Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

Read the Gospels in 40 Days

Read through the four Gospels--Matthew, Mark, Luke, and John--in 40 days.
Duration: 40 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
ยอห์น 17-18

คำอธิษฐานของพระเยซู

17 หลังจากที่พระเยซูได้พูดถึงสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็เงยหน้าขึ้นสู่สวรรค์และกล่าวว่า “พระบิดา ถึงเวลาแล้ว ขอพระบารมีของพระองค์จงมีแด่พระบุตรของพระองค์เถิด เพื่อพระบุตรจะได้มอบพระบารมีให้แด่พระองค์ พระองค์ได้ให้พระบุตรมีสิทธิอำนาจเหนือมนุษย์ทั้งปวง เพื่อจะได้มอบชีวิตอันเป็นนิรันดร์แก่ทุกคนที่พระองค์ได้ให้แก่พระบุตร ชีวิตอันเป็นนิรันดร์ คือพวกเขาจะได้รู้จักพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าที่แท้จริง และพระเยซูคริสต์ที่พระองค์ได้ส่งมา ข้าพเจ้าได้ให้พระบารมีแด่พระองค์ในโลก ด้วยเหตุว่าข้าพเจ้าได้ทำงานที่พระองค์ได้ให้ข้าพเจ้าทำเสร็จบริบูรณ์แล้ว พระบิดา บัดนี้ขอพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าได้รับพระบารมีร่วมกับพระองค์ ซึ่งเป็นพระบารมีที่ข้าพเจ้าเคยมีร่วมกับพระองค์ ก่อนที่โลกนี้จะมีมาด้วยเถิด

ข้าพเจ้าเปิดเผยพระนามของพระองค์ แก่คนที่พระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า ซึ่งมาจากโลกนี้ เขาเหล่านั้นเป็นคนของพระองค์ ซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า และเขาก็ได้เชื่อฟังคำสั่งสอนของพระองค์แล้ว บัดนี้พวกเขาทราบแล้ว ว่าทุกสิ่งซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้ามาจากพระองค์ เพราะว่าคำสั่งสอนที่พระองค์ให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ให้แก่พวกเขา และพวกเขาก็ได้รับแล้ว และเข้าใจอย่างแท้จริงแล้วว่า ข้าพเจ้ามาจากพระองค์ และเชื่อว่าพระองค์ส่งข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าขอร้องเพื่อพวกเขา มิใช่เพื่อโลกนี้ แต่เพื่อบรรดาคนที่พระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า เพราะพวกเขาเป็นคนของพระองค์ 10 ทุกสิ่งที่เป็นของข้าพเจ้า ก็เป็นของพระองค์ และสิ่งที่เป็นของพระองค์ก็เป็นของข้าพเจ้าเช่นกัน ข้าพเจ้าได้รับบารมีผ่านเขาเหล่านั้น 11 ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ในโลกต่อไปแล้ว แต่พวกเขาเองยังคงอยู่ในโลก ข้าพเจ้ามาหาพระองค์ พระบิดาผู้บริสุทธิ์ ขอพระองค์โปรดพิทักษ์รักษาเขาไว้ในพระนามของพระองค์ พระนามซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า เพื่อให้พวกเขาได้เป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนกับที่พระองค์และข้าพเจ้าได้เป็นหนึ่งเดียวกัน 12 ขณะที่ข้าพเจ้ายังอยู่กับพวกเขา ข้าพเจ้าได้คุ้มครองพวกเขาด้วยพระนามของพระองค์ พระนามซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้พิทักษ์รักษาเขาไว้ ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดสูญหายไป นอกจากบุตรแห่งความพินาศ เพื่อจะได้เป็นไปตามที่พระคัมภีร์ระบุไว้

13 บัดนี้ข้าพเจ้ามาหาพระองค์ ที่ข้าพเจ้าพูดถึงสิ่งเหล่านี้ขณะที่ยังอยู่ในโลก ก็เพื่อว่าเขาจะได้รับความชื่นชมยินดีของข้าพเจ้าอย่างเต็มเปี่ยมในจิตใจ 14 ข้าพเจ้าได้มอบคำสั่งสอนของพระองค์ให้แก่พวกเขา และโลกก็เกลียดชังพวกเขาแล้ว เนื่องจากที่ไม่เป็นคนของโลกนี้ เหมือนกับข้าพเจ้าที่ไม่เป็นคนของโลก 15 ข้าพเจ้าไม่ได้ขอให้พระองค์พาตัวพวกเขาไปจากโลก แต่พิทักษ์รักษาเขาให้พ้นจากมารร้าย 16 พวกเขาไม่เป็นคนของโลกนี้ เหมือนกับข้าพเจ้าที่ไม่เป็นคนของโลก 17 ขอพระองค์ชำระพวกเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริง คำสั่งสอนของพระองค์เป็นความจริง 18 ข้าพเจ้าได้ส่งเขาไปในโลก ดังที่พระองค์ส่งข้าพเจ้ามาในโลก 19 ข้าพเจ้ารักษาตนให้บริสุทธิ์ก็เพื่อเขาเหล่านั้น และเขาจะได้รับการชำระให้บริสุทธิ์ด้วยความจริงเช่นกัน

20 ข้าพเจ้ามิได้อ้อนวอนขอเพื่อเฉพาะคนเหล่านี้เท่านั้น แต่เพื่อบรรดาคนที่เชื่อในข้าพเจ้า จากการได้ยินคำสั่งสอนของพวกเขาด้วย 21 พระบิดา เพื่อเขาทุกคนจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันดังที่พระองค์อยู่ในข้าพเจ้า และข้าพเจ้าอยู่ในพระองค์ เพื่อพวกเขาจะได้อยู่ในพระองค์และอยู่ในข้าพเจ้าด้วย และเพื่อโลกจะได้เชื่อว่าพระองค์ได้ส่งข้าพเจ้ามา 22 พระบารมีซึ่งพระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าก็ได้มอบให้แก่พวกเขาแล้ว เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกัน เช่นเดียวกับที่พระองค์และข้าพเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกัน 23 ข้าพเจ้าอยู่ในพวกเขาและพระองค์อยู่ในข้าพเจ้า เพื่อเขาจะได้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างบริบูรณ์ และเพื่อให้โลกรู้ว่าพระองค์ได้ส่งข้าพเจ้ามา และพระองค์รักพวกเขาเช่นเดียวกับที่พระองค์รักข้าพเจ้า

24 พระบิดา ข้าพเจ้าอยากให้บรรดาผู้ที่พระองค์มอบให้แก่ข้าพเจ้า มาอยู่ในที่ที่ข้าพเจ้าอยู่ด้วย เพื่อให้พวกเขาได้เห็นบารมีของข้าพเจ้าซึ่งพระองค์ได้มอบให้ไว้ เพราะว่าพระองค์รักข้าพเจ้าก่อนที่จะสร้างโลก

25 พระบิดาผู้มีความชอบธรรม แม้ว่าโลกจะไม่รู้จักพระองค์แต่ข้าพเจ้ารู้จักพระองค์ และเขาเหล่านี้รู้แล้วว่า พระองค์ได้ส่งข้าพเจ้ามา 26 ข้าพเจ้าได้ทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่รู้จักในหมู่พวกเขา และจะกระทำต่อไปอีก เพื่อว่าความรักที่พระองค์มีต่อข้าพเจ้าจะได้บังเกิดขึ้นในพวกเขาด้วย และเพื่อข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพวกเขา”

พระเยซูถูกจับกุม

18 เมื่อพระเยซูกล่าวดังนี้แล้ว พระองค์พร้อมด้วยสาวกได้เดินข้ามซอกหุบเขาขิดโรน เข้าไปยังสวนแห่งหนึ่ง ยูดาสผู้กำลังจะทรยศพระองค์ก็รู้จักสวนนั้น เพราะพระเยซูเคยไปพบปะกับเหล่าสาวกของพระองค์ที่นั่นบ่อยครั้ง ยูดาสจึงพาทหารในกองกลุ่มหนึ่งกับพวกเจ้าหน้าที่จากบรรดามหาปุโรหิตและฟาริสีไปที่นั่น ต่างก็ถือตะเกียง ไต้ และอาวุธมาด้วย พระเยซูทราบดีถึงทุกสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพระองค์ จึงก้าวออกไปถามพวกเขาว่า “ท่านตามหาใคร” พวกเขาตอบว่า “เยซูแห่งเมืองนาซาเร็ธ” พระองค์กล่าวว่า “เราคือผู้นั้น”[a] และยูดาสผู้ที่กำลังจะทรยศพระองค์ก็ยืนอยู่ที่นั่นด้วย เมื่อพระองค์กล่าวว่า “เราคือผู้นั้น” พวกเขาก็ถอยหลังกลับไปและล้มลงที่พื้น พระองค์จึงถามพวกเขาอีกว่า “ท่านตามหาใคร” เขาพูดว่า “เยซูแห่งเมืองนาซาเร็ธ” พระเยซูตอบว่า “เราบอกแล้วว่าเราคือผู้นั้น ถ้าท่านตามหาเรา ก็จงปล่อยให้คนเหล่านี้ไปเถิด” เพื่อจะได้เป็นไปตามคำที่พระองค์กล่าวไว้ว่า “ในบรรดาผู้ที่พระองค์ได้มอบให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่ได้ให้สักคนเดียวหลงหายเลย”[b] 10 ซีโมนเปโตรมีดาบจึงชักออกฟันทาสชื่อมัลคัส ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของหัวหน้ามหาปุโรหิต และตัดหูขวาของเขาขาด 11 พระเยซูกล่าวกับเปโตรว่า “จงเอาดาบใส่ฝักเสีย เราควรจะต้องดื่มจากถ้วยซึ่งพระบิดาได้ให้แก่เรามิใช่หรือ”

12 แล้วเหล่าทหารในกองกลุ่มหนึ่งพร้อมทั้งผู้บังคับกองพันกับพวกเจ้าหน้าที่ของชาวยิวจึงจับกุมและมัดพระเยซูไว้ 13 แรกทีเดียวพวกเขานำพระองค์ไปหาอันนาส ซึ่งเป็นพ่อตาของคายาฟาสหัวหน้ามหาปุโรหิตในปีนั้น 14 คายาฟาสเป็นคนแนะนำพวกชาวยิวว่า ดีแล้วที่คนหนึ่งจะตายแทนคนทั้งปวง

เปโตรปฏิเสธครั้งแรก

15 ซีโมนเปโตรและสาวกอีกคนกำลังตามพระเยซูไป สาวกคนนั้นรู้จักกับหัวหน้ามหาปุโรหิต จึงได้เข้าไปกับพระเยซูถึงลานบ้านของหัวหน้ามหาปุโรหิต 16 แต่เปโตรกำลังยืนอยู่ที่ประตูด้านนอก ฉะนั้นสาวกคนที่รู้จักหัวหน้ามหาปุโรหิต จึงได้ออกไปพูดกับหญิงที่เฝ้าประตูและนำเปโตรเข้ามา 17 ทาสรับใช้หญิงที่เฝ้าประตูจึงพูดกับเปโตรว่า “ท่านไม่ใช่สาวกอีกคนของชายผู้นี้ใช่ไหม” เขาพูดว่า “เราไม่ได้เป็น” 18 ขณะนั้นอากาศหนาวเย็น พวกทาสรับใช้และเจ้าหน้าที่กำลังยืนผิงไฟซึ่งก่อจากถ่าน เปโตรเองก็ยืนผิงไฟอยู่กับเขาด้วย

หัวหน้ามหาปุโรหิตถามพระเยซู

19 หัวหน้ามหาปุโรหิตถามพระเยซูเกี่ยวกับบรรดาสาวกและการสั่งสอนของพระองค์ 20 พระเยซูตอบว่า “เราได้พูดอย่างเปิดเผยต่อโลก เราสั่งสอนอยู่เสมอในศาลาที่ประชุมและในพระวิหารที่พวกชาวยิวมาชุมนุมกัน เราไม่ได้พูดสิ่งใดในที่ลับ 21 ทำไมท่านจึงถามเรา จงถามพวกที่ได้ยินเถิดว่าเราพูดอะไรกับเขา เพราะพวกเขารู้ว่าเราได้พูดอะไรไป” 22 เมื่อพระองค์กล่าวดังนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตบหน้าพระเยซูแล้วพูดว่า “ท่านตอบหัวหน้ามหาปุโรหิตอย่างนั้นหรือ” 23 พระเยซูตอบว่า “ถ้าเราพูดผิดก็จงกล่าวหาเถิดว่าผิดอย่างไร แต่ถ้าถูกต้องแล้ว ท่านมาตบเราทำไม” 24 อันนาสจึงมอบพระองค์ซึ่งถูกมัดอยู่ให้กับคายาฟาสหัวหน้ามหาปุโรหิต

เปโตรปฏิเสธครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3

25 ขณะนั้นซีโมนเปโตรกำลังยืนผิงไฟอยู่ คนเหล่านั้นจึงพูดกับเขาว่า “ท่านไม่ใช่หนึ่งในบรรดาสาวกของเขาด้วยหรือ” เปโตรปฏิเสธว่า “เราไม่ได้เป็น” 26 ทาสรับใช้คนหนึ่งของหัวหน้ามหาปุโรหิตซึ่งเป็นญาติกับคนที่เปโตรตัดหูขาดก็พูดขึ้นว่า “ข้าพเจ้าเห็นท่านในสวนกับเขามิใช่หรือ” 27 เปโตรจึงปฏิเสธอีก และทันใดนั้นเอง ไก่ก็ขัน

ปีลาตสอบสวนพระเยซู

28 เขาเหล่านั้นก็พาพระเยซูจากคายาฟาสไปยังวังของผู้ว่าราชการโรมันในตอนเช้าตรู่ แต่ไม่ได้เข้าไปในวังเพื่อไม่ให้เป็นมลทิน และจะได้รับประทานในเทศกาลปัสกาได้ 29 ปีลาตจึงออกมาหาเขาเหล่านั้นแล้วพูดว่า “ชายผู้นี้ถูกฟ้องร้องด้วยข้อหาอะไร” 30 พวกเขาตอบว่า “ถ้าชายผู้นี้ไม่กระทำความชั่ว พวกเราก็จะไม่มอบเขาไว้กับท่าน” 31 ปีลาตจึงพูดกับเขาว่า “พวกท่านจงเอาตัวเขาไปกล่าวโทษตามกฎของท่านเองเถิด” บรรดาชาวยิวพูดกับเขาว่า “พวกเราไม่มีสิทธิ์ประหารใคร” 32 ทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามที่พระเยซูได้กล่าวไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพระองค์จะสิ้นชีวิตอย่างไร

33 ปีลาตจึงเข้าไปในวังอีกและเรียกพระเยซูมาถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” 34 พระเยซูตอบว่า “ท่านพูดเกี่ยวกับเราตามความคิดของท่านเอง หรือเพราะคนอื่นๆ บอกท่าน” 35 ปีลาตตอบว่า “เราเป็นคนยิวหรือ ชนชาติของท่านและเหล่ามหาปุโรหิตได้มอบตัวท่านไว้กับเรา ท่านได้กระทำอะไรไปบ้าง” 36 พระเยซูตอบว่า “อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้ ถ้าอาณาจักรของเราเป็นของโลกนี้แล้ว บรรดาผู้รับใช้ของเราก็จะต่อสู้เพื่อไม่ให้เราถูกมอบตัวไว้กับพวกชาวยิว แต่เท่าที่เป็นอยู่นี้ อาณาจักรของเราไม่ได้อยู่ที่นี่” 37 ดังนั้นปีลาตจึงพูดกับพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้นท่านก็คือกษัตริย์น่ะสิ” พระเยซูตอบว่า “ท่านพูดถูกต้องแล้วว่าเราคือกษัตริย์ และด้วยเหตุนี้เราจึงเกิดมา และเราจึงมาในโลกเพื่อยืนยันถึงความจริง ทุกคนที่มาจากความจริงฟังเสียงของเรา”

38 ปีลาตพูดกับพระองค์ว่า “ความจริงคืออะไร” และเมื่อพูดดังนั้นแล้วก็ออกไปหาชาวยิวอีก และพูดว่า “เราเห็นว่าเขาไม่มีความผิด 39 แต่พวกท่านมีธรรมเนียมอย่างหนึ่ง คือให้เราปลดปล่อยใครสักคนให้แก่ท่านในเทศกาลปัสกา ท่านอยากให้เราปลดปล่อยกษัตริย์ของชาวยิวให้แก่ท่านไหม” 40 เขาเหล่านั้นจึงร้องขึ้นอีกว่า “ไม่ใช่ชายคนนี้ ควรเป็นบารับบัส” แต่บารับบัสที่ว่านั้นเป็นโจร

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation