Print Page Options
Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
New Thai Version (NTV-BIBLE)
Version
เฉลยธรรมบัญญัติ 28:20-68

20 พระผู้เป็นเจ้าจะให้สิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นกับท่าน ทำให้เกิดความว้าวุ่นชุลมุนและความลำเค็ญในทุกสิ่งที่ท่านทำ จนท่านถูกกำจัดและสิ้นชีวิตโดยเร็วเนื่องจากการกระทำอันชั่วร้ายของท่านที่ทอดทิ้งพระองค์ 21 พระผู้เป็นเจ้าจะให้ภัยพิบัติเกิดขึ้นกับท่านจนกระทั่งพระองค์ทำลายล้างให้หมดสิ้นไปจากแผ่นดินที่ท่านกำลังจะเข้าไปยึดครอง 22 พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านประสบกับโรคระบาด เป็นไข้สูง เกิดอาการอักเสบ ร้อนราวกับไฟ แล้งฝน ลมร้อนแห้ง เชื้อราระบาดในพืช สิ่งเหล่านี้จะตามรังควานท่านจนกว่าชีวิตจะหาไม่ 23 และท้องฟ้าที่อยู่เหนือศีรษะท่านจะเป็นดั่งแผ่นทองสัมฤทธิ์ พื้นดินที่อยู่ใต้ท่านจะเป็นดั่งแผ่นเหล็ก 24 พระผู้เป็นเจ้าจะให้ฝุ่นและผุยผงปลิวลงบนแผ่นดินของท่านแทนหยาดฝน ซึ่งจะปกคลุมเคลือบติดแน่นอยู่กับท่านจนกว่าท่านจะถูกกำจัดไป

25 พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านพ่ายแพ้ต่อหน้าต่อตาพวกศัตรู ไม่ว่าท่านจะเข้าโจมตีจากทิศใดทิศหนึ่ง แต่ท่านก็จะเตลิดหนีไปทั่วทุกทิศทุกทางต่อหน้าพวกเขา และทุกๆ อาณาจักรทั่วโลกจะหวาดหวั่นเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับท่าน 26 และศพของท่านจะเป็นเหยื่อแก่นกในอากาศและพวกสัตว์ป่าในโลก และจะไม่มีใครหลงเหลืออยู่เพื่อขับไล่สัตว์เหล่านั้นไป 27 พระผู้เป็นเจ้าจะให้ท่านรับทุกข์ทรมานจากฝีอียิปต์ จากเนื้องอก และโรคผิวหนังซึ่งคันและรักษาไม่หายขาด 28 พระผู้เป็นเจ้าจะให้ท่านรับทุกข์ทรมานจากโรควิกลจริต ตาบอด และจิตใจสับสน 29 ท่านจะคลำไปในเวลาเที่ยงวันอย่างคนตาบอดคลำในที่มืด ท่านจะทำสิ่งใดก็ไม่เจริญ และท่านจะถูกผู้คนบีบบังคับและถูกปล้นเรื่อยไป ไม่อาจมีที่พึ่งพิง 30 แม้ท่านจะหมั้นหญิงไว้คนหนึ่ง แต่ชายอื่นจะเป็นผู้แต่งกับเธอ ท่านจะสร้างบ้าน แต่ก็จะไม่ได้อาศัยอยู่ ท่านปลูกสวนองุ่น แต่ท่านก็จะไม่ได้กินผลของมัน 31 โคของท่านจะถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาท่าน แต่ท่านกลับไม่ได้กินเนื้อของมัน ลาของท่านจะถูกจับไปต่อหน้าท่าน แต่ก็จะไม่ถูกส่งกลับมาให้ท่านอีก แพะแกะของท่านจะเป็นของศัตรูของท่าน โดยไม่มีใครช่วยท่านได้ 32 บุตรชายบุตรหญิงของท่านจะไปเป็นของชนชาติอื่น นัยน์ตาของท่านจะเฝ้าอาลัยรอคอยพวกเขาจนอ่อนใจวันแล้ววันเล่า และท่านไม่อาจช่วยเหลือพวกเขาได้เลย 33 ชนชาติที่ท่านไม่รู้จักมาก่อนจะเก็บกินพืชผลจากไร่นาและสิ่งที่ท่านลงแรงทำไว้ ท่านจะมีแต่ถูกบีบบังคับและข่มเหงเรื่อยไป 34 ท่านจะเห็นสภาพเหล่านั้นด้วยตาของท่านเองจนอาการคลุ้มคลั่ง 35 พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านมีความทุกข์อันเกิดจากฝีร้ายที่หัวเข่าและขาซึ่งท่านไม่สามารถรักษาให้หายขาด มันจะลามจากฝ่าเท้าขึ้นไปจนถึงกระหม่อม

36 พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านและกษัตริย์ที่ท่านแต่งตั้งให้อยู่เหนือท่าน ไปอยู่ใต้การควบคุมของประชาชาติหนึ่งซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่รู้จักมาก่อน และ ณ ที่นั้นท่านจะบูชาบรรดาเทพเจ้าซึ่งทำด้วยไม้และหิน 37 ท่านจะเป็นที่น่าหวาดกลัว จะเป็นดั่งคำเปรียบเปรยในสุภาษิต และเป็นที่หัวเราะเยาะในท่ามกลางชนชาติทั้งมวลที่พระผู้เป็นเจ้าจะนำท่านไป 38 ถึงท่านจะหว่านเมล็ดในนามากมาย แต่จะเก็บเกี่ยวได้เพียงน้อยนิด เพราะฝูงจักจั่นจะกัดกินเสีย 39 ถึงท่านจะเพาะปลูกและตัดแต่งสวนองุ่น แต่ท่านจะไม่ได้ดื่มเหล้าองุ่นหรือกินผลของมัน เพราะหนอนกินมันหมด 40 ถึงท่านจะมีต้นมะกอกอยู่ทั่วอาณาเขตของท่าน แต่ท่านจะไม่ได้ชโลมตัวท่านเองด้วยน้ำมันมะกอก เพราะผลของมันจะร่วงหล่น 41 ถึงท่านจะมีบุตรชายบุตรหญิง แต่พวกเขาจะไม่เป็นของท่านเพราะเขาจะถูกจับไปเป็นเชลยศึก 42 ต้นไม้ทุกต้นและพืชผลจากแผ่นดินทั้งหมดของท่านจะตกเป็นของฝูงตั๊กแตน 43 คนต่างด้าวที่อยู่ท่ามกลางพวกท่านจะเจริญและก้าวหน้ากว่าท่านยิ่งๆ ขึ้น และท่านจะตกต่ำลงเรื่อยๆ 44 เขาจะให้ท่านขอยืม และท่านจะไม่เป็นฝ่ายผู้ให้ยืม เขาจะเป็นเบี้ยบน และท่านจะเป็นเบี้ยล่าง

45 คำสาปแช่งดังกล่าวจะเกิดแก่ท่าน จะไล่ล่าและปราบท่านจนกว่าท่านจะหายนะ เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และไม่รักษาพระบัญญัติและกฎเกณฑ์ซึ่งพระองค์บัญชาไว้ 46 สิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นและเป็นสิ่งมหัศจรรย์แก่ท่านและบรรดาผู้สืบเชื้อสายของท่านตลอดไป 47 เพราะท่านไม่ได้รับใช้พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านด้วยความยินดีและใจเปรมปรีดิ์ทั้งๆ ที่ท่านบริบูรณ์ด้วยทุกสิ่ง 48 ฉะนั้นท่านจะรับใช้พวกศัตรูที่พระผู้เป็นเจ้าจะส่งมาต่อต้านท่าน ด้วยความหิวและความกระหาย ด้วยความเปลือยเปล่าและความขัดสนในทุกสิ่ง พระองค์จะวางแอกเหล็กไว้บนคอท่านจนกว่าพระองค์จะกำจัดท่านจนสูญสิ้นไป 49 พระผู้เป็นเจ้าจะนำประชาชาติหนึ่งจากแดนไกลจากสุดขอบโลกมาต่อต้านท่าน เป็นประชาชาติที่ใช้ภาษาที่ท่านไม่เข้าใจ พวกเขามาอย่างรวดเร็วราวกับนกอินทรีที่บินโฉบลง 50 เป็นประชาชาติหนึ่งที่มีหน้าตาโหดเหี้ยมและไม่นับถือคนชรา ไม่เมตตาคนหนุ่มสาว 51 เขาจะกินลูกสัตว์เลี้ยงและพืชผลไร่นาของท่านอย่างตะกละตะกลามจนกระทั่งตัวท่านเองก็ถูกกำจัด อีกทั้งเมล็ดข้าว เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก หรือลูกโค หรือลูกแกะจากฝูงของท่าน พวกเขาก็จะไม่ให้มีเหลือไว้ให้ท่าน จนกว่าพวกเขาจะทำให้ท่านย่อยยับ

52 พวกเขาจะใช้กำลังล้อมทุกเมืองในแผ่นดินของท่าน แม้ท่านมั่นใจในกำแพงเมืองที่สูงและมีการคุ้มกันอย่างแข็งแกร่ง แต่กำแพงเหล่านั้นก็จะถูกพังทลายลงทั้งแผ่นดินของท่าน แล้วพวกเขาจะใช้กำลังล้อมท่านไว้ทุกเมืองทั่วแผ่นดินของท่าน อันเป็นที่ซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้มอบให้แก่ท่านแล้ว 53 และท่านจะกินลูกหลานที่เกิดจากท่านเอง เนื้อลูกชายและลูกสาวของท่านซึ่งพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้ให้แก่ท่าน ในยามที่ศัตรูของท่านใช้กำลังล้อมและก่อให้ท่านเกิดความทุกข์ยากลำบาก 54 แม้แต่ชายที่อ่อนโยนและใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้อื่นมากที่สุดในหมู่พวกท่านก็ยังจะหวงอาหารไม่ยอมแบ่งปันให้แก่พี่น้อง แก่ภรรยาสุดที่รักของตน หรือแก่ลูกๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่เลย 55 เขาจะไม่แบ่งเนื้อของลูกตนเองที่เขากำลังกินอยู่ให้แก่ใครเลย เพราะเขาหมดสิ้นทุกอย่างแล้ว เหตุก็เพราะศัตรูของท่านจะใช้กำลังล้อมและก่อความทุกข์ยากให้กับทุกๆ เมือง 56 หญิงที่อ่อนโยนและใส่ใจต่อความรู้สึกของผู้อื่นมากที่สุดในหมู่พวกท่าน นางเป็นคนไม่ยอมเหยียบย่างไปที่ไหนๆ เพราะนางบอบบางและอ่อนโยนยิ่งนัก นางก็ยังหวงอาหารกับสามีสุดที่รัก และกับบุตรชายบุตรหญิงของนาง 57 ไม่ยอมแบ่งปันรกที่ออกมาจากหว่างขาของนางและทารกที่นางคลอดด้วย เพราะนางจะแอบกินเพียงผู้เดียวในขณะที่ศัตรูก่อความทุกข์ยากในเมืองของท่าน

58 ถ้าท่านไม่ระวังที่จะปฏิบัติตามคำกล่าวทั้งสิ้นในกฎบัญญัติซึ่งเขียนไว้ในหนังสือฉบับนี้ และถ้าท่านไม่เกรงกลัวพระนามอันควรแก่การยกย่องและเกรงขามคือ พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน 59 แล้วพระผู้เป็นเจ้าจะให้ภัยพิบัติอันร้ายแรงเกิดแก่ท่านและลูกหลานของท่าน เป็นภัยพิบัติที่รุนแรงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน รวมถึงโรคระบาดร้ายที่ยากต่อการยับยั้ง 60 และพระองค์จะให้โรคภัยทุกชนิดของอียิปต์ที่ท่านหวาดกลัวเกิดแก่ท่านอีก โดยที่ไม่อาจรักษาให้หายขาดได้ 61 พระผู้เป็นเจ้าจะให้การเจ็บป่วยทุกชนิดและภัยพิบัติที่ไม่ได้ระบุไว้ในหนังสือกฎบัญญัติฉบับนี้เกิดกับท่าน จนกระทั่งท่านถูกกำจัดไป 62 จากจำนวนของพวกท่านเคยมีมากมายดุจดวงดาวบนท้องฟ้า ท่านจะมีเหลืออยู่เพียงไม่กี่คน เพราะท่านไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน 63 พระผู้เป็นเจ้ายินดีที่ทำให้พวกท่านเจริญและทวีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นพระผู้เป็นเจ้ายินดีที่จะทำให้พวกท่านพินาศลงและกำจัดท่านเสียด้วย และท่านจะถูกถอดถอนไปเสียจากแผ่นดินที่พวกท่านกำลังจะเข้าไปยึดครอง

64 แล้วพระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านกระจัดกระจายไปอยู่ท่ามกลางชนชาติทั้งปวง คือจากสุดขอบโลกด้านหนึ่งจรดสุดขอบโลกอีกด้านหนึ่ง และท่านจะนมัสการบรรดาเทพเจ้าซึ่งทำด้วยไม้และหิน ซึ่งท่านและบรรพบุรุษของท่านไม่เคยรู้จักมาก่อน 65 และท่านจะไม่มีสันติสุขอยู่ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ และฝ่าเท้าของท่านจะไม่ได้พัก พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้ท่านหวาดหวั่น หมดหนทาง และสิ้นหวังอยู่ที่นั่น 66 ชีวิตของท่านจะอยู่ในอันตรายเสมอ ท่านจะหวั่นวิตกทั้งวันและคืน และมีชีวิตที่ปราศจากความแน่นอน 67 ในยามเช้า ท่านจะพูดว่า ‘อยากให้ตกเย็นเสียที’ และในยามเย็น ท่านจะพูดว่า ‘อยากให้ถึงรุ่งเช้าเสียที’ เพราะใจของท่านหวั่นหวาดกับสิ่งที่จะเผชิญ และภาพที่ท่านจะเห็น 68 และพระผู้เป็นเจ้าจะนำท่านกลับไปยังประเทศอียิปต์ทางเรือ ซึ่งเป็นการเดินทางที่พระองค์สัญญาไว้ว่าท่านไม่ควรต้องกลับไปอีก และที่นั่นท่านจะประกาศขายตัวเองแก่เหล่าศัตรูเพื่อเป็นทาสชายและทาสหญิง แต่ก็ไม่มีใครอยากซื้อท่านไป”

สดุดี 119:25-48

ד ดาเลธ

25 ชีวิตข้าพเจ้าเคียงคู่อยู่กับธุลีดิน
    โปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตตามคำกล่าวของพระองค์
26 ข้าพเจ้าแจ้งพระองค์ถึงวิถีทางของข้าพเจ้า พระองค์ก็ตอบข้าพเจ้า
    โปรดสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
27 ช่วยข้าพเจ้าให้เข้าใจทางแห่งข้อบังคับของพระองค์
    และข้าพเจ้าจะใคร่ครวญถึงสิ่งมหัศจรรย์ของพระองค์
28 จิตวิญญาณของข้าพเจ้าท่วมท้นด้วยความเศร้า
    โปรดให้ข้าพเจ้ามีพลังขึ้นตามคำกล่าวของพระองค์
29 ให้ความฉ้อฉลห่างไกลจากข้าพเจ้า
    และขอพระองค์กรุณามอบกฎบัญญัติของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
30 ข้าพเจ้าได้เลือกวิถีทางแห่งความจริง
    ข้าพเจ้าใส่ใจในคำบัญชาของพระองค์
31 โอ พระผู้เป็นเจ้า ชีวิตข้าพเจ้าอยู่เคียงข้างคำสั่งของพระองค์
    อย่าให้ข้าพเจ้าถูกลบหลู่เลย
32 ข้าพเจ้าจะกระวีกระวาดไปตามทางแห่งพระบัญญัติของพระองค์
    เพราะพระองค์ทำให้ข้าพเจ้าเข้าใจมากขึ้น

ה เฮ

33 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดสอนทางแห่งกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพเจ้า
    ข้าพเจ้าจะได้ปฏิบัติตามจนถึงวาระสุดท้าย
34 โปรดให้ข้าพเจ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ และข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์
    และเชื่อฟังอย่างสุดกำลัง
35 ให้ข้าพเจ้าไปตามทางที่พระองค์บัญชา
    เพราะข้าพเจ้ามีใจยินดีในทางนั้น
36 โปรดน้อมใจข้าพเจ้าให้เชื่อฟังคำสั่งของพระองค์
    และข้าพเจ้าจะไม่มุ่งหาผลประโยชน์ให้ตนเอง
37 ช่วยข้าพเจ้าให้เมินหน้าไปจากสิ่งไร้ค่า
    และมีชีวิตตามวิถีทางของพระองค์
38 โปรดทำตามคำสัญญาของพระองค์ที่ให้ไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
    คือให้แก่บรรดาผู้เกรงกลัวพระองค์
39 ช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากการดูหมิ่นอันน่าหวาดหวั่น
    การตัดสินของพระองค์ดียิ่งนัก
40 ข้าพเจ้าใคร่จะเชื่อฟังข้อบังคับของพระองค์
    พระองค์มีความชอบธรรม ฉะนั้นโปรดให้ข้าพเจ้ามีชีวิตใหม่เถิด

ו วาฟ

41 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดแสดงความรักอันมั่นคงของพระองค์ที่มีต่อข้าพเจ้าเถิด
    และให้ข้าพเจ้ารอดพ้นตามคำสัญญาของพระองค์
42 แล้วข้าพเจ้าจะได้ตอบพวกที่ดูหมิ่นข้าพเจ้าได้
    เพราะข้าพเจ้าวางใจในคำกล่าวของพระองค์
43 โปรดให้ข้าพเจ้าพูดแต่ความจริงเสมอไป
    เพราะความหวังของข้าพเจ้าอยู่ที่การตัดสินของพระองค์
44 ข้าพเจ้าจะรักษากฎบัญญัติ
    ของพระองค์ไปจนชั่วนิรันดร์กาล
45 ข้าพเจ้าจะดำเนินชีวิตไปอย่างอิสระ
    เพราะข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์
46 และข้าพเจ้าจะประกาศคำสั่งของพระองค์ต่อหน้ากษัตริย์ทั้งปวง
    โดยปราศจากความละอาย
47 ข้าพเจ้ายินดีในพระบัญญัติของพระองค์
    อันเป็นพระบัญญัติที่ข้าพเจ้ารัก
48 ข้าพเจ้าเคารพและรักพระบัญญัติของพระองค์
    และข้าพเจ้าใคร่ครวญถึงกฎเกณฑ์ของพระองค์

อิสยาห์ 55

ความสงสารของพระผู้เป็นเจ้า

55 “ทุกคนที่กระหายจงมาเถิด
    มาที่แหล่งน้ำ
และผู้ที่ไม่มีเงินจงมา
    และซื้ออาหารรับประทาน
จงมา และซื้อเหล้าองุ่นและน้ำนม
    โดยไม่ต้องใช้เงินและค่าแลกเปลี่ยน
ทำไมเจ้าจึงใช้เงินของเจ้าเพื่อสิ่งเหล่านั้นซึ่งไม่ใช่อาหาร
    และใช้เรี่ยวแรงของเจ้าเพื่อสิ่งเหล่านั้นซึ่งไม่ทำให้อิ่มเอิบใจ
จงเชื่อฟังเราให้ดี และรับประทานสิ่งที่ดี
    และยินดีกับอาหารอันดีเลิศ
จงเงี่ยหูฟัง และมาหาเราเถิด
    จงฟัง เพื่อให้จิตวิญญาณของเจ้ามีชีวิต
และเราจะทำพันธสัญญาอันเป็นนิรันดร์กับเจ้า
    ความมั่นคงของเรา ความรักอันแท้จริงที่มีแก่ดาวิด[a]
ดูเถิด เราให้เขาเป็นพยานแก่บรรดาชนชาติ
    ให้เป็นผู้นำและผู้บัญชาการบรรดาชนชาติ
ดูเถิด เจ้าจะเรียกประชาชาติที่เจ้าไม่รู้จักมา
    และประชาชาติที่ไม่รู้จักเจ้าจะวิ่งมาหาเจ้า
เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเจ้า และเพราะองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
    เพราะพระองค์ได้โปรดให้เจ้าได้รับความยิ่งใหญ่”

จงแสวงหาพระผู้เป็นเจ้าขณะที่ยังหาพระองค์ได้
    จงร้องเรียกถึงพระองค์ขณะที่พระองค์อยู่ใกล้
ให้คนชั่วละจากวิถีทางของเขา
    และคนไร้ความชอบธรรมทิ้งความคิดของเขา
ให้เขากลับมาหาพระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระองค์จะมีความสงสารต่อเขา
    และมาหาพระเจ้าของพวกเรา เพราะพระองค์จะยกโทษอย่างมากมาย

“เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของเจ้า
    และทางของเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเราเช่นกัน”
    พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
“เพราะฟ้าสวรรค์สูงกว่าแผ่นดินโลกเช่นไร
    วิถีทางของเราก็สูงกว่าวิถีทางของเจ้า
    และความคิดของเราสูงกว่าความคิดของเจ้าเช่นนั้น
10 เพราะฝนและหิมะตกจากฟ้า
    และไม่ย้อนกลับขึ้นไป แต่รดแผ่นดินโลก
ทำให้พืชงอกเติบโต
    ให้เมล็ดแก่ผู้หว่านและอาหารแก่ผู้รับประทานเช่นไร
11 คำของเราก็จะเป็นอย่างนั้น คำซึ่งออกไปจากปากของเรา
    จะไม่หวนกลับมาเปล่าๆ
แต่จะสำเร็จผลตามจุดประสงค์ของเรา
    และจะสำเร็จในสิ่งที่เรามุ่งหมายไว้เช่นนั้น
12 เพราะเจ้าจะออกไปด้วยความยินดี
    และถูกนำออกไปด้วยสันติสุข
เทือกเขาและเนินเขาที่อยู่เบื้องหน้าเจ้า
    จะแซ่ซ้องด้วยเสียงเพลง
    และต้นไม้ทั้งมวลในทุ่งนาจะปรบมือกัน
13 ต้นสนจะงอกขึ้นแทนไม้หนาม
    ต้นเมอร์เทิลจะงอกขึ้นแทนพุ่มไม้หนาม
สิ่งเหล่านี้จะทำให้พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่รู้จัก
    เป็นสัญลักษณ์อันเป็นนิรันดร์ที่ไม่มีวันจะถูกทำลายลง”

มัทธิว 3

ยอห์นประกาศข่าวประเสริฐ

ในครั้งนั้นยอห์นผู้ให้บัพติศมา[a]มาประกาศในถิ่นทุรกันดารแคว้นยูเดียว่า “จงกลับใจ เพราะว่าอาณาจักรแห่งสวรรค์ใกล้จะมาถึงแล้ว”[b] เพราะยอห์นคือผู้ที่กล่าวถึงโดยอิสยาห์ผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้าว่า

“เสียงของผู้ที่ร้องในถิ่นทุรกันดาร
‘จงเตรียมทางของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อม
    จงทำทางของพระองค์ให้ตรง’”[c]

ยอห์นเองสวมเสื้อผ้าทำด้วยขนอูฐ คาดเอวด้วยหนังสัตว์ และอาหารคือตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า คนทั้งเมืองเยรูซาเล็ม ทั้งแคว้นยูเดีย และทั่วทั้งย่านแม่น้ำจอร์แดนก็ออกไปหายอห์น พวกผู้คนสารภาพบาปและได้รับบัพติศมาจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน

เมื่อยอห์นเห็นฟาริสี[d]และสะดูสี[e]จำนวนมากมารับบัพติศมา จึงพูดกับพวกเขาว่า “พวกชาติอสรพิษ ใครเตือนให้ท่านหนีจากการลงโทษที่จะมาถึง ฉะนั้นจงประพฤติตนเพื่อพิสูจน์ว่าท่านกลับใจจากการทำบาป และอย่าคิดว่าท่านพูดต่อกันไปได้ว่า ‘เรามีอับราฮัมเป็นบิดาของเรา’ ข้าพเจ้าขอบอกท่านว่า พระเจ้าสามารถทำให้หินพวกนี้กลายเป็นลูกๆ ของอับราฮัมก็ได้ 10 มีขวานจ่อไว้ที่รากต้นไม้แล้ว หากว่าต้นไม้ต้นใดก็ตามไม่สามารถให้ผลงามได้ ก็จะถูกโค่นลงและถูกโยนลงในกองไฟ

11 ข้าพเจ้าให้บัพติศมาแก่ท่านด้วยน้ำเป็นการแสดงถึงการกลับใจของท่าน แต่พระองค์ผู้กำลังมาหลังจากข้าพเจ้ามีอานุภาพยิ่งกว่าข้าพเจ้า แม้แต่รองเท้าของพระองค์ ข้าพเจ้าก็มิบังควรที่จะถือ พระองค์จะให้บัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และไฟ 12 พลั่วสำหรับแยกแกลบอยู่ในมือของพระองค์ เพื่อปรับลานของพระองค์ให้เรียบ และเพื่อแยกเก็บข้าวสาลีของพระองค์ไว้ในยุ้ง แต่พระองค์จะเผาแกลบด้วยไฟซึ่งลุกโชติช่วงอยู่ตลอดเวลา”

พระเยซูรับบัพติศมา

13 ครั้นพระเยซูจากแคว้นกาลิลีมาจนถึงแม่น้ำจอร์แดน พระองค์มาหายอห์นเพื่อรับบัพติศมาจากท่าน 14 แต่ยอห์นพยายามห้ามพระองค์โดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้าสมควรที่จะรับบัพติศมาจากพระองค์ แล้วพระองค์จะมารับจากข้าพเจ้าอย่างนั้นหรือ” 15 แต่พระเยซูกล่าวตอบยอห์นว่า “ในเวลานี้ ขอให้เป็นไปตามนั้นเถิด เพราะสมควรที่เราทั้งสองจะกระทำการนี้เพื่อเป็นไปตามความชอบธรรมทุกประการ” แล้วยอห์นก็ยินยอม

16 หลังจากรับบัพติศมาแล้ว พระเยซูขึ้นจากน้ำทันที และสวรรค์ก็เปิดออก และเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าในรูปลักษณ์ของนกพิราบลงมาสถิตบนพระองค์ 17 มีเสียงกล่าวจากสวรรค์ว่า “ผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา คือผู้ที่เราพอใจมาก”

New Thai Version (NTV-BIBLE)

Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation