M’Cheyne Bible Reading Plan
ฆาตกรที่จับตัวไม่ได้
21 ถ้าพบว่ามีคนถูกฆ่าทิ้งไว้ในทุ่งบนแผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้ท่านยึดครอง โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนฆ่า 2 บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่และผู้ตัดสินความของท่านจงออกไปวัดระยะทางจากร่างคนที่ถูกฆ่าถึงเมืองที่อยู่ใกล้ร่างของเขา 3 และบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมืองที่อยู่ใกล้ร่างคนถูกฆ่ามากที่สุดจะนำลูกโคตัวเมียตัวหนึ่งซึ่งยังไม่เคยใช้งานหรือเทียมแอกมาก่อน 4 บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมืองนั้นจะนำลูกโคตัวเมียลงไปยังลุ่มน้ำไหลในหุบเขาที่ไหลรินไม่ขาดสายซึ่งยังไม่มีใครใช้ไถหรือหว่านพืช หักคอลูกโคตัวเมียที่ลุ่มน้ำแห่งนั้น 5 แล้วบรรดาปุโรหิตคือบุตรของชาวเลวีจะออกไป เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านได้เลือกพวกเขาให้เป็นผู้รับใช้พระองค์ และให้พรแก่ประชาชนในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า เรื่องโต้เถียงและทำร้ายร่างกายทุกกรณีจะเป็นที่ยุติลงได้ตามการตัดสินของเขา 6 บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมืองที่อยู่ใกล้ร่างคนถูกฆ่ามากที่สุดจะล้างมือของเขาเหนือลูกโคตัวเมียที่ถูกหักคอที่ลุ่มน้ำ 7 และพวกเขาจะเป็นพยานว่า ‘เราทั้งหลายไม่ได้ทำให้โลหิตนี้ตก และตาของเราก็ไม่เห็น 8 โอ พระผู้เป็นเจ้า โปรดยกโทษอิสราเอลชนชาติของพระองค์ซึ่งพระองค์ไถ่ไว้ และอย่าให้ความผิดฐานฆ่าคนที่ไม่มีความผิดต้องตกอยู่กับอิสราเอลชนชาติของพระองค์ และอย่าให้พวกเขาต้องรับผิดชอบเรื่องความผิดนั้น’ 9 ฉะนั้นจงกำจัดความผิดฐานฆ่าผู้ไม่มีความผิดไปเสียจากพวกท่าน เมื่อท่านกระทำสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า
หญิงเชลยศึก
10 เมื่อท่านทำศึกสงครามกับศัตรู และพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบพวกเขาไว้ในมือท่าน แล้วท่านจับตัวพวกเขาไว้ 11 เมื่อท่านเห็นหญิงงามในหมู่เชลย ท่านต้องการตัวนางไว้เป็นภรรยาของท่าน 12 ท่านจงพานางไปที่บ้านของท่าน เพื่อให้นางโกนศีรษะและตัดเล็บเสีย 13 นางจะเปลี่ยนเสื้อผ้าและอยู่ที่บ้านท่าน นางจะร้องคร่ำครวญถึงพ่อแม่ของนางเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม หลังจากนั้นท่านจึงรับนางไว้เป็นภรรยา อยู่กินกับนางฉันสามีภรรยาได้ 14 ต่อมาถ้านางไม่เป็นที่พอใจของท่านอีกแล้ว ท่านจงปล่อยนางไปตามความต้องการของนาง แต่ท่านจะขายนางเป็นเงินไม่ได้ คือจะปฏิบัติต่อนางในฐานะทาสไม่ได้ ในเมื่อท่านได้ล่วงเกินนางเสียแล้ว
15 ถ้าชายคนหนึ่งมีภรรยา 2 คน เขารักคนหนึ่ง และชังอีกคนหนึ่ง ทั้งสองคนมีบุตรด้วยกันกับเขา และถ้าบุตรชายหัวปีเกิดจากหญิงที่เขาชัง 16 เมื่อถึงวันที่เขามอบสมบัติเป็นมรดกให้แก่บุตรของเขา อย่าให้เขากระทำต่อบุตรที่เกิดจากหญิงที่เขารักประหนึ่งบุตรชายหัวปีเพราะรักมากกว่าบุตรที่เกิดจากหญิงที่เขาชังซึ่งเป็นบุตรหัวปีของเขา 17 แต่เขาจงยอมรับบุตรซึ่งเกิดจากหญิงที่เขาชัง ว่าเป็นบุตรหัวปีโดยยกส่วนแบ่งจากทุกสิ่งที่มีให้แก่เขาเป็นสองเท่า เพราะเขาเป็นสิ่งแรกที่แสดงถึงพละกำลังของบิดา สิทธิของบุตรหัวปีเป็นของเขา
บุตรชายผู้ฝ่าฝืน
18 ถ้าชายใดมีบุตรที่ดื้อรั้นและชอบขัดขืนโดยไม่เชื่อฟังบิดามารดา แม้ว่าเขาจะถูกลงโทษ แต่ก็ยังไม่ยอมฟังบุคคลทั้งสอง 19 แล้วบิดามารดาต้องจับตัวเขาไปให้บรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมือง ณ ที่ประตูเมืองที่เขาอาศัยอยู่ 20 เขาทั้งสองจะพูดกับบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของเมืองว่า ‘บุตรชายของเราคนนี้ดื้อรั้นและชอบขัดขืน เขาไม่ยอมเชื่อฟังเรา ทั้งกินเติบและขี้เมา’ 21 ครั้นแล้วชายทั้งปวงในเมืองนั้นจะใช้ก้อนหินขว้างเขาจนตาย ดังนั้นท่านจงกำจัดคนชั่วร้ายออกไปจากพวกท่านเถิด และชาวอิสราเอลทั้งปวงจะได้ยินเรื่องราวและพากันเกรงกลัว
การปฏิบัติต่อศพผู้ตาย
22 ถ้าผู้ใดกระทำผิดสมควรแก่ความตาย เขาก็จะรับโทษถึงตายโดยถูกแขวนไว้บนต้นไม้ 23 อย่าทิ้งร่างของเขาให้ค้างต้นไม้ข้ามคืน แต่จงฝังร่างเขาภายในวันนั้น เพราะพระเจ้าแช่งสาปคนที่ถูกแขวนไว้[a] ท่านจงอย่าทำให้แผ่นดินที่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านมอบให้แก่ท่านเป็นมรดกมีมลทิน
เพลงสรรเสริญพระเจ้าผู้ทำให้เรามีชัยเหนือศัตรู
บทเพลง เพลงสดุดีของดาวิด
1 ใจข้าพเจ้ามั่นคง โอ พระเจ้า
ข้าพเจ้าจะร้องเพลงและร้องสรรเสริญด้วยชีวิตจิตใจ
2 โอ พิณสิบสายและพิณเล็ก จงตื่นเถิด
ข้าพเจ้าจะปลุกอโณทัย
3 โอ พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าจะขอบคุณพระองค์ท่ามกลางบรรดาชนชาติ
และข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางประชาชาติทั้งปวง
4 ด้วยว่า ความรักอันมั่นคงของพระองค์ยิ่งใหญ่กว้างไกลถึงแดนฟ้าสวรรค์
ความสัตย์จริงของพระองค์สูงเทียมเมฆ
5 โอ พระเจ้า ขอพระองค์เป็นที่ยกย่องเหนือเบื้องฟ้าสวรรค์เถิด
ขอพระบารมีของพระองค์แผ่ปกไปทั่วแผ่นดินโลก[a]
6 โปรดให้เราได้ชัยชนะด้วยมือขวาของพระองค์ และตอบคำอธิษฐานของพวกเรา
เพื่อว่าบรรดาผู้เป็นที่รักของพระองค์จะได้รับความรอดพ้น
7 พระเจ้าได้กล่าวในสถานที่บริสุทธิ์ของพระองค์ว่า
“ด้วยชัยชนะเราจะแบ่งเมืองเชเคม
และแบ่งหุบเขาสุคคท
8 กิเลอาดเป็นของเรา และมนัสเสห์เป็นของเรา
เอฟราอิมเป็นหมวกเหล็กของเรา
ยูดาห์เป็นคทาของเรา
9 โมอับเป็นอ่างชำระล้างของเรา
และเราจะเหวี่ยงรองเท้าของเราลงบนเอโดม
เรากู่ร้องด้วยความมีชัยต่อฟีลิสเตีย”
10 ใครจะพาข้าพเจ้าไปยังเมืองที่แข็งแกร่ง
ใครจะนำข้าพเจ้าไปยังเอโดม
11 โอ พระเจ้า ไม่ใช่พระองค์หรอกหรือที่ไม่ยอมรับพวกเรา
และไม่ออกไปกับกองทัพของพวกเราอีกแล้ว
12 โปรดช่วยพวกเราต่อต้านข้าศึก
เพราะความช่วยเหลือจากพวกมนุษย์นั้นไร้ประโยชน์
13 พวกเรามีพระเจ้าอยู่ด้วย เราจะมีชัยชนะ
พระองค์จะทำให้พวกศัตรูทลายราบเป็นหน้ากลอง
ขอให้พระเจ้าตัดสินด้วยความยุติธรรม
ถึงหัวหน้าวงดนตรี เพลงสดุดีของดาวิด
1 โอ พระเจ้าเป็นผู้ที่ข้าพเจ้าสรรเสริญ
ขออย่าได้เมินเฉย
2 เพราะคนชั่วและคนหลอกลวงเปิดปากว่าร้ายข้าพเจ้า
ลิ้นของพวกเขาใส่ร้ายข้าพเจ้า
3 พวกเขากล่าวด้วยความเกลียดชังรอบข้างข้าพเจ้า
และโจมตีข้าพเจ้าโดยไร้สาเหตุ
4 พวกเขาตอบแทนความรักของข้าพเจ้าด้วยการกล่าวหาข้าพเจ้า
แต่ข้าพเจ้าก็ยังคงอธิษฐาน
5 พวกเขาตอบความดีของข้าพเจ้าด้วยความเลว
และตอบแทนความรักของข้าพเจ้าด้วยความเกลียดชัง
6 ให้คนชั่วคนหนึ่งมาคัดค้านเขา
ให้ผู้กล่าวหาผู้หนึ่งยืนอยู่เบื้องขวา
7 เวลาเขาถูกไต่สวน ก็ให้เขาถูกตัดสินเป็นฝ่ายผิด
แม้คำอธิษฐานของเขาก็ยังนับว่าเป็นบาป
8 ขอให้เขาอายุสั้น
ขอให้ผู้อื่นมาเป็นผู้นำแทนในตำแหน่งของเขา[b]
9 ขอให้พวกลูกๆ ของเขากำพร้าพ่อ
และให้ภรรยาของเขาเป็นม่าย
10 ขอให้พวกลูกๆ ของเขาเป็นขอทานที่ต้องซัดเซพเนจรไป
ขอให้พวกเขาถูกขับไล่ออกจากที่อยู่อันเสื่อมโทรม
11 ขอให้เจ้าหนี้ยึดทุกสิ่งที่เขามี
ขอให้คนแปลกหน้ายึดเอาผลที่ได้จากแรงงานของเขาไป
12 ขออย่าให้มีผู้ใดหยิบยื่นความกรุณาให้แก่เขา
หรืออย่ามีใครได้สงสารพวกลูกกำพร้าของเขาเลย
13 ขอให้ผู้สืบเชื้อสายของเขาจงวอดวาย
ชื่อสกุลของเขาถูกลบออกในชั่วอายุต่อไป
14 ขอให้ความชั่วของบรรพบุรุษของเขาตรึงในความทรงจำของพระผู้เป็นเจ้าอย่างไม่เลือนลาง
และไม่ยกโทษบาปของมารดาของเขา
15 ขอให้บาปทั้งปวงเป็นที่ประจักษ์แก่พระผู้เป็นเจ้าเสมอไป
ขอให้พระองค์ลบพวกเขาออกไปจากความทรงจำบนแผ่นดินโลก
16 เพราะเขาไม่เคยคิดถึงความกรุณา
รังแต่จะกดขี่ข่มเหงผู้ขัดสน คนยากไร้
และผู้มีใจท้อแท้ จนพวกเขาเหล่านั้นต้องถึงแก่ความตาย
17 เพราะเขาชอบสาปแช่ง
ก็ขอให้เขาถูกแช่งเสียเอง
เขาไม่ชอบอวยพรให้ใคร
ก็ขอให้พรห่างหายไปจากตัวเขา
18 เขาแช่งคนจนติดเป็นนิสัย
ขอให้การแช่งซึมเข้าตัวเขาเหมือนน้ำ
และซึมเข้ากระดูกเหมือนน้ำมัน
19 ขอให้เป็นเหมือนเสื้อผ้าที่เขานุ่งห่มรัดแน่น
เหมือนเข็มขัดที่คาดตัวเขาไว้อยู่เสมอ
20 ขอให้พระผู้เป็นเจ้าลงโทษพวกผู้กล่าวหาข้าพเจ้าเช่นนี้
พวกที่พูดว่าร้ายข้าพเจ้านั่นแหละ
21 โอ พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
ขอพระองค์กระทำตอบโต้เพื่อข้าพเจ้า เพื่อพระนามของพระองค์
ช่วยข้าพเจ้าให้รอดปลอดภัยเถิด เพราะความรักอันมั่นคงของพระองค์ประเสริฐยิ่งนัก
22 ด้วยว่า ข้าพเจ้าขัดสนและยากไร้
ข้าพเจ้าเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ในทรวงอก
23 ข้าพเจ้าเป็นดั่งเงาที่พร่าเลือนในยามสายัณห์
ถูกสลัดออกดั่งตัวตั๊กแตน
24 เข่าของข้าพเจ้าอ่อนยวบเพราะขาดอาหาร
ร่างกายข้าพเจ้าซูบลงเหลือแต่กระดูก
25 ข้าพเจ้ากลายเป็นที่ดูหมิ่นของพวกเขา
เวลาที่เห็นข้าพเจ้า เขาก็พากันส่ายหัว
26 พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าโปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด
ช่วยข้าพเจ้าให้รอดพ้น ตามความรักอันมั่นคงของพระองค์
27 เพื่อพวกเขาจะได้รู้ว่า นี่คือฝีมือของพระองค์
และข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า พระองค์เองเป็นผู้กระทำ
28 ถึงพวกเขาแช่งสาป แต่พระองค์ก็อวยพร
ให้พวกที่โจมตีข้าพเจ้าต้องอับอาย
ขอให้ผู้รับใช้ของพระองค์ได้ยินดี
29 ขอให้กลุ่มผู้กล่าวหาข้าพเจ้าต้องสวมใส่ด้วยความเหยียดหยาม
และคลุมตัวด้วยความอับอาย
30 ข้าพเจ้าจะเอ่ยปากกล่าวขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าหลายๆ ครั้ง
ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางที่ประชุมใหญ่
31 เพราะพระองค์ยืนอยู่เบื้องขวาเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้
เพื่อช่วยเขาให้พ้นจากพวกที่กล่าวโทษเขาให้ถึงแก่ความตาย
ออกไปจากบาบิโลน
48 โอ พงศ์พันธุ์ยาโคบเอ๋ย จงฟังเถิด
อิสราเอลเป็นชื่อของเจ้า
เจ้าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของยูดาห์
สาบานตนในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า
และร้องเรียกพระนามของพระเจ้าของอิสราเอล
แต่ไม่กระทำด้วยความจริงและความชอบธรรม
2 พวกเขานับว่าตัวเองเป็นคนของเมืองอันบริสุทธิ์
และพึ่งพิงพระเจ้าของอิสราเอล
พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา ซึ่งเป็นพระนามของพระองค์
3 เราได้แจ้งถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา
เราประกาศด้วยปากของเราให้เป็นที่ได้ยิน
เราได้ทำทันทีทันใด และมันก็เกิดขึ้นตามนั้น
4 เพราะเรารู้ว่าเจ้าดื้อรั้น
และลำคอของเจ้าเป็นเส้นเอ็นเหล็ก
และหน้าผากเป็นทองเหลือง
5 เราบอกเรื่องเหล่านี้แก่เจ้านานมาแล้ว
ก่อนที่จะเกิดขึ้น เราก็ประกาศให้เจ้ารู้
เจ้าจึงพูดไม่ได้ว่า
‘รูปเคารพของข้าพเจ้ากระทำสิ่งเหล่านั้น
รูปเคารพสลักและที่หลอมขึ้นของข้าพเจ้าบัญชาเช่นนั้น’
6 เจ้าได้ยินเรื่องเหล่านี้แล้ว จงมองดูทุกสิ่ง
แล้วพวกเจ้ายังจะไม่ยอมรับอีกหรือ
จากนี้ไปเราจะแจ้งสิ่งใหม่ๆ แก่เจ้า
สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ซึ่งเจ้ายังไม่รู้
7 สิ่งเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาในเวลานี้ ไม่ใช่นานมาแล้ว
พวกเจ้ายังไม่เคยได้ยินจนถึงวันนี้
พวกเจ้าจึงพูดไม่ได้ว่า
‘ดูสิ ข้าพเจ้าทราบแล้ว’
8 เจ้าไม่เคยได้ยินหรือเคยรู้มาก่อน
เจ้าไม่เคยเปิดหูมาตั้งแต่กาลโน้น
เรารู้ว่าเจ้าจะก่อปัญหาอย่างแน่นอน
และเจ้าได้ชื่อว่า เจ้าขัดขืนมาตั้งแต่ก่อนกำเนิด
9 เพื่อนามของเรา เราจึงชะลอความกริ้วของเรา
เพื่อเห็นแก่การสรรเสริญเรา เราจึงยับยั้งไว้เพื่อเจ้า
เพื่อเราจะไม่ตัดขาดเจ้าออกไป
10 ดูเถิด เราได้ทำให้เจ้าบริสุทธิ์แล้ว แต่ไม่ใช่อย่างเงิน
เราได้ทดสอบเจ้าในเตาผิงแห่งความทุกข์ทรมาน
11 เราทำเพื่อตัวเราเอง เพื่อตัวเราเอง
เราจะปล่อยให้ชื่อของเราถูกดูหมิ่นได้อย่างไร
เราจะไม่มอบบารมีของเราให้แก่ผู้อื่น
พระผู้เป็นเจ้าเรียกอิสราเอล
12 โอ ยาโคบ จงฟังเรา
อิสราเอล ผู้ที่เราเรียก
เราคือผู้นั้น เราเป็นเบื้องต้น
และเราเป็นเบื้องปลาย[a]
13 เราวางฐานรากของแผ่นดินโลกด้วยมือของเรา
เราแผ่ฟ้าสวรรค์ออกด้วยมือขวาของเรา
เมื่อเราเรียก มันก็มายืนเบื้องหน้าเรา
14 พวกเจ้าทุกคนจงชุมนุมกัน และจงฟัง
มีเทพเจ้าใดที่ได้ประกาศสิ่งเหล่านี้
พระผู้เป็นเจ้ารักเขา
เขาจะปฏิบัติตามความมุ่งหมายที่มีต่อบาบิโลน
และแขนของเขาจะกระทำต่อชาวเคลเดีย
15 แม้เราเอง เรานั่นแหละที่ได้พูด
และได้เรียกเขา
เราได้นำเขามา
และวิถีทางของเขาจะสัมฤทธิผล
16 จงเข้ามาใกล้เรา และฟังเรื่องนี้
นับจากปฐมกาล เราไม่ได้พูดในที่ลับ
นับจากเวลาที่มันเกิดขึ้น เราก็อยู่ที่นั่นแล้ว”
และบัดนี้ พระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้าได้ส่งข้าพเจ้ามา
พร้อมกับพระวิญญาณของพระองค์
17 พระผู้เป็นเจ้าผู้ไถ่ของท่าน
คือองค์ผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
กล่าวดังนี้ “เราคือพระผู้เป็นเจ้า
พระเจ้าของเจ้า
ผู้สอนเจ้าเพื่อผลประโยชน์ของเจ้า
ผู้นำเจ้าในทางที่เจ้าควรจะไป
18 โอ หากว่าเจ้าได้เอาใจใส่ต่อคำบัญชาของเรา
ความสันติสุขของเจ้าก็จะเป็นดั่งแม่น้ำ
และความชอบธรรมของเจ้าก็จะเป็นดั่งคลื่นทะเล
19 ลูกหลานของเจ้าก็จะมากมายราวกับทราย
และบรรดาผู้สืบเชื้อสายของเจ้าก็จะมากราวกับเม็ดทราย[b]
ชื่อของพวกเขาจะไม่มีวันถูกตัดออก
หรือถูกทำลายไปต่อหน้าเรา”
20 จงออกไปจากบาบิโลน
หนีจากชาวเคลเดีย
จงประกาศด้วยเสียงร้องแห่งความยินดี
ให้เป็นที่รับทราบกัน
แจ้งไปยังสุดมุมโลกว่า
“พระผู้เป็นเจ้าได้ไถ่ยาโคบผู้รับใช้ของพระองค์”
21 พวกเขาไม่กระหายน้ำเมื่อพระองค์นำพวกเขาผ่านทะเลทราย
พระองค์ทำให้น้ำไหลออกมาจากหินสำหรับพวกเขา
พระองค์ทำให้หินแตกออก
และน้ำก็ไหลพรั่งพรูออกมา[c]
22 พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า
“ไม่มีสันติสุขสำหรับคนชั่ว”[d]
เมืองบาบิโลนถล่มลง
18 หลังจากเหตุการณ์เหล่านี้แล้ว ข้าพเจ้าก็เห็นทูตสวรรค์อีกองค์กำลังลงมาจากสวรรค์ ท่านมีสิทธิอำนาจยิ่งใหญ่ และแผ่นดินโลกได้สว่างไสวขึ้นด้วยสง่าราศีของท่าน 2 ท่านร้องเสียงดังด้วยอานุภาพว่า
“บาบิโลน เมืองอันยิ่งใหญ่ ถล่มลงแล้ว ถล่มลงแล้ว
นางได้กลายเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมาร
และที่สิงอยู่ของวิญญาณร้ายทุกดวง
เป็นที่สิงอยู่ของนกที่เป็นมลทิน
และที่สิงอยู่ของสัตว์ที่เป็นมลทินและน่าขยะแขยงทุกตัว
3 ด้วยว่าทุกประเทศได้ดื่มเหล้าองุ่น
แห่งความใคร่ในการประพฤติผิดทางเพศของนาง
และบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลกได้ผิดประเวณีกับนาง
และพ่อค้าทั้งหลายของแผ่นดินโลกได้กลายเป็นคนร่ำรวย
เนื่องจากกิเลสที่ไม่อาจยับยั้งได้ของนาง”
4 แล้วข้าพเจ้าก็ได้ยินอีกเสียงหนึ่งจากสวรรค์ว่า
“ประชาชนของเราเอ๋ย จงออกมาจากเมืองบาบิโลนเถิด
เพื่อว่าเจ้าจะได้ไม่ร่วมในการกระทำบาปเหมือนกับนาง
เพื่อว่าเจ้าจะได้ไม่รับภัยพิบัติอย่างที่นางได้รับ
5 ด้วยว่าบาปต่างๆ ของนางกองสูงถึงฟ้าสวรรค์
และพระเจ้าไม่ลืมการกระทำชั่วของนาง
6 จงสนองตอบนางอย่างที่นางได้กระทำ
จงจ่ายคืนให้นางเป็น 2 เท่าของที่นางได้กระทำไว้
ในถ้วยที่นางได้ผสมไว้แล้วนั้น ก็จงผสมให้นางมากเป็น 2 เท่าให้นางไป
7 จงให้ความทรมานและความระทมทุกข์แก่นาง
มากเท่ากับความยิ่งใหญ่และความใคร่ฝ่ายกิเลสที่นางบำเรอตนเอง
นางโอ้อวดในใจว่า
‘เรานั่งอย่างเช่นราชินี
เราไม่ใช่แม่ม่าย
และเราจะไม่มีวันระทมทุกข์’
8 ด้วยเหตุนี้ ภัยพิบัติของนางจะเกิดขึ้นภายในวันเดียวคือ
โรคระบาด การร้องคร่ำครวญ และความอดอยาก
นางจะถูกไฟเผาไหม้
ด้วยว่าพระผู้เป็นเจ้า องค์พระเจ้ามีมหิทธานุภาพ และเป็นผู้พิพากษานาง”
9 เมื่อบรรดากษัตริย์ของแผ่นดินโลกที่ได้ผิดประเวณี และบำเรอความใคร่ฝ่ายกิเลสกับนางได้เห็นควันไฟที่ไหม้นาง ก็จะร้องไห้และคร่ำครวญ 10 กษัตริย์เหล่านั้นจะยืนอยู่ห่างๆ เพราะตกใจกลัวกับความทรมานที่นางได้รับและพูดว่า
“ความวิบัติ ความวิบัติ เมืองอันยิ่งใหญ่เอ๋ย
บาบิโลน เมืองที่แข็งแกร่ง
เจ้าถูกพิพากษาภายในชั่วโมงเดียว”
11 พวกพ่อค้าของแผ่นดินโลกจะร้องไห้และคร่ำครวญถึงนาง เพราะไม่มีใครซื้อสินค้าของเขาอีกต่อไปแล้ว 12 สินค้าจำพวกทองคำ เงิน เพชรนิลจินดา ไข่มุก ผ้าป่านเนื้อดี ผ้าสีม่วง ผ้าไหม ผ้าสีแดงสด ไม้เนื้อหอมทุกชนิด เครื่องงา เครื่องไม้ราคาแพง เครื่องทองสัมฤทธิ์ เครื่องเหล็ก และเครื่องหินอ่อน 13 อบเชย เครื่องเทศ เครื่องหอม มดยอบ กำยาน เหล้าองุ่น น้ำมันมะกอก แป้งสาลีชั้นเยี่ยม ข้าวสาลี โค แกะ ม้า รถม้า ทาส และชีวิตมนุษย์
14 “สิ่งล้ำค่าทุกชนิดที่เจ้าอยากได้ ก็หายไปหมดแล้ว ทุกสิ่งที่มีไว้บำเรออย่างฟุ่มเฟือยและหรูหรา ก็สูญสลายไปจากเจ้า และมนุษย์จะหาไม่พบอีกเลย” 15 พวกพ่อค้าที่ขายสิ่งเหล่านี้ และร่ำรวยได้เพราะนาง ก็จะยืนอยู่ห่างๆ เพราะตกใจกลัวกับการทรมานที่นางได้รับ เขาจะร้องไห้และคร่ำครวญ 16 และร่ำร้องว่า
“ความวิบัติ ความวิบัติ เมืองอันยิ่งใหญ่เอ๋ย
เจ้านุ่งห่มด้วยผ้าป่านเนื้อดี ผ้าสีม่วง ผ้าสีแดงสด
อีกทั้งแพรวพราวด้วยทองคำ เพชรนิลจินดา และไข่มุก
17 ภายในชั่วโมงเดียว ความมั่งมีมหาศาลก็ถูกทำลายเสียสิ้น”
นายเรือทุกคน ผู้โดยสาร ลูกเรือทุกคน และทุกคนที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับทะเลก็จะยืนอยู่ห่างๆ 18 เมื่อเขาเหล่านั้นเห็นควันไฟที่ไหม้นาง เขาก็จะร้องขึ้นว่า “เคยมีเมืองใดที่เหมือนกับเมืองอันยิ่งใหญ่นี้ไหม” 19 พวกเขาจะปาฝุ่นผงลงบนหัวของเขาพลางร้องไห้และร้องคร่ำครวญ พร้อมกับส่งเสียงร้องว่า
“ความวิบัติ ความวิบัติ เมืองอันยิ่งใหญ่เอ๋ย
เมืองซึ่งทุกคนที่มีเรือเดินทะเลได้ร่ำรวยขึ้น
ก็เพราะความมั่งมีของนาง
แต่ภายในชั่วโมงเดียวนางก็ถูกทำลายเสียสิ้น
20 จงชื่นชมยินดีกับความพินาศของนางเถิด สวรรค์เอ๋ย
จงชื่นชมยินดีเถิด บรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า อัครทูต และผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
พระเจ้าได้กล่าวโทษนาง
ตามที่นางได้ปฏิบัติต่อเจ้า”
21 ครั้นแล้วทูตสวรรค์ที่มีอานุภาพองค์หนึ่งก็ยกหินก้อนหนึ่งซึ่งเหมือนหินโม่แป้งขนาดใหญ่โยนลงสู่ทะเล พลางร้องว่า
“บาบิโลน เมืองอันยิ่งใหญ่
จะถูกทุ่มลงอย่างรุนแรงแบบนี้แหละ
และจะไม่มีวันหาจนพบอีก
22 จะไม่มีใครได้ยินเสียงดนตรีจากนักดีดพิณ
จากนักมโหรี นักเป่าขลุ่ย และนักเป่าแตร
ในเมืองเจ้าอีกต่อไป
ทั้งไม่มีช่างผู้ชำนาญแขนงใดๆ อีกต่อไป
เสียงโม่แป้งก็จะไม่ได้ยินอีกเช่นกัน
23 แสงจากดวงตะเกียงจะไม่เปล่งแสงในเมืองของเจ้าอีกต่อไป
เสียงจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะไม่มีในเมืองของเจ้าอีกต่อไป
เพราะว่าพวกพ่อค้าของเจ้ามีอิทธิพลในแผ่นดินโลก
เพราะว่าประเทศทั้งปวงถูกหลอกลวงโดยวิทยาคมของเจ้า
24 สิ่งที่พบในเมืองคือโลหิตของบรรดาผู้เผยคำกล่าวของพระเจ้า
ของบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระเจ้า
และของทุกคนที่ถูกฆ่าบนแผ่นดินโลก”
Copyright © 1998, 2012, 2020 by New Thai Version Foundation