The Daily Audio Bible
Today's audio is from the EHV. Switch to the EHV to read along with the audio.
1 ภาพนิมิตของโอบาดีห์
เอโดมจะต้องถ่อมตัวลง
พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวถึงเอโดม[a]ดังนี้
พวกเราได้รับข้อความจากพระผู้เป็นเจ้า
และผู้ส่งข่าวผู้หนึ่งถูกส่งให้ไปยังบรรดาประชาชาติ เพื่อบอกดังนี้ว่า
“จงเตรียมพร้อม พวกเราจงพร้อมที่จะสู้รบกับเอโดม”
2 “ดูเถิด เราจะทำให้เจ้าด้อยในท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
เจ้าจะถูกดูหมิ่นอย่างมาก
3 ใจหยิ่งยโสของเจ้าได้ลวงเจ้าแล้ว
เจ้าอาศัยอยู่ในซอกหิน
และทำที่อยู่อาศัยบนภูเขาสูง
เจ้าคิดในใจว่า
‘ใครจะทำให้เราลงมายังพื้นดินได้’
4 แม้ว่าเจ้าจะโผบินอย่างนกอินทรี
แม้รังของเจ้าจะถูกวางในหมู่ดาว
เราก็จะทำให้เจ้าลงมาจากที่นั่น”
พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
5 “ถ้าพวกขโมยมาหาเจ้า
ถ้านักปล้นมาในเวลากลางคืน
โอ ความทุกข์ร้อนรอเจ้าอยู่เพียงไร
พวกเขาจะขโมยทุกสิ่งที่ต้องการ
ถ้าพวกคนเก็บองุ่นมาหาเจ้า
พวกเขาจะเหลือให้คนยากไร้เก็บบ้างมิใช่หรือ
6 เอซาวถูกปล้นจนหมดสิ้น
สมบัติของเขาที่ซ่อนไว้ก็ถูกค้นหาทุกซอกทุกมุม
7 มิตรสหายของเจ้าทุกคนได้ขับไล่เจ้าไปถึงชายแดนของเจ้า
บรรดาผู้ที่เป็นมิตรกับเจ้าได้ลวงเจ้า และข่มเจ้า
บรรดาผู้รับประทานอาหารของเจ้าได้วางกับดักจับเจ้า
แต่เจ้าจะไม่ทราบเลย”
8 พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนี้ว่า
“ในวันนั้น เราจะไม่กำจัดผู้เรืองปัญญาให้สิ้นไปจากเอโดมหรือ
และกำจัดผู้มีความเข้าใจให้สิ้นไปจากภูเขาเอซาวหรือ
9 โอ เทมานเอ๋ย บรรดานักรบของเจ้าจะตื่นตระหนก
และทุกคนที่ภูเขาเอซาวจะถูกตัดขาดด้วยการถูกสังหาร
เอโดมรุนแรงต่อยาโคบ
10 เพราะความรุนแรงที่เจ้ากระทำต่อยาโคบน้องชายของเจ้า
เจ้าจะต้องอับอายมาก
และเจ้าจะถูกตัดขาดไปตลอดกาล
11 ในวันที่เจ้ายืนอยู่ห่างๆ
ในวันที่บรรดาคนแปลกหน้าขนสมบัติของเขาไป
และบรรดาชาวต่างชาติเข้าไปในประตูเมืองของเขา
และจับฉลากเพื่อชิงเยรูซาเล็ม[b]
เจ้าเป็นเหมือนคนหนึ่งในบรรดาพวกเขา
12 แต่เจ้าอย่าสะใจกับน้องชายของเจ้า
ในวันที่เขาประสบกับเรื่องร้ายๆ
อย่ายินดีในเวลาที่ชาวยูดาห์ลำบาก
อย่าโอ้อวดในวันแห่งความทุกข์
13 อย่าเข้าประตูเมืองของชนชาติของเรา
ในวันแห่งความวิบัติของพวกเขา
อย่าสะใจเมื่อพวกเขามีความทุกข์ร้อน
ในวันแห่งความวิบัติของพวกเขา
อย่ายึดทรัพย์สมบัติของพวกเขา
ในวันแห่งความวิบัติของพวกเขา
14 อย่ายืนที่ทางแยก
และกำจัดบรรดาผู้ลี้ภัย
อย่าจับบรรดาผู้รอดชีวิตส่งให้แก่ศัตรู
ในยามที่พวกเขาเดือดร้อน
วันของพระผู้เป็นเจ้าใกล้จะถึงแล้ว
15 ด้วยว่า วันของพระผู้เป็นเจ้าใกล้จะถึงแล้ว
สำหรับประชาชาติทั้งปวง
เจ้าได้กระทำอย่างไร เจ้าก็จะถูกกระทำตอบอย่างนั้น
การกระทำของเจ้าจะกลับมาสนองตัวเจ้าเอง
16 เจ้าได้ดื่มบนภูเขาอันบริสุทธิ์ของเราอย่างไร
ประชาชาติทั้งปวงก็จะดื่มต่อไปอย่างนั้น
พวกเขาจะดื่มและกลืนลงไป
และจะเป็นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
17 แต่ที่ภูเขาศิโยนจะมีบรรดาผู้ที่หนีรอด
และจะเป็นที่บริสุทธิ์
และพงศ์พันธุ์ยาโคบจะเป็นเจ้าของมรดกของพวกเขา
18 พงศ์พันธุ์ยาโคบจะเป็นประดุจไฟ
และพงศ์พันธุ์โยเซฟจะเป็นเปลวไฟ
พงศ์พันธุ์เอซาวจะเป็นกองฟาง
ไฟและเปลวไฟจะเผาและทำให้เอซาวมอดไหม้
และจะไม่มีผู้ใดในพงศ์พันธุ์เอซาวรอดชีวิตมาได้”
เพราะพระผู้เป็นเจ้าได้กล่าวดังนั้น
อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า
19 ประชาชนจากเนเกบจะยึดภูเขาเอซาว
และประชาชนจากที่ลุ่มจะยึดแผ่นดินของชาวฟีลิสเตีย
พวกเขาจะยึดครองแผ่นดินของเอฟราอิมและแผ่นดินของสะมาเรีย
และเบนยามินจะยึดกิเลอาด
20 บรรดาเชลยชาวอิสราเอลซึ่งอยู่ในคานาอัน
จะยึดแผ่นดินจนถึงศาเรฟัท
และบรรดาเชลยของเยรูซาเล็มซึ่งอยู่ในเสฟาราด
จะยึดเมืองต่างๆ ในเนเกบ
21 บรรดาผู้ช่วยให้พ้นภัยจะขึ้นไปยังภูเขาศิโยน
และปกครองภูเขาเอซาว
และอาณาจักรจะเป็นของพระผู้เป็นเจ้า
บัลลังก์ในสวรรค์
4 ดูเถิด หลังจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นประตูสวรรค์เปิดอยู่ เสียงที่ข้าพเจ้าได้ยินครั้งแรกดุจเสียงแตรนั้นพูดกับข้าพเจ้าว่า “จงขึ้นมาบนนี้เถิด และเราจะให้เจ้าเห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ไปแล้ว” 2 ในทันใดนั้น ข้าพเจ้าอยู่ในฝ่ายวิญญาณ ดูเถิด มีบัลลังก์ตั้งอยู่ในสวรรค์ และมีผู้หนึ่งนั่งอยู่ 3 องค์ที่นั่งอยู่นั้นปรากฏราวกับมณีสีเขียวและสีแดง และมีรุ้งล้อมรอบบัลลังก์ทรงกลดด้วยรัศมีแก้วมรกต 4 รอบบัลลังก์ก็มีบัลลังก์อีก 24 บัลลังก์ ข้าพเจ้าเห็นผู้ใหญ่ 24 ท่านซึ่งสวมมงกุฎทองคำบนศีรษะและนุ่งห่มด้วยผ้าสีขาวนั่งอยู่บนบัลลังก์ 5 มีสายฟ้าแลบ เสียงต่างๆ และเสียงฟ้าคำรามครืนครั่นหลายครั้งจากบัลลังก์ มีคบเพลิงจุดลุกอยู่ 7 ท่อนตรงหน้าบัลลังก์ ซึ่งเป็นพระวิญญาณทั้งเจ็ดของพระเจ้า 6 และตรงหน้าบัลลังก์ดูเหมือนทะเลแก้วที่ใสดุจดังแก้วเจียระไน
ณ จตุรทิศรอบบัลลังก์มีสิ่งมีชีวิต 4 ตัวซึ่งมีตาเต็มไปหมดทั้งข้างหน้าและข้างหลัง 7 สิ่งมีชีวิตตัวแรกเหมือนสิงโต ตัวที่สองเหมือนโค ตัวที่สามมีหน้าเหมือนมนุษย์ ตัวที่สี่เหมือนนกอินทรีที่กำลังบิน 8 สิ่งมีชีวิตแต่ละตัวมีปีก 6 ปีกและมีตาโดยรอบ รวมทั้งที่ใต้ปีกด้วย ตลอดวันตลอดคืนสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นร้องไม่หยุดเลยว่า
“บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์
คือพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าจอมโยธา
ผู้ดำรงอยู่ทั้งในอดีต ในปัจจุบัน และผู้ที่จะมาในอนาคต”
9 เมื่อใดก็ตามที่สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นถวายพระบารมีและพระเกียรติแด่พระองค์ และขอบคุณองค์ที่นั่งบนบัลลังก์และมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์กาล 10 บรรดาผู้ใหญ่ 24 ท่านก็จะหมอบลงเบื้องหน้าองค์ที่นั่งบนบัลลังก์ และนมัสการองค์ผู้มีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์กาล ทั้งได้ถอดมงกุฎวางไว้ที่หน้าบัลลังก์พลางพูดว่า
11 “พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา
พระองค์สมควรที่จะรับพระบารมี พระเกียรติ และอานุภาพ
ด้วยว่าพระองค์ได้สร้างทุกสิ่ง
และด้วยความประสงค์ของพระองค์สิ่งเหล่านั้นจึงเป็นอยู่และถูกสร้างขึ้น”
พระผู้เป็นเจ้าได้เลือกศิโยน
บทเพลงบรรเลงในขบวนแห่ขณะเคลื่อนขึ้นสู่เนินเขา
1 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดระลึกถึงดาวิดว่า
ท่านต้องทนต่อความยากลำบากทั้งปวงขนาดไหน
2 ท่านสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า
และสัญญาต่อองค์ผู้มีอานุภาพของยาโคบอย่างไรบ้าง
3 “ข้าพเจ้าจะไม่ไปในกระโจมที่พักของข้าพเจ้า
หรือเข้านอน
4 ข้าพเจ้าจะไม่หลับตานอน
หรือแม้แต่พักตาสักงีบ
5 จนกว่าข้าพเจ้าจะพบที่อยู่สำหรับพระผู้เป็นเจ้า
คือกระโจมที่พำนักสำหรับองค์ผู้มีอานุภาพของยาโคบ”
6 ดูเถิด พวกเราเคยได้ยินเรื่องนี้ในเมืองเอฟราธาห์
และก็พบแล้วในนาของยาอาร์[a]
7 “ให้เราไปยังกระโจมที่พำนักของพระองค์
กราบ ณ ที่วางเท้าของพระองค์เถิด”
8 ได้โปรดลุกขึ้นเถิด โอ พระผู้เป็นเจ้า และไปยังที่พักของพระองค์
ทั้งพระองค์และหีบพันธสัญญาอันมีอานุภาพของพระองค์
9 ขอให้บรรดาปุโรหิตของพระองค์สวมคลุมด้วยความชอบธรรม
และให้บรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี
10 เพื่อดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์
ขออย่าเมินหน้าไปจากผู้ได้รับการเจิมของพระองค์
11 พระผู้เป็นเจ้าได้ปฏิญาณกับดาวิดอย่างแม่นมั่นแล้วว่า
พระองค์จะไม่คืนคำ
“เราจะให้ผู้หนึ่งในบรรดาผู้สืบวงศ์ตระกูลของเจ้า
ครองบนบัลลังก์ของเจ้า
12 ถ้าบรรดาบุตรของเจ้ารักษาพันธสัญญา
และคำสั่งที่เราจะสอนพวกเขา
รวมไปถึงบุตรของเขาก็จะได้นั่งบนบัลลังก์ของเจ้า
ไปตลอดกาลนาน”
13 เพราะพระผู้เป็นเจ้าเลือกศิโยน
พระองค์ประสงค์ให้เป็นที่พำนักของพระองค์
14 “นี่เป็นที่พำนักของเราไปชั่วกาลนาน
เราจะอยู่ที่นี่ เพราะเราต้องการเช่นนั้น
15 เราจะอวยพรให้ศิโยนได้รับอย่างท่วมท้น
คนยากไร้ของศิโยนจะมีอาหารจนเป็นที่พอใจ
16 เราจะให้บรรดาปุโรหิตของศิโยนถึงซึ่งความรอดพ้น
และบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้าในศิโยนสามารถเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี
17 เราจะทำให้เกิดพละกำลังขึ้น ณ ที่นั้นเพื่อดาวิด
เราได้เตรียมตะเกียงไว้ให้แก่คนที่เราเจิม
18 เราจะให้พวกศัตรูของเขาอับอายเป็นที่สุด
แต่มงกุฎของเขาจะเปล่งประกายบนตัวเขา”
24 คนทำงานร่วมกับโจรเกลียดชังตนเอง
เขาได้ยินคำสาปแช่ง แต่ก็ไม่ปริปากพูด
25 การกลัวมนุษย์เป็นเสมือนบ่วงแร้ว
ส่วนคนที่ไว้วางใจพระผู้เป็นเจ้าได้รับความปลอดภัย
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation