่น”

11 วันหนึ่งท่านก็ไปที่นั่น ท่านเข้าไปในห้องที่เตรียมไว้ และพักผ่อนอยู่ที่นั่น 12 ท่านพูดกับเกหะซีคนรับใช้ของท่านว่า “ช่วยไปเรียกหญิงชาวชูเนมมา” เมื่อเขาไปเรียกนาง นางก็มา 13 ท่านบอกเกหะซีว่า “บอกนางว่า ‘ดูสิ ท่านลำบากเป็นธุระเพื่อพวกเรา ท่านมีสิ่งใดที่จะให้เราช่วยบ้างไหม ท่านมีอะไรที่จะให้เราพูดกับกษัตริย์หรือผู้บังคับกองพันทหารหรือไม่’” นางตอบว่า “ฉันอยู่กับคนรอบข้างของฉัน” 14 ท่านพูดกับคนรับใช้ว่า “แล้วมีอะไรที่เราจะทำให้เธอได้บ้าง” เกหะซีตอบว่า “เธอไม่มีลูกชาย และสามีนางก็ชราแล้ว” 15 ท่านพูดว่า “จงไปเรียกเธอมา” เมื่อเขาเรียกนางแล้ว นางก็ยืนที่หน้าประตู 16 ท่านพูดว่า “นับจากนี้ไปประมาณ 1 ปี ในฤดูนี้ ท่านจะได้โอบกอดลูกชายคนหนึ่ง” นางตอบว่า “อย่าเลย เจ้านายของฉัน โอ คนของพระเจ้า ขอท่านอย่าโกหกฉันเลย” 17 แต่หญิงคนนั้นได้ตั้งครรภ์ และนางคลอดบุตรเป็นชาย ตามเวลาประมาณนั้น คือช่วงฤดูใบไม้ผลิของปีต่อมา อย่างที่เอลีชาได้บอกนาง

เอลีชาทำให้บุตรของชาวชูเนมฟื้นขึ้นมา

18 เมื่อเด็กคนนั้นเติบโตขึ้น อยู่มาวันหนึ่งเขาออกไปหาบิดาของเขาซึ่งกำลังอยู่กับเหล่าคนเกี่ยวข้าว 19 เขาพูดกับบิดาว่า “โอ หัวของลูก หัวของลูก” บิดาบอกคนรับใช้ว่า “อุ้มไปหาแม่ของเขา” 20 เมื่อเขาอุ้มเด็กไปหามารดา เด็กก็นั่งบนตักของนางจนถึงเที่ยงวันแล้วก็สิ้นชีวิต 21 นางจึงอุ้มเด็กขึ้นไป และวางเขาลงบนเตียงของคนของพระเจ้า และปิดประตูทิ้งเขาไว้ แล้วนางก็ออกไป 22 และนางเรียกสามีมา พูดว่า “ขอท่านช่วยจัดการเรียกคนรับใช้ให้ฉันคนหนึ่ง และขอลาตัวหนึ่งด้วย ฉันจะไปหาคนของพระเจ้าโดยเร็ว แล้วฉันจะกลับมา” 23 เขาถามนางว่า “ทำไมเธอจึงจะไปหาท่านในวันนี้เล่า มันไม่ใช่วันข้างขึ้นหรือวันสะบาโตนี่นา” นางตอบว่า “ท่านไม่ต้องกังวลหรอก” 24 แล้วนางก็ผูกอานลา และสั่งคนรับใช้ของนางว่า “เจ้าเร่งลาออกไปเถิด ไม่ต้องรั้งให้ช้าลงเพราะฉัน นอกจากฉันจะบอก” 25 ดังนั้น นางจึงเดินทางไป และมาพบคนของพระเจ้าที่ภูเขาคาร์เมล

เมื่อคนของพระเจ้าเห็นนางเดินมา ท่านพูดกับเกหะซีคนรับใช้ว่า “ดูโน่น ชาวชูเนม 26 เจ้าจงรีบวิ่งไปหาเธอ และถามว่า ‘ท่านสบายดีหรือ สามีของท่านสบายดีหรือ ลูกของท่านสบายดีหรือ’” นางตอบเขาว่า “ทุกคนสบายดี” 27 เมื่อนางมาถึงภูเขา นางก็ไปหาคนของพระเจ้า และจับเท้าของท่านไว้ เกหะซีก็เข้ามาเพื่อผลักนางออกไป แต่คนของพระเจ้าพูดว่า “ปล่อยเธอ เพราะว่าเธอทุกข์ร้อนมาก และพระผู้เป็นเจ้าได้ซ่อนเรื่องนี้ไว้ และยังไม่ได้เผยให้เรารู้” 28 นางพูดว่า “ฉันขอบุตรจากเจ้านายของฉันมิใช่หรือ ฉันไม่ได้พูดหรือว่า ‘ขอท่านอย่าโกหกฉันเลย’” 29 ท่านบอกเกหะซีว่า “เจ้าจงเตรียมตัวให้พร้อม ถือไม้เท้าของเราไปด้วย ถ้าเจ้าพบใคร ก็ไม่ต้องทักทายกับเขา และถ้าใครทักทายเจ้า ก็ไม่ต้องตอบเขา และวางไม้เท้าของเราบนใบหน้าของเด็ก” 30 แล้วมารดาของเด็กพูดว่า “ตราบที่พระผู้เป็นเจ้ามีชีวิตอยู่ฉันใด และตราบที่ท่านมีชีวิตอยู่ฉันใด ฉันจะไม่ไปจากท่าน” ท่านจึงออกเดินทางตามนางไป 31 เกหะซีล่วงหน้าไปก่อน และวางไม้เท้าบนใบหน้าของเด็กชาย แต่ไม่มีเสียงหรือการเคลื่อนไหวที่แสดงให้เห็นว่าเขามีชีวิต เขาจึงกลับไปพบกับท่านและบอกท่านว่า “เด็กคนนั้นยังไม่ตื่น”

32 เมื่อเอลีชาเข้าไปในบ้าน ท่านก็เห็นว่าเด็กชายนอนหมดลมหายใจอยู่บนเตียง 33 ท่านจึงเข้าไปในบ้าน และปิดประตูอยู่ตามลำพังกับเขา และอธิษฐานต่อพระผู้เป็นเจ้า 34 แล้วท่านก็ขึ้นไปนอนทาบร่างของเด็กบนเตียง ปากท่านประกบปากของเขา ตาประกบตา และมือประกบมือ ขณะที่ท่านเหยียดตัวของท่านบนร่างเด็กชาย ร่างกายของเขาก็ค่อยๆ อุ่นขึ้น 35 จากนั้นท่านก็ลุกขึ้น เดินไปมาอยู่ในห้อง แล้วก็ขึ้นไปเหยียดตัวบนร่างของเขาบนเตียงอีก ต่อมาเด็กก็จาม 7 ครั้งและลืมตาขึ้น 36 ท่านเรียกเกหะซี และพูดว่า “ไปเรียกหญิงชาวชูเนมมานี่” เขาก็เรียกนาง เมื่อนางมาหา ท่านบอกว่า “มาพยุงตัวลูกของท่านขึ้นเถิด” 37 นางก้มตัวลงกราบแทบเท้าของท่าน แล้วนางก็พยุงลูกของนาง และออกจากห้องไป

เอลีชากระทำสิ่งมหัศจรรย์

38 เอลีชาเดินทางมายังกิลกาลอีก ช่วงเวลานั้น เกิดทุพภิกขภัยขึ้นในแผ่นดิน และขณะที่กลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ากำลังนั่งอยู่ต่อหน้าท่าน ท่านบอกคนรับใช้ว่า “จงตั้งหม้อใบใหญ่ไว้ และต้มสตูให้กลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า” 39 ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าผู้หนึ่งออกไปเก็บสมุนไพรในทุ่งนา และเขาเจอเถาไม้ป่า จึงเก็บน้ำเต้าป่านั้นห่อไว้ในเสื้อจนเต็ม และกลับไปหั่นใส่หม้อสตูโดยไม่ทราบว่าเถานั้นคืออะไร 40 จากนั้นก็ตักให้คนเหล่านั้นรับประทาน แต่ขณะที่พวกเขากำลังรับประทานสตู ก็ร้องเอะอะขึ้นว่า “โอ คนของพระเจ้า ใครรับประทานสตูนี้ต้องตายแน่” และพวกเขาก็รับประทานต่อไม่ได้ 41 ท่านพูดว่า “ถ้าเช่นนั้นก็เอาแป้งสาลีมา” ท่านใส่แป้งลงในหม้อ และพูดว่า “ตักให้พวกเขารับประทานเถอะ” จากนั้นไม่มีอันตรายใดๆ มาจากหม้อนั้นอีกเลย

42 มีชายผู้หนึ่งมาจากเมืองบาอัลชาลิชาห์ เขานำขนมปังบาร์เลย์ 20 ก้อนที่ทำจากเมล็ดที่เพิ่งเก็บเกี่ยวได้ในปีนั้น และธัญพืชใหม่ ใส่กระสอบมาให้คนของพระเจ้า และเอลีชาพูดว่า “เอาไปให้กลุ่มผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้ารับประทานกัน” 43 แต่ผู้รับใช้ของท่านพูดว่า “ข้าพเจ้าจะเอาไปให้ชายทั้ง 100 คนกินเพียงพอได้อย่างไร” ท่านจึงพูดซ้ำอีกว่า “เอาไปให้พวกเขารับประทานกัน เพราะพระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า ‘พวกเขาจะรับประทาน และยังจะมีเหลืออีก’” 44 ดังนั้นเขาจึงเอาไปวางไว้ต่อหน้าพวกเขา และพวกเขาก็รับประทาน และยังมีเหลืออีก ตามคำของพระผู้เป็นเจ้า

1 ทิโมธี 1

การทักทายของเปาโล

ข้าพเจ้าเปาโลอัครทูตของพระเยซูคริสต์ ตามคำสั่งของพระเจ้าผู้ช่วยให้รอดพ้นของเรา และของพระเยซูคริสต์ผู้เป็นความหวังของเรา

ถึง ทิโมธีผู้เป็นบุตรที่แท้ของข้าพเจ้าในความเชื่อ

ขอพระคุณ ความเมตตา และสันติสุขจากพระเจ้า ผู้เป็นพระบิดา และจากพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา จงอยู่กับท่านเถิด

เตือนให้ระวังจากหลักคำสอนที่ผิด

เมื่อข้าพเจ้าเดินทางไปยังแคว้นมาซิโดเนีย ข้าพเจ้าได้ขอร้องให้ท่านอยู่ที่เมืองเอเฟซัสต่อไปอีก เพื่อจะได้กำชับบางคนให้หยุดสอนสิ่งที่ผิดหลักคำสอน ทั้งไม่ให้ใส่ใจในนิยายต่างๆ และลำดับวงศ์ตระกูลอันไม่รู้จบ จนทำให้เกิดการโต้แย้งกัน มากกว่าแผนการของพระเจ้าซึ่งเป็นไปโดยความเชื่อ แต่จุดประสงค์ของการกำชับของเราคือ ความรัก ซึ่งเกิดขึ้นจากใจอันบริสุทธิ์ จากมโนธรรมที่ดี และความเชื่ออันจริงใจ บางคนได้ละทิ้งสิ่งเหล่านี้ และกลับถกเถียงกันในเรื่องที่ไร้สาระ แม้เขาเหล่านั้นจะไม่เข้าใจคำที่เขาพูด หรือเรื่องที่เขายืนยัน เขาก็ยังต้องการเป็นอาจารย์ฝ่ายกฎบัญญัติ

แต่เราทราบว่ากฎบัญญัตินั้นดี หากใช้อย่างถูกต้อง คือทราบว่ากฎบัญญัติไม่ได้มีไว้สำหรับผู้มีความชอบธรรม แต่สำหรับบรรดาผู้ละเมิดกฎและแข็งข้อ สำหรับผู้ไร้คุณธรรมและคนบาป สำหรับผู้ไม่นับถือพระเจ้าและศาสนา สำหรับบรรดาผู้ที่ฆ่าพ่อแม่ของตน และฆาตกร 10 สำหรับผู้ประพฤติผิดทางเพศ และชายลักเพศ ผู้ค้าทาส ผู้โกหก ผู้ให้คำสาบานเท็จ และอะไรอื่นใดก็ตามที่ตรงข้ามกับการสอนอันถูกหลัก 11 ตามข่าวประเสริฐอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้ได้รับการสรรเสริญ ซึ่งเป็นข่าวประเสริฐที่พระองค์มอบไว้กับข้าพเจ้า

พระคุณของพระเจ้าที่มีต่อเปาโล

12 ข้าพเจ้าขอบคุณพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราผู้ได้ให้พลังแก่ข้าพเจ้า เพราะพระองค์นับว่าข้าพเจ้าภักดี และแต่งตั้งให้ข้าพเจ้ารับใช้ในงานของพระองค์ 13 แม้ว่าก่อนนี้ข้าพเจ้าเคยพูดหมิ่นประมาท กดขี่ข่มเหงและก้าวร้าว ถึงกระนั้นข้าพเจ้ายังได้รับความเมตตา เพราะข้าพเจ้ากระทำไปโดยความไม่รู้ และจากความไม่เชื่อในพระองค์ 14 พระคุณของพระผู้เป็นเจ้าของเราท่วมท้นชีวิตข้าพเจ้า รวมทั้งความเชื่อและความรักในพระเยซูคริสต์ 15 ข้อความนี้เป็นที่ไว้ใจได้ สมควรที่คนทั้งปวงจะยอมรับ คือพระเยซูคริสต์ได้เข้ามาในโลกเพื่อช่วยคนบาปทั้งหลายให้รอดพ้น ข้าพเจ้านี่แหละ เป็นตัวเอกในหมู่คนบาป 16 และด้วยเหตุนี้เอง ข้าพเจ้าจึงได้รับความเมตตา เพื่อว่าพระเยซูคริสต์จะได้ใช้ข้าพเจ้าเป็นตัวอย่าง แสดงความอดทนของพระองค์อย่างบริบูรณ์ ต่อคนบาปตัวเอกอย่างข้าพเจ้า และบรรดาคนที่จะเชื่อในพระองค์จะได้รับชีวิตอันเป็นนิรันดร์ 17 ขอพระเกียรติและพระบารมีจงมีแด่กษัตริย์ผู้ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์ ผู้เป็นอมตะ ผู้ที่เรามองไม่เห็นด้วยตา ผู้เป็นพระเจ้าแต่พระองค์เดียวชั่วนิรันดร์กาลเถิด อาเมน

18 ทิโมธีบุตรของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าให้คำกำชับนี้แก่ท่านตามคำกล่าวของพระเจ้าเกี่ยวกับท่านที่ได้เปิดเผยไว้ เพื่อว่าเวลาที่ท่านปฏิบัติตามสิ่งที่พระเจ้าเปิดเผยให้ทราบ ท่านจะต่อสู้ได้ดี 19 จงรักษาความเชื่อและมโนธรรมที่ดีไว้ มีบางคนปฏิเสธมโนธรรม ดังนั้นความเชื่อของเขาจึงได้สลายไป 20 ฮีเมเนอัสและอเล็กซานเดอร์ก็เป็นคนจำพวกนั้นที่ข้าพเจ้าได้ยกให้แก่ซาตาน[a]แล้ว เพื่อพวกเขาจะได้รับบทเรียนที่จะไม่พูดหมิ่นประมาทพระเจ้า

ดาเนียล 8

แกะตัวผู้และแพะในภาพนิมิตที่สอง

ในปีที่สามของการครองราชย์ของกษัตริย์เบลชัสซาร์ ข้าพเจ้าดาเนียลเห็นภาพนิมิตหลังจากภาพนิมิตแรกที่ได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า ในภาพนิมิตที่ข้าพเจ้าเห็นนั้น ข้าพเจ้าอยู่ในสุสาเมืองป้อมปราการในแคว้นเอลาม ในภาพนิมิตที่เห็น ข้าพเจ้าอยู่ที่แม่น้ำอุลัย ดูเถิด ข้าพเจ้าเงยหน้าเห็นแกะตัวผู้ตัวหนึ่งยืนอยู่บนฝั่งแม่น้ำ แกะตัวนี้มี 2 เขาซึ่งยาว แต่เขาหนึ่งยาวกว่าเขาอีกข้างหนึ่ง เขาที่ยาวกว่าดูใหม่กว่าเขาอีกข้าง ข้าพเจ้าเห็นแกะผู้ตัวนั้นรีบรุดไปทางทิศตะวันตก ทิศเหนือ และทิศใต้ ไม่มีสัตว์ตัวใดยืนหยัดทนสู้แกะตัวนั้นได้ และไม่มีผู้ใดช่วยให้รอดปลอดภัยจากอำนาจของมันได้ มันทำตามความพอใจและทวีอำนาจของตน

ดูเถิด ขณะที่ข้าพเจ้าสังเกตดู มีแพะตัวผู้มาจากทิศตะวันตก ข้ามตลอดทางบนผิวโลกโดยไม่แตะพื้นดิน แพะตัวนี้มีเขาที่เด่นชัดอยู่ระหว่างคิ้ว มันวิ่งกระโจนใส่แกะตัวผู้ที่มี 2 เขา ซึ่งข้าพเจ้าเห็นยืนอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำด้วยความดุดันยิ่งนัก ข้าพเจ้าเห็นแพะเข้าไปใกล้แกะตัวผู้ และพุ่งชนแกะอย่างดุร้ายจนเขาทั้งสองข้างหักไป ส่วนแกะก็ไม่มีกำลังที่จะยืนหยัดสู้แพะได้ จึงถูกชนล้มลงและถูกเหยียบย่ำลงกับดิน และไม่มีผู้ใดช่วยแกะตัวผู้ให้รอดจากพลังของแพะได้ แพะผู้ตัวนั้นทวีอำนาจยิ่งนัก แต่เมื่ออำนาจของมันถึงขีดสุด เขายาวของมันก็หักไป และมีเขา 4 เขาที่เด่นชัดงอกขึ้นมาแทนที่ แต่ละเขาชี้ไปทางลมทั้ง 4 ทิศของฟ้าสวรรค์

มีเขาเล็กเขาหนึ่งที่งอกจากหนึ่งในสี่เขา ซึ่งทวีอำนาจหันไปทางทิศใต้ ทิศตะวันออก และทางแผ่นดินอันงดงาม 10 เขานั้นงอกขึ้นสูงถึงชาวสวรรค์ และทำให้กลุ่มดาวกับดาวบางดวงตกลงสู่พื้นดินและถูกมันเหยียบย่ำ 11 มันถึงกับยกย่องตนเองเทียบเท่าราชาแห่งสวรรค์ มันเลิกล้างการถวายเครื่องสักการะประจำวันแด่พระองค์ และทำให้ที่พำนักของพระองค์ไม่เป็นที่เคารพ 12 ในเวลาเดียวกัน บรรดาผู้บริสุทธิ์และเครื่องสักการะที่ใช้เผาเป็นของถวายประจำวันก็อยู่ใต้อำนาจของการต่อต้านของมัน และความจริงถูกโยนทิ้งลงบนพื้นดิน มันทำสิ่งที่ใจต้องการและประสบกับความเจริญ 13 ครั้นแล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินผู้บริสุทธิ์ผู้หนึ่งพูดกับผู้บริสุทธิ์อีกผู้หนึ่งที่กำลังพูดอยู่ว่า “เรื่องต่างๆ ในภาพนิมิตจะเกิดขึ้นนานเท่าไรจึงจะบรรลุผล คือเรื่องเครื่องสักการะที่ใช้เผาเป็นของถวายประจำวัน การกระทำที่น่าชังซึ่งทำให้เกิดความวิบัติ[a] สถานที่บริสุทธิ์และบรรดาผู้บริสุทธิ์อยู่ใต้อำนาจของการต่อต้านและถูกเหยียบย่ำอยู่ใต้เท้าของมัน” 14 ท่านพูดตอบว่า “จะเกิดขึ้น 2,300 ครั้งของการมอบเครื่องสักการะในเวลาเช้าและเวลาเย็น แล้วสถานที่บริสุทธิ์ก็จะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์อีกครั้ง”

แก้ฝันจากภาพนิมิต

15 เมื่อข้าพเจ้าดาเนียลได้เห็นภาพนิมิตแล้ว ข้าพเจ้าพยายามจะเข้าใจ ดูเถิด ผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าดูเหมือนมนุษย์ 16 ข้าพเจ้าได้ยินเสียงมนุษย์ที่ระหว่างฝั่งแม่น้ำอุลัย เสียงนั้นเรียก “กาเบรียล[b] ช่วยชายผู้นี้ให้เข้าใจภาพนิมิตเถิด” 17 ท่านจึงมาใกล้ที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ เมื่อท่านมา ข้าพเจ้าก็ตกใจและก้มหน้าซบลงกับพื้น แต่ท่านพูดกับข้าพเจ้าว่า “โอ บุตรมนุษย์ จงเข้าใจเถิดว่า ภาพนิมิตนั้นชี้ให้เห็นการสิ้นสุด”

18 ขณะที่ท่านกำลังพูดกับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ตกอยู่ในภวังค์หน้าซบพื้น แต่ท่านแตะต้องตัวข้าพเจ้าและช่วยข้าพเจ้าให้ยืนขึ้น 19 ท่านพูดว่า “ดูเถิด เราจะให้ท่านทราบว่า อะไรจะเกิดขึ้นในภายหลังเมื่อความกริ้วคุกรุ่นขึ้น เพราะภาพนิมิตนั้นเป็นเรื่องของการสิ้นสุดที่กำหนดไว้แล้ว 20 ส่วนแกะตัวผู้ซึ่งมีเขา 2 เขาที่ท่านเห็นก็คือกษัตริย์ของมีเดียและเปอร์เซีย 21 ส่วนแพะตัวผู้ก็คือกษัตริย์ของกรีก และเขาที่เด่นชัดอยู่ที่ระหว่างคิ้วก็คือกษัตริย์ท่านแรก 22 ส่วนเขา 4 เขาที่ขึ้นมาแทนเขาแรกที่หัก ก็คือประชาชาตินั้นถูกแบ่งแยกออกเป็น 4 อาณาจักร แต่จะมีอำนาจไม่เท่ากับอาณาจักรแรก 23 ในตอนท้ายของการปกครองของพวกเขา เมื่อบรรดาผู้ล่วงละเมิดกระทำจนถึงขีดสุดแล้ว กษัตริย์ผู้มีสีหน้าดุร้ายเป็นผู้กอปรด้วยเล่ห์อุบายจะลุกขึ้นครองอำนาจ 24 ท่านจะมีอำนาจมาก และจะเป็นเหตุให้เกิดความพินาศอันน่าหวาดกลัว ท่านจะประสบกับความเจริญและทำสิ่งที่ใจต้องการ และจะทำลายบรรดาผู้มีใจกล้าหาญและบรรดาผู้บริสุทธิ์ 25 ท่านจะหลอกลวงได้สำเร็จก็เพราะความฉลาดแกมโกง และจิตใจของท่านจะฮึกเหิม และจะทำให้คนจำนวนมากพินาศ ท่านจะลุกขึ้นต่อต้านราชาแห่งราชาทั้งปวง ถึงกระนั้นก็ตามท่านจะถูกทำให้พินาศ แต่ไม่ใช่ด้วยมือมนุษย์ 26 ภาพนิมิตของการมอบเครื่องสักการะในเวลาเช้าและเวลาเย็นที่ท่านได้ยินคำอธิบายแล้ว จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จงเก็บภาพนิมิตนั้นไว้เป็นความลับ เพราะอีกนานก่อนที่จะเกิดขึ้น”

27 และข้าพเจ้าดาเนียลรู้สึกละเหี่ยเพลียใจและล้มป่วยอยู่หลายวัน แล้วข้าพเจ้าก็ลุกขึ้นปฏิบัติงานให้กษัตริย์ แต่ข้าพเจ้าตื่นตระหนกกับภาพนิมิต และไม่มีผู้ใดเข้าใจ

สดุดี 116

พระเจ้าช่วยคนให้รอดพ้นจากความตาย

ข้าพเจ้ารักพระผู้เป็นเจ้า เพราะพระองค์ได้ยินเสียง
    และคำอ้อนวอนของข้าพเจ้า
เพราะพระองค์เงี่ยหูฟังข้าพเจ้า
    และข้าพเจ้าจะร้องเรียกถึงพระองค์ไปตลอดชีวิต
เงื้อมเงาแห่งความตายรัดรอบตัวข้าพเจ้า
    ความเจ็บปวดรวดร้าวแห่งแดนคนตายยึดตัวข้าพเจ้าไว้
    ข้าพเจ้าต้องผจญกับความลำบากและความกลัดกลุ้ม
ครั้นแล้วข้าพเจ้าร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
    “โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าอธิษฐานขอพระองค์ โปรดช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วย”

พระผู้เป็นเจ้ากอปรด้วยพระคุณและความชอบธรรม
    พระเจ้าของเรามีเมตตายิ่งนัก
พระผู้เป็นเจ้าปกป้องคนเขลา
    เวลาข้าพเจ้าไร้ที่พึ่ง พระองค์ก็ช่วยข้าพเจ้าไว้
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ย เจ้าควรกลับมาสงบนิ่ง
    เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิบัติต่อเจ้าด้วยดี

ใช่แล้ว พระองค์ได้ช่วยจิตวิญญาณข้าพเจ้าให้รอดพ้นจากความตาย
    ช่วยดวงตาให้พ้นจากการร้องไห้
    และช่วยเท้าข้าพเจ้าให้พ้นจากการสะดุดล้ม
ข้าพเจ้าดำเนินชีวิต ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้า
    ในดินแดนของคนเป็น
10 ข้าพเจ้าเชื่อ แม้เวลาข้าพเจ้าประกาศว่า[a]
    “ข้าพเจ้ากำลังทนทุกข์ทรมานอยู่”
11 ข้าพเจ้าเอ่ยปากโดยพลันว่า
    “ไม่ว่าคนไหนก็ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น”

12 พระผู้เป็นเจ้าให้ข้าพเจ้ามีอย่างเหลือล้น
    แล้วข้าพเจ้าจะเอาอะไรมาตอบแทนพระองค์เล่า
13 ข้าพเจ้าจะยกถ้วยแห่งความรอดพ้น
    และร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
14 ข้าพเจ้าจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า
    ต่อหน้าชนชาติทั้งปวงของพระองค์

15 ความตายของบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า
    มีค่าอนันต์ในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า
16 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
    ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ บุตรของหญิงผู้รับใช้ของพระองค์
    พระองค์ได้แก้โซ่แห่งความเจ็บปวดให้ข้าพเจ้า
17 ข้าพเจ้าจะมอบของถวายแห่งการขอบคุณ
    และร้องเรียกพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
18 ข้าพเจ้าจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับพระผู้เป็นเจ้า
    ต่อหน้าชนชาติทั้งปวงของพระองค์
19 ในลานพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
    ท่ามกลางเยรูซาเล็ม

จงสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation