M’Cheyne Bible Reading Plan
อาบียัมครองราชย์ในยูดาห์
15 ในปีที่สิบแปดของกษัตริย์เยโรโบอัมบุตรของเนบัท อาบียัมก็เริ่มเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ 2 ท่านครองราชย์ได้ 3 ปีในเยรูซาเล็ม มารดาของท่านชื่อมาอาคาห์บุตรหญิงของอาบีชาโลม 3 ท่านดำเนินชีวิตในบาปทั้งสิ้น ตามแบบอย่างที่บิดาของท่านกระทำ และไม่ได้มีใจที่ภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน เหมือนอย่างกับใจของดาวิดบรรพบุรุษของท่าน 4 แต่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านก็ยังมอบผู้สืบเชื้อสายรับใช้พระองค์ในเยรูซาเล็มเพราะเห็นแก่ดาวิด พระองค์แต่งตั้งบุตรของท่านต่อจากท่าน และสถาปนาเยรูซาเล็ม 5 เพราะดาวิดกระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และปฏิบัติตามทุกสิ่งที่พระองค์บัญชาท่านจนตลอดชีวิต ยกเว้นในเรื่องของอุรียาห์ชาวฮิต[a] 6 มีศึกสงครามระหว่างเรโหโบอัมและเยโรโบอัมตลอดชีวิตของอาบียัม 7 กิจอื่นๆ ทั้งสิ้นของอาบียัม และทุกสิ่งที่ท่านกระทำ ก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในหนังสือแห่งพงศาวดารของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์มิใช่หรือ และมีศึกสงครามระหว่างอาบียัมและเยโรโบอัม 8 อาบียัมสิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองของดาวิด และอาสาผู้เป็นบุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน
อาสาครองราชย์ในยูดาห์
9 ในปีที่ยี่สิบของเยโรโบอัมกษัตริย์แห่งอิสราเอล อาสาก็เริ่มเป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ 10 ท่านครองราชย์ได้ 41 ปีในเยรูซาเล็ม มารดาของท่านชื่อมาอาคาห์บุตรหญิงของอาบีชาโลม 11 อาสากระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า อย่างที่ดาวิดบรรพบุรุษของท่านได้กระทำ 12 ท่านกำจัดโสเภณีชายออกไปจากแผ่นดิน และให้คนขนพวกรูปเคารพที่บรรพบุรุษหล่อขึ้นไปทิ้งเสีย 13 ท่านได้ถอดถอนมาอาคาห์มารดาของท่านออกจากตำแหน่งมารดากษัตริย์ด้วย เพราะนางได้สร้างเสาเทวรูปอาเชราห์ที่น่ารังเกียจ อาสาโค่นเทวรูปนาง และเผาทิ้งที่หุบเขาขิดโรน 14 แต่สถานบูชาบนภูเขาสูงไม่ถูกกำจัดออกไป กระนั้นก็ดี อาสาก็ยังมีใจภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าตลอดชีวิตของท่าน 15 และท่านนำของบริสุทธิ์ที่เป็นของบิดาของท่าน และที่เป็นของท่านเองด้วย เช่นเงิน ทองคำ และภาชนะ เข้าไปไว้ในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า
16 มีศึกสงครามระหว่างอาสาและบาอาชากษัตริย์แห่งอิสราเอลตลอดสมัยของทั้งสองท่าน 17 บาอาชากษัตริย์แห่งอิสราเอลขึ้นไปโจมตียูดาห์ และสร้างเมืองรามาห์ให้แข็งแกร่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ใครไปมาหาสู่กับอาสาผู้เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ 18 อาสาจึงนำเงินและทองคำทั้งหมดที่เหลืออยู่ในคลังพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า และคลังของกษัตริย์ และมอบไว้กับพวกเจ้าหน้าที่ และอาสาผู้เป็นกษัตริย์ใช้พวกเขาไปยังเบนฮาดัดบุตรของทับริมโมนผู้เป็นบุตรของเฮซีโอนกษัตริย์แห่งอารัม ผู้อาศัยอยู่ในเมืองดามัสกัส พร้อมกับกล่าวว่า 19 “ขอให้ทำสัญญาระหว่างท่านกับเราเหมือนกับที่บิดาของท่านและของเราทำ ดูเถิด เราได้ส่งของบรรณาการเป็นเงินและทองคำมาให้ท่าน ขอท่านตัดความสัมพันธ์กับบาอาชากษัตริย์แห่งอิสราเอลเถิด ท่านจะได้ถอนทัพออกไปจากดินแดนของเรา” 20 เบนฮาดัดฟังคำของอาสาผู้เป็นกษัตริย์ และส่งบรรดาผู้บังคับกองพันของท่านไปโจมตีเมืองต่างๆ ของอิสราเอล และยึดเมืองอิโยน ดาน อาเบลเบธมาอาคาห์ และทั่วถิ่นคินเนโรท พร้อมด้วยดินแดนนัฟทาลีทั้งหมด 21 เมื่อบาอาชาทราบดังนั้น ท่านจึงหยุดการก่อสร้างเมืองรามาห์ และอาศัยอยู่ในเมืองทีรซาห์ 22 และอาสาผู้เป็นกษัตริย์ก็ได้ส่งสาสน์ประกาศไปทั่วยูดาห์ ไม่เว้นผู้ใดเลย ทุกคนช่วยขนหินและไม้ที่บาอาชาใช้สร้างเมืองออกไปจากรามาห์ แล้วอาสาผู้เป็นกษัตริย์เอามาสร้างเมืองเก-บาแห่งเบนยามินและเมืองมิสปาห์ 23 กิจอื่นๆ ทั้งสิ้นของอาสา ความสำเร็จด้านยุทธการและทุกสิ่งที่ท่านกระทำ และเมืองต่างๆ ที่ท่านสร้าง ก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในหนังสือแห่งพงศาวดารของบรรดากษัตริย์แห่งยูดาห์มิใช่หรือ แต่ในยามชราท่านเป็นโรคที่เท้า 24 อาสาสิ้นชีวิตและถูกนำไปวางรวมกับบรรพบุรุษของท่าน ศพถูกบรรจุไว้ในเมืองของดาวิดบรรพบุรุษของท่าน และเยโฮชาฟัทบุตรของท่านครองราชย์แทนท่าน
นาดับครองราชย์ในอิสราเอล
25 นาดับบุตรของเยโรโบอัมเริ่มเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลในปีที่สองของอาสาผู้เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ ท่านครองราชย์ในอิสราเอล 2 ปี 26 ท่านกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และดำเนินชีวิตตามแบบอย่างบิดาของท่าน คือทำบาปและยังนำอิสราเอลให้ทำบาปด้วย
27 บาอาชาบุตรของอาหิยาห์ จากพงศ์พันธุ์ของอิสสาคาร์วางแผนโจมตีท่าน และบาอาชาประหารท่านที่กิบเบโธนซึ่งเป็นเมืองของชาวฟีลิสเตีย เพราะนาดับและชาวอิสราเอลทั้งปวงกำลังใช้พลังล้อมกิบเบโธน 28 ดังนั้น บาอาชาจึงฆ่าท่านในปีที่สามของอาสาผู้เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ แล้วก็ขึ้นครองแทน 29 ทันทีที่ท่านขึ้นเป็นกษัตริย์ ท่านก็ฆ่าทุกคนในพงศ์พันธุ์ของเยโรโบอัม ท่านไม่ปล่อยผู้ใดในพงศ์พันธุ์เยโรโบอัมรอดชีวิตมาได้แม้ชีวิตเดียว ท่านได้กำจัดทุกชีวิตให้สิ้นไป ตามที่พระผู้เป็นเจ้ากล่าวผ่านผู้รับใช้ของพระองค์ คืออาหิยาห์ชาวชิโลห์ 30 เป็นเพราะบาปของเยโรโบอัมที่ได้ทำ และเป็นเหตุให้อิสราเอลทำบาป และเป็นเพราะท่านยั่วโทสะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของอิสราเอล
31 กิจอื่นๆ ทั้งสิ้นของนาดับ และทุกสิ่งที่ท่านกระทำ ก็ได้มีบันทึกไว้แล้วในหนังสือแห่งพงศาวดารของบรรดากษัตริย์แห่งอิสราเอลมิใช่หรือ 32 มีศึกสงครามระหว่างอาสาและบาอาชากษัตริย์แห่งอิสราเอลตลอดสมัยของทั้งสองท่าน
บาอาชาครองราชย์ในอิสราเอล
33 ในปีที่สามของอาสาผู้เป็นกษัตริย์แห่งยูดาห์ บาอาชาบุตรของอาหิยาห์ก็เริ่มเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลที่เมืองทีรซาห์ ท่านครองราชย์ 24 ปี 34 ท่านกระทำสิ่งที่ชั่วร้ายในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า และดำเนินชีวิตตามแบบอย่างเยโรโบอัม คือทำบาปและยังนำอิสราเอลให้ทำบาปด้วย
2 ข้าพเจ้าอยากให้ท่านทราบว่า ข้าพเจ้าตรากตรำมากเพียงไรเพื่อท่าน และเพื่อพวกที่อยู่ในเมืองเลาดีเซีย และทุกคนที่ยังไม่เคยเห็นหน้าข้าพเจ้า 2 ข้าพเจ้ามีจุดประสงค์ที่จะให้พวกเขาได้รับกำลังใจและผูกพันกันด้วยความรัก เพื่อเขาจะได้แน่ใจได้อย่างที่สุดว่า เขาเข้าใจจริงๆ เพื่อจะได้ทราบถึงความลึกลับซับซ้อนของพระเจ้า คือพระคริสต์ 3 คลังแห่งพระปัญญาและความรู้ทั้งสิ้นถูกซ่อนไว้ในพระองค์ 4 ข้าพเจ้าบอกเรื่องนี้แก่ท่าน เพื่อไม่ให้ใครหลอกลวงท่านได้ด้วยคำโต้เถียงที่ดูน่าเชื่อถือ 5 แม้ตัวข้าพเจ้าไม่อยู่กับท่าน แต่ใจของข้าพเจ้าอยู่ด้วย และยินดีที่เห็นพวกท่านมีระเบียบวินัย และมีความเชื่อที่มั่นคงในพระคริสต์
เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์ ด้วยชีวิตในพระคริสต์
6 ฉะนั้น ในเมื่อท่านได้รับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้เป็นเจ้า จงดำเนินชีวิตในพระองค์ต่อไปเถิด 7 ฝังรากฐาน และมีชีวิตที่สร้างขึ้นจากพระองค์ ให้ความเชื่อเข้มแข็งขึ้นตามที่ได้รับการสอนมา และท่วมท้นด้วยการขอบคุณพระเจ้า
8 จงระวัง อย่าให้ใครทำให้ท่านตกเป็นทาสด้วยปรัชญาที่ลวงหลอกและไร้ค่า ตามประเพณีนิยมของมนุษย์ และการบังคับของอำนาจแห่งวัตถุท้องฟ้า แทนที่จะดำเนินตามพระคริสต์ 9 ด้วยว่า ความเป็นพระเจ้าโดยบริบูรณ์ดำรงอยู่ในพระคริสต์ในรูปลักษณ์ที่เป็นร่างกายมนุษย์ 10 และท่านมีชีวิตที่บริบูรณ์ในพระองค์ และพระองค์เป็นประมุขเหนือการปกครองและสิทธิอำนาจทั้งปวง 11 และการที่ท่านอยู่ในพระองค์ ท่านก็ได้รับพิธีเข้าสุหนัตที่ไม่ได้กระทำด้วยมือมนุษย์ แต่ด้วยการกระทำโดยพระคริสต์ คือหลุดพ้นจากกิเลสฝ่ายเนื้อหนัง[a] 12 ถูกฝังด้วยกันกับพระองค์ในบัพติศมา และท่านได้รับการฟื้นคืนชีวิตขึ้นด้วยกับพระองค์ โดยมีความเชื่อตามพลังอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าผู้สำแดงให้พระองค์ฟื้นคืนชีวิตจากความตายแล้ว 13 และเมื่อก่อน ท่านก็เหมือนกับว่าได้ตายไปแล้ว เนื่องจากการล่วงละเมิดและไม่ได้เข้าสุหนัตฝ่ายเนื้อหนัง แต่พระเจ้าให้ท่าน[b]ได้มีชีวิตด้วยกันกับพระคริสต์ โดยยกโทษการล่วงละเมิดทุกอย่างของเรา 14 ด้วยการลบล้างข้อกล่าวหาที่บันทึกไว้ใต้กฎข้อบังคับซึ่งต่อต้านและขัดขวางเรา พระองค์รับเอาข้อกล่าวหาที่บันทึกไว้ไปเสีย โดยตรึงไว้ที่ไม้กางเขน 15 พระองค์ปลดอำนาจของบรรดาผู้อยู่ในระดับปกครองและผู้มีสิทธิอำนาจทั้งหลาย พระองค์ได้แสดงให้เห็นโดยทั่วกันว่า พระองค์มีชัยชนะเหนือพวกเขาด้วยไม้กางเขน
16 ฉะนั้น อย่าให้ผู้ใดวิจารณ์ท่านเรื่องอาหารหรือเครื่องดื่ม หรือในการฉลองเทศกาลทางศาสนา หรือฉลองเวลาข้างขึ้น หรือวันสะบาโต 17 สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเงาของสิ่งที่จะมาภายหลัง แต่แก่นแท้คือพระคริสต์ 18 อย่าให้คนที่ชื่นชมกับการเสแสร้งถ่อมตนและกราบไหว้ทูตสวรรค์เป็นผู้ตัดสิทธิ์ท่าน คนประเภทนี้บรรยายความถึงสิ่งที่เขาได้เห็น และเป็นคนหยิ่งผยองโดยไร้เหตุผลตามความคิดที่เป็นแบบมนุษย์ 19 และไม่ได้ยึดมั่นในพระคริสต์ผู้เปรียบเสมือนศีรษะของร่างกาย และทั่วทั้งกายที่อยู่ในการควบคุมของพระคริสต์ได้รับการหล่อเลี้ยงและเชื่อมโยงติดต่อกันได้โดยข้อต่อกับเส้นเอ็น และเติบโตขึ้นตามที่พระเจ้าโปรด
20 ถ้าท่านได้ตายจากการบังคับของอำนาจแห่งวัตถุท้องฟ้าด้วยกันกับพระคริสต์แล้ว ทำไมท่านจึงยอมอยู่ใต้อำนาจกฎต่างๆ ของมัน ราวกับว่าท่านยังใช้ชีวิตทางโลกอีก 21 เช่น “อย่าหยิบ อย่าชิม อย่าแตะต้อง” 22 สิ่งเหล่านี้เมื่อปฏิบัติตามจะนำไปสู่ความตาย เพราะมีรากฐานมาจากคำสั่งและการสอนของมนุษย์ 23 สิ่งเหล่านี้ดูเหมือนว่าเกิดจากสติปัญญา อย่างเช่น ท่าทีเคร่งนมัสการ การเสแสร้งว่าถ่อมตน และการทรมานตนเอง แต่มันไม่มีพลังที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากการหลงระเริงฝ่ายเนื้อหนังเลย
พื้นที่บริสุทธิ์
45 เมื่อพวกเจ้าได้รับส่วนแบ่งที่ดินเป็นมรดก เจ้าจงแบ่งส่วนหนึ่งถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าเป็นพื้นที่บริสุทธิ์ ได้ขนาดยาว 25,000 ศอก กว้าง 20,000 ศอก ทั่วพื้นที่จะเป็นที่บริสุทธิ์ 2 จากที่ดินดังกล่าว จงใช้ส่วนหนึ่งขนาด 500 ศอกรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสำหรับสถานที่บริสุทธิ์ และมีบริเวณเปิดโล่งรอบๆ ขนาด 50 ศอกด้วย 3 จากบริเวณที่วัดแล้วนี้ เจ้าจงวัดส่วนหนึ่งให้ได้ขนาดยาว 25,000 ศอก กว้าง 10,000 ศอก ซึ่งที่พำนักคืออภิสุทธิสถานจะอยู่ในที่ส่วนนี้ 4 ส่วนนี้จะเป็นส่วนบริสุทธิ์ของแผ่นดิน สำหรับบรรดาปุโรหิต ซึ่งรับใช้ในที่พำนักและเข้าใกล้พระผู้เป็นเจ้าเพื่อรับใช้พระองค์ และจะเป็นที่สำหรับบ้านเรือนของพวกเขา และเป็นสถานที่บริสุทธิ์สำหรับที่พำนัก 5 พื้นที่อีกส่วนมีขนาดยาว 25,000 ศอก กว้าง 10,000 ศอกจะเป็นของชาวเลวีซึ่งรับใช้ในตำหนัก เพื่อให้เขาเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้และอาศัยอยู่ในเมือง
6 พวกเจ้าจะต้องมอบที่ดินให้แก่เมืองนั้นให้ได้ขนาดกว้าง 5,000 ศอก ยาว 25,000 ศอก ซึ่งอยู่ชิดกับที่ซึ่งแบ่งให้เป็นพื้นที่บริสุทธิ์ ส่วนนี้จะเป็นของพงศ์พันธุ์อิสราเอลทั้งปวง
ส่วนที่เป็นของผู้ยิ่งใหญ่
7 ผู้ยิ่งใหญ่จะมีที่ดินขนาบทั้งสองข้างของพื้นที่บริสุทธิ์กับส่วนที่เป็นของเมือง พื้นที่ด้านตะวันตกยื่นไปทางทิศตะวันตกและพื้นที่ด้านตะวันออกยื่นไปทางทิศตะวันออก ที่ปลายเขตพื้นที่ทั้งด้านเหนือและด้านใต้ของที่ดินทั้งสองผืนนี้ติดกับที่ดินของเผ่า 8 ผู้ยิ่งใหญ่จะเป็นเจ้าของที่ดินผืนนี้ในอิสราเอล และบรรดาผู้ยิ่งใหญ่จะไม่กดขี่ข่มเหงประชาชนของเราอีกต่อไป แต่จะยอมให้พงศ์พันธุ์อิสราเอลเป็นเจ้าของที่ดินตามส่วนแบ่งของแต่ละเผ่า”
9 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “โอ บรรดาผู้ยิ่งใหญ่ของอิสราเอลเอ๋ย จงกำจัดความรุนแรงและการกดขี่ข่มเหง และปฏิบัติด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม จงหยุดขับไล่ชนชาติของเรา” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น
10 “พวกเจ้าจงใช้เครื่องวัดตวงที่เที่ยงตรง เอฟาห์ที่เที่ยงตรง[a] และบัทที่เที่ยงตรง[b] 11 ทั้งเอฟาห์และบัทต้องเป็นการวัดตวงที่เหมือนกัน คือบัทตวงได้หนึ่งในสิบโฮเมอร์ และเอฟาห์ตวงได้หนึ่งในสิบโฮเมอร์ โฮเมอร์ต้องเป็นมาตรฐานของการวัดตวง 12 น้ำหนัก 20 เก-ราห์เท่ากับ 1 เชเขล[c] 1 มินาหนักเท่ากับ 60 เชเขล
13 ของถวายที่พวกเจ้าจะมอบคือ ข้าวสาลีหนึ่งในหกเอฟาห์ต่อ 1 โฮเมอร์ และข้าวบาร์เลย์หนึ่งในหกเอฟาห์ต่อ 1 โฮเมอร์ 14 สัดส่วนน้ำมันที่กำหนดไว้ จงวัดเป็นบัท หนึ่งในสิบบัทต่อ 1 โคร์[d] (โคร์เหมือนเครื่องตวงโฮเมอร์คือมี 10 บัท) 15 และแกะ 1 ตัวต่อ 200 ตัวจากฝูงที่อยู่ในทุ่งหญ้าเขียวชอุ่มของอิสราเอล สิ่งเหล่านี้จะใช้เป็นเครื่องธัญญบูชา สัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย และของถวายเพื่อสามัคคีธรรม เพื่อทำพิธีชดใช้บาปให้แก่ประชาชน” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ประกาศดังนั้น 16 “ประชาชนทั้งปวงในแผ่นดินจำเป็นต้องมอบของถวายนี้แก่ผู้ยิ่งใหญ่ในอิสราเอล 17 ผู้ยิ่งใหญ่นี้มีหน้าที่จัดหาสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย เครื่องธัญญบูชา และเครื่องดื่มบูชาในงานเทศกาล ในวันข้างขึ้น และวันสะบาโต งานเทศกาลทั้งสิ้นที่กำหนดไว้ของพงศ์พันธุ์อิสราเอล เขาจะต้องจัดหาเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป เครื่องธัญญบูชา สัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวาย และของถวายเพื่อสามัคคีธรรม เพื่อทำพิธีชดใช้บาปให้แก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล”
18 พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “ในวันแรกของเดือนแรก เจ้าจงเอาโคหนุ่มปราศจากตำหนิจากฝูงมา เพื่อทำที่พำนักให้บริสุทธิ์ 19 ปุโรหิตจะเอาเลือดจากเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปป้ายวงกบประตูตำหนัก ป้ายทั้งสี่มุมของสันตอนบนของแท่นบูชา และเสาประตูของลานตำหนัก 20 และในวันที่เจ็ดของเดือนเดียวกัน เจ้าจงทำด้วยวิธีเดียวกันให้กับคนที่กระทำบาปโดยไม่ตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการ พวกเจ้าจงทำพิธีลบล้างมลทินให้กับตำหนัก
21 ในวันที่สิบสี่ของเดือนแรก เจ้าจงฉลองเทศกาลปัสกา และเจ้าจงรับประทานขนมปังไร้เชื้อในระยะ 7 วัน 22 ในวันนั้น ผู้ยิ่งใหญ่จะจัดหาโคหนุ่มเป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาปให้แก่ตนเองและให้แก่ประชาชนทั้งปวงในแผ่นดิน 23 และทุกวันในระหว่าง 7 วันของเทศกาล เขาจะต้องจัดหาโคและแกะตัวผู้ปราศจากตำหนิอย่างละ 7 ตัวเพื่อเป็นสัตว์ที่ใช้เผาเป็นของถวายแด่พระผู้เป็นเจ้า และแพะตัวผู้เป็นเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป 24 เขาจะต้องจัดหาเครื่องธัญญบูชาจำนวน 1 เอฟาห์ต่อโคหนุ่มแต่ละตัว และ 1 เอฟาห์ต่อแกะตัวผู้แต่ละตัว พร้อมกับน้ำมัน 1 ฮิน[e]ต่อ 1 เอฟาห์
25 ในวันที่สิบห้าของเดือนเจ็ด ตลอด 7 วันของเทศกาล เขาจะต้องจัดหาสิ่งเดียวกันสำหรับเครื่องสักการะเพื่อลบล้างบาป สัตว์ที่เผาเป็นของถวาย เครื่องธัญญบูชา และน้ำมัน”
พระผู้เป็นเจ้าเป็นกษัตริย์สูงสุด
1 พระผู้เป็นเจ้าครอบครองบัลลังก์
ให้บรรดาชนชาติตัวสั่นครั่นคร้าม
พระองค์สถิตบนบัลลังก์เหนือตัวเครูบ
ให้แผ่นดินโลกสะเทือนเลื่อนลั่น
2 พระผู้เป็นเจ้าใหญ่ยิ่งในศิโยน
พระองค์ถูกเชิดชูเหนือชนชาติทั้งปวง
3 ให้พวกเขาสรรเสริญพระนามของพระองค์ องค์ผู้ยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม
พระองค์บริสุทธิ์
4 กษัตริย์ผู้กอปรด้วยมหิทธานุภาพรักความเป็นธรรม
พระองค์สร้างความยุติธรรม
พระองค์ได้แสดงความเป็นธรรม
และความชอบธรรมแก่ยาโคบ[a]
5 จงยกย่องพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
และกราบนมัสการ ณ ที่วางเท้าของพระองค์
พระองค์บริสุทธิ์
6 โมเสสและอาโรนอยู่ในบรรดาปุโรหิตของพระองค์
ซามูเอลอยู่ในบรรดาผู้ร้องเรียกพระนามของพระองค์
ท่านเหล่านี้ได้ร้องบอกพระผู้เป็นเจ้า
และพระองค์ก็ตอบท่าน
7 พระองค์กล่าวกับท่านเหล่านั้นจากเสาเมฆก้อนมหึมา
ท่านรักษาคำสั่งของพระองค์
และกฎเกณฑ์ที่พระองค์บัญชาไว้
8 โอ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา พระองค์ตอบชนชาติของพระองค์
พระองค์เป็นพระเจ้าผู้พรั่งพร้อมด้วยการให้อภัย
และลงโทษเมื่อพวกเขากระทำบาป
9 จงยกย่องพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
และกราบนมัสการ ณ ภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์
เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเราบริสุทธิ์
รับใช้พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดี
เพลงสดุดีแห่งการขอบคุณ
1 ทั่วทั้งโลกเอ๋ย จงเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดีถวายแด่พระผู้เป็นเจ้าเถิด
2 รับใช้พระผู้เป็นเจ้าด้วยความยินดี
เข้าเฝ้าพระองค์ด้วยการร้องเพลง
3 จงรู้เถิดว่าพระผู้เป็นเจ้าเป็นพระเจ้า
พระองค์เป็นผู้สร้างพวกเรา และเราเป็นคนของพระองค์
เป็นชนชาติของพระองค์ และเป็นฝูงแกะในทุ่งหญ้าของพระองค์
4 เข้าสู่ประตูของพระองค์ด้วยใจขอบคุณ
เข้าสู่ลานพระตำหนักของพระองค์ด้วยการสรรเสริญ
ขอบคุณพระองค์ และสรรเสริญพระนามของพระองค์
5 เพราะพระผู้เป็นเจ้าประเสริฐ
ความรักอันมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่ตลอดกาล
ความสัตย์จริงของพระองค์ยืนยงไปทุกชั่วอายุคน
สัจจะของกษัตริย์
เพลงสดุดีของดาวิด
1 ข้าพเจ้าจะร้องเพลงถึงความรักอันมั่นคงและความเป็นธรรม
โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะบรรเลงเพลงถวายแด่พระองค์
2 ข้าพเจ้าจะใส่ใจในวิถีทางแห่งสัจจะ
เมื่อใดเล่าพระองค์จึงจะมาเยือนข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าใช้สัจจะเป็นเครื่องดำเนินชีวิต
ภายในเรือนของข้าพเจ้า
3 ข้าพเจ้าจะไม่ข้องแวะกับสิ่งเลวใดๆ
ข้าพเจ้าเกลียดการกระทำความชั่วของคน
และข้าพเจ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
4 ข้าพเจ้าอยู่ห่างจากคนมีใจลวงหลอก
ข้าพเจ้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งเลวร้าย
5 ใครก็ตามที่แอบว่าร้ายเพื่อนบ้านของตน
ข้าพเจ้าก็จะไม่ไว้ชีวิตเขา
ข้าพเจ้าจะไม่ยอมทนกับคน
ที่มีสายตาหยิ่งจองหองและมีใจยโส
6 ข้าพเจ้าหมายตาคนภักดีในแผ่นดิน
เพื่อให้เขาอาศัยอยู่กับข้าพเจ้า
คนที่ดำเนินชีวิตโดยปราศจากข้อตำหนิ
จะปรนนิบัติข้าพเจ้า
7 ไม่มีคนพูดเท็จคนใดจะอาศัยในเรือนของข้าพเจ้าได้
คนโป้ปดไม่มีวันยืนอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้าได้นาน
8 ทุกๆ เช้า ข้าพเจ้าไม่ไว้ชีวิตคนชั่วร้ายทั้งปวง
ในแผ่นดิน
ข้าพเจ้าจะกำจัดบรรดาคนทำชั่ว
ให้ไปเสียจากเมืองของพระผู้เป็นเจ้า[b]
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation