Previous Prev Day Next DayNext

M’Cheyne Bible Reading Plan

The classic M'Cheyne plan--read the Old Testament, New Testament, and Psalms or Gospels every day.
Duration: 365 days
Thai New Contemporary Bible (TNCV)
Version
กันดารวิถี 28

เครื่องบูชาประจำวัน

28 องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับโมเสสว่า “จงแจ้งประชากรอิสราเอลว่า ‘จงใส่ใจที่จะนำเครื่องบูชามาถวายเราตามเวลาที่กำหนด เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่เราพอใจ’ จงบอกเขาว่า ‘เครื่องบูชาด้วยไฟที่เจ้านำมาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้านั้นประกอบด้วยลูกแกะอายุหนึ่งขวบซึ่งไม่มีตำหนิ วันละสองตัว เป็นเครื่องเผาบูชาประจำวัน ตัวหนึ่งถวายตอนเช้า อีกตัวหนึ่งถวายตอนพลบค่ำ และถวายธัญบูชาควบคู่คือแป้งโม่ละเอียดประมาณ 2 ลิตร[a]เคล้าน้ำมันมะกอกประมาณ 1 ลิตร[b] นี่เป็นเครื่องเผาบูชาที่กำหนดไว้ที่ภูเขาซีนาย ให้ถวายเป็นประจำ เป็นกลิ่นหอมที่พอพระทัย เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า เครื่องดื่มบูชาที่ถวายควบคู่กับลูกแกะแต่ละตัวนั้นคือเหล้าประมาณ 1 ลิตร ให้รินเครื่องดื่มบูชานี้ต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ในสถานนมัสการ จงถวายลูกแกะตัวที่สองในตอนพลบค่ำควบคู่กับธัญบูชาและเครื่องดื่มบูชาอย่างเดียวกับในตอนเช้า เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย

เครื่องบูชาสำหรับวันสะบาโต

“ ‘ในวันสะบาโต จงถวายลูกแกะอายุหนึ่งขวบไม่มีตำหนิสองตัว ควบคู่กับเครื่องดื่มบูชาและธัญบูชาคือแป้งโม่ละเอียดประมาณ 4.5 ลิตร[c]เคล้าน้ำมัน 10 เป็นเครื่องเผาบูชาสำหรับทุกวันสะบาโต นอกเหนือจากเครื่องเผาบูชาและเครื่องดื่มบูชาตามปกติ

เครื่องบูชาประจำทุกเดือน

11 “ ‘ทุกวันต้นเดือนจงถวายเครื่องเผาบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า โดยใช้วัวหนุ่มสองตัว แกะผู้หนึ่งตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบเจ็ดตัว ทั้งหมดล้วนไม่มีตำหนิ 12 เจ้าต้องถวายธัญบูชาคือ ถวายแป้งโม่ละเอียดเคล้าน้ำมันประมาณ 6.5 ลิตร[d]ควบคู่กับวัวหนุ่มแต่ละตัว ถวายประมาณ 4.5 ลิตรควบคู่กับแกะผู้ 13 และถวายประมาณ 2 ลิตร[e]ควบคู่กับลูกแกะแต่ละตัว นี่เป็นเครื่องเผาบูชา เป็นกลิ่นหอมที่พอพระทัย เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า 14 เครื่องดื่มบูชาควบคู่กับวัวคือเหล้าองุ่นประมาณ 2 ลิตร[f]ควบคู่กับแกะคือ เหล้าองุ่นประมาณ 1.2 ลิตร[g]และควบคู่กับลูกแกะแต่ละตัวคือเหล้าองุ่นประมาณ 1 ลิตร นี่เป็นเครื่องเผาบูชาที่ถวายทุกเดือนในวันขึ้นหนึ่งค่ำตลอดทั้งปี 15 และถวายแพะผู้แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป นอกเหนือจากเครื่องเผาบูชาตามปกติควบคู่กับเครื่องดื่มบูชา

เทศกาลปัสกา(A)

16 “ ‘ในวันที่สิบสี่ของเดือนที่หนึ่ง จงถือเทศกาลปัสกาขององค์พระผู้เป็นเจ้า 17 ในวันที่สิบห้าของเดือนเดียวกันเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลโดยการรับประทานขนมปังไม่ใส่เชื้อตลอดเจ็ดวัน 18 ในวันแรกของเทศกาล จงจัดการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์และอย่าทำงานในวันนั้น 19 เจ้าต้องถวายเครื่องบูชาด้วยไฟแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นเครื่องเผาบูชาคือวัวหนุ่มสองตัว แกะผู้หนึ่งตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบเจ็ดตัว ทั้งหมดล้วนไม่มีตำหนิ 20 ถวายธัญบูชาคือแป้งโม่ละเอียดประมาณ 6.5 ลิตรเคล้าน้ำมันควบคู่กับวัวแต่ละตัว แป้งประมาณ 4.5 ลิตรควบคู่กับแกะผู้ 21 และแป้งประมาณ 2 ลิตรควบคู่กับลูกแกะแต่ละตัว 22 จงถวายแพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปเพื่อลบบาปของเจ้าด้วย 23 เครื่องบูชาเหล่านี้จะถวายเพิ่มเติมจากเครื่องเผาบูชาประจำวันที่ถวายตอนเช้า 24 ทุกวันตลอดสัปดาห์ของเทศกาลนี้ จงเตรียมอาหารเหล่านี้ เป็นเครื่องบูชาด้วยไฟ เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย เพิ่มเติมจากเครื่องเผาบูชาและเครื่องดื่มบูชาประจำวัน 25 ในวันที่เจ็ดให้จัดประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์และอย่าทำงาน

เทศกาลแห่งสัปดาห์(B)

26 “ ‘ในวันถวายผลแรก เมื่อเจ้านำเครื่องบูชาที่เป็นเมล็ดข้าวใหม่ในช่วงเทศกาลแห่งสัปดาห์มาถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้านั้น จงจัดการประชุมนมัสการศักดิ์สิทธิ์และอย่าทำงาน 27 จงถวายวัวหนุ่มสองตัว แกะผู้หนึ่งตัว และลูกแกะตัวผู้อายุหนึ่งขวบเจ็ดตัวเป็นเครื่องเผาบูชา เป็นกลิ่นหอมที่องค์พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย 28 พร้อมด้วยธัญบูชาคือแป้งโม่ละเอียดประมาณ 6.5 ลิตรเคล้าน้ำมันควบคู่กับวัวแต่ละตัว ถวายแป้งประมาณ 4.5 ลิตรควบคู่กับแกะผู้ 29 และถวายแป้งประมาณ 2 ลิตรควบคู่กับลูกแกะแต่ละตัว 30 และจงถวายแพะผู้หนึ่งตัวเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปสำหรับเจ้า 31 นอกเหนือจากเครื่องเผาบูชาที่ถวายเป็นประจำและธัญบูชา จงถวายเครื่องดื่มบูชาด้วย เจ้าต้องแน่ใจว่าสัตว์ที่นำมาถวายนั้นไม่มีตำหนิใดๆ เลย

สดุดี 72

(บทประพันธ์ของโซโลมอน)

72 ข้าแต่พระเจ้า ขอประทานความยุติธรรมของพระองค์แก่กษัตริย์องค์นั้น
และความชอบธรรมของพระองค์แก่ราชโอรส
กษัตริย์จะ[a]พิพากษาประชากรของพระองค์ด้วยความชอบธรรม
ให้ความยุติธรรมแก่ผู้ทุกข์ลำเค็ญ

ขอให้ภูเขานำความมั่งคั่งมาสู่ประชาชน
เนินเขาให้ผลผลิตแห่งความชอบธรรม
ขอให้ท่านปกป้องผู้ทุกข์ลำเค็ญในหมู่ประชาชน
และช่วยกู้ลูกหลานของผู้ยากไร้
ขอให้ท่านบดขยี้คนที่ข่มเหงรังแกเขา
ขอให้ท่านยืนยง[b]ดั่งดวงอาทิตย์
ดั่งดวงจันทร์อยู่คู่ฟ้า คือตลอดทุกชั่วอายุคน
ขอให้ท่านเป็นเหมือนฝนที่ตกลงมารดทุ่งหญ้าโล่งเตียน
เหมือนสายฝนที่รดผืนแผ่นดิน
ผู้ชอบธรรมจะเจริญรุ่งเรืองในรัชกาลของท่าน
มีความผาสุกรุ่งเรืองไปจนกว่าดวงจันทร์จะดับสูญ

ขอให้ท่านครอบครองจากทะเลฟากหนึ่งจดทะเลอีกฟากหนึ่ง
จากแม่น้ำนั้น[c]จนสุดโลก[d]
ขอให้ชนเผ่าต่างๆ ในถิ่นกันดารหมอบกราบท่าน
ศัตรูของท่านจะสยบลงคลุกฝุ่น
10 ขอให้บรรดากษัตริย์แห่งทารชิชและแห่งหมู่เกาะทั้งหลาย
นำเครื่องบรรณาการมาถวายท่าน
เหล่ากษัตริย์จากเชบาและเสบา
จะนำของกำนัลมาถวาย
11 ขอให้เหล่ากษัตริย์มาน้อมคำนับท่าน
ประชาชาติทั้งปวงจะมาปรนนิบัติท่าน

12 เพราะท่านจะช่วยกู้คนยากไร้ผู้ร้องทุกข์
ช่วยเหลือผู้ทุกข์ลำเค็ญซึ่งไม่มีใครช่วย
13 ท่านมีใจสงสารผู้ที่อ่อนแอและขัดสน
และช่วยชีวิตผู้ยากไร้ลำเค็ญ
14 ท่านจะช่วยเขาให้พ้นจากการกดขี่ข่มเหง และจากความทารุณโหดร้าย
เพราะโลหิตของเขามีค่าในสายตาของท่าน

15 ขอให้ท่านอายุยืนนาน!
ขอให้มีผู้นำทองคำจากเชบามาถวายท่าน
ขอให้มีผู้อธิษฐานเผื่อท่านตลอดไป
และอวยพรแก่ท่านตลอดวันเวลา
16 ขอให้ข้าวอุดมทั่วแผ่นดิน
แม้บนยอดเขาก็ยังชูรวงแกว่งไกวไปมา
ขอให้พืชผลงอกงามดั่งเลบานอน
ขอให้เจริญงอกงามดั่งหญ้าแห่งท้องทุ่ง
17 ขอให้นามของท่านเลื่องลือตลอดกาล
และยั่งยืนดั่งดวงอาทิตย์

มวลประชาชาติจะได้รับพรเพราะท่าน
และพวกเขาจะเรียกท่านว่าผู้ได้รับพระพร

18 ขอถวายสรรเสริญแด่พระเจ้าพระยาห์เวห์พระเจ้าแห่งอิสราเอล
พระองค์ผู้เดียวทรงกระทำพระราชกิจอันมหัศจรรย์
19 ขอถวายสรรเสริญแด่พระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ตลอดนิรันดร์
ขอให้ทั่วโลกเต็มไปด้วยพระเกียรติสิริของพระองค์
อาเมน และอาเมน

20 จบคำอธิษฐานของดาวิดบุตรเจสซีเพียงเท่านี้

อิสยาห์ 19-20

คำพยากรณ์กล่าวโทษอียิปต์

19 พระดำรัสเกี่ยวกับอียิปต์มีดังนี้ว่า

ดูเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าประทับเหนือเมฆซึ่งเคลื่อนมาอย่างรวดเร็ว
และกำลังมายังอียิปต์
บรรดารูปเคารพของอียิปต์สั่นสะท้านต่อหน้าพระองค์
จิตใจของชาวอียิปต์ระทดท้อ

“เราจะกระตุ้นชาวอียิปต์ให้สู้รบกันเอง
พี่สู้กับน้อง
เพื่อนบ้านรบกับเพื่อนบ้าน
เมืองรบพุ่งกับเมือง
อาณาจักรรบกับอาณาจักร
ชาวอียิปต์จะใจเสีย
เราจะทำให้แผนการของพวกเขาล้มเหลว
พวกเขาจะขอคำปรึกษาจากเทวรูปและวิญญาณผู้ตาย
จากคนทรงเจ้าเข้าผี
เราจะหยิบยื่นชาวอียิปต์
ให้แก่นายผู้เหี้ยมโหด
กษัตริย์ผู้ดุร้ายจะปกครองพวกเขา”
            องค์พระผู้เป็นเจ้า พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ประกาศดังนั้น

ธารน้ำทั้งหลายจะเหือดแห้ง
ท้องน้ำจะแตกระแหง
คลองจะเน่าเหม็น
ลำธารต่างๆ ของอียิปต์จะตื้นเขินและแห้งขอด
ต้นกกและกอปรือจะเหี่ยวเฉา
พืชเขียวชอุ่มทั้งปวง
ตามริมตลิ่ง
และปากแม่น้ำไนล์
จะเหี่ยวแห้งและปลิวไปตามลมจนหมด
ชาวประมงจะคร่ำครวญร่ำไห้
พวกที่หย่อนเบ็ดลงในแม่น้ำไนล์
พวกที่เหวี่ยงแหลงน้ำ
จะโหยไห้
คนที่สางป่านจะสิ้นหวัง
คนทอผ้าลินินเนื้อดีจะหมดอาลัยตายอยาก
10 พวกคนทอผ้าจะถูกบีบคั้น
และพวกลูกจ้างจะช้ำใจ

11 เจ้าหน้าที่ของโศอันล้วนแล้วแต่โง่เขลา
ที่ปรึกษาชาญฉลาดของฟาโรห์ให้คำแนะนำเหลวไหล
เจ้าบังอาจพูดกับฟาโรห์ได้อย่างไรว่า
“ข้าพระบาทเป็นคนหนึ่งในหมู่ปราชญ์
เป็นสานุศิษย์ของมวลกษัตริย์โบราณ”?

12 ปราชญ์ของเจ้าไปไหนหมดแล้ว?
ให้เขาเล่าแจ้งแถลงไขแก่เจ้าสิว่า
พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ได้ดำริ
จะกระทำอะไรแก่อียิปต์บ้าง
13 เจ้าหน้าที่ต่างๆ ของโศอันกลายเป็นคนโง่
พวกผู้นำของเมมฟิส[a]ถูกหลอก
ศิลาหัวมุมในหมู่ประชากร
ชักนำอียิปต์ให้หลงผิด
14 องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเท
จิตใจแห่งความมึนงงให้พวกเขา
พวกเขาทำให้อียิปต์ซวนเซไม่ว่าจะทำอะไร
เหมือนคนเมาโซเซไปรอบกองอาเจียนของตัวเอง
15 ไม่มีอะไรที่อียิปต์ทำได้เลย
ไม่ว่าหัวหรือหาง ทางอินทผลัมหรือต้นอ้อ

16 ในวันนั้นชาวอียิปต์จะอ่อนแอเหมือนผู้หญิง พวกเขาจะคอตกหัวหดด้วยความกลัว ภายใต้พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ซึ่งเงื้อขึ้นต่อสู้พวกเขา 17 และดินแดนยูดาห์จะนำความหวาดผวามาสู่ชาวอียิปต์ แค่เอ่ยชื่อยูดาห์ทุกคนก็ครั่นคร้ามเพราะสิ่งที่พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ดำริจะทำกับพวกเขา

18 ในวันนั้นเมืองห้าแห่งในอียิปต์จะใช้ภาษาของชาวคานาอัน และสวามิภักดิ์ต่อพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ หนึ่งในห้านั้นจะได้ชื่อว่านครแห่งหายนะ[b]

19 ในวันนั้นจะมีแท่นบูชาแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ใจกลางอียิปต์ และมีอนุสรณ์แด่องค์พระผู้เป็นเจ้าที่ชายแดน 20 จะเป็นหมายสำคัญและหลักฐานบ่งถึงพระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์ในดินแดนอียิปต์ เมื่อพวกเขาร้องทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าเพราะถูกกดขี่ข่มเหง พระองค์จะประทานผู้ช่วยและผู้ปกป้องมาให้และจะทรงช่วยพวกเขา 21 เช่นนั้นแหละ องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำให้ชาวอียิปต์รู้จักพระองค์ และในวันนั้นพวกเขาจะยอมรับองค์พระผู้เป็นเจ้า จะนมัสการด้วยเครื่องบูชาและธัญบูชา เขาจะถวายปฏิญาณแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าและรักษาคำมั่นสัญญา 22 องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโบยอียิปต์ด้วยภัยพิบัติ ทรงฟาดเขาแล้วทรงสมานแผลให้ เขาจะหันมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระองค์จะทรงสดับฟังคำวิงวอนของพวกเขาและทรงรักษาพวกเขาให้หาย

23 ในวันนั้นอียิปต์และอัสซีเรียจะมีทางหลวงเชื่อมต่อกัน ชาวอัสซีเรียกับชาวอียิปต์จะไปมาหาสู่กันและนมัสการร่วมกัน 24 ในวันนั้นอิสราเอลจะเป็นหนึ่งในสามร่วมกับอียิปต์และอัสซีเรีย จะเป็นพรบนแผ่นดินโลก 25 พระยาห์เวห์ผู้ทรงฤทธิ์จะทรงอวยพรพวกเขาว่า “ขอให้อียิปต์ประชากรของเรา อัสซีเรียผลงานแห่งน้ำมือของเรา และอิสราเอลกรรมสิทธิ์ของเราได้รับพร”

คำพยากรณ์กล่าวโทษอียิปต์และคูช

20 ในปีที่กษัตริย์ซาร์กอนแห่งอัสซีเรียส่งแม่ทัพสูงสุดมาโจมตีอัชโดดและยึดเมืองได้ ครั้งนั้นองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสผ่านอิสยาห์บุตรอาโมศว่า “เจ้าจงถอดเสื้อผ้ากระสอบออกจากกาย และถอดรองเท้าออก” อิสยาห์ก็ปฏิบัติตาม เดินเปลือยกายและเท้าเปล่า

แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “เช่นเดียวกับที่อิสยาห์ผู้รับใช้ของเราเดินเปลือยกายและเท้าเปล่าตลอดสามปี ซึ่งเป็นหมายสำคัญและลางร้ายแก่อียิปต์และคูช[c] กษัตริย์อัสซีเรียจะจับตัวชาวอียิปต์และคูชไปเป็นนักโทษและเป็นเชลย ให้เดินเปลือยกายและเท้าเปล่าไม่ว่าหนุ่มหรือแก่ กับเปลือยก้นยังความอัปยศมาสู่อียิปต์ บรรดาคนที่พึ่งคูชและโอ้อวดเรื่องอียิปต์จะหวาดกลัวและอับอาย ในวันนั้นประชาชนที่อาศัยตามชายฝั่งทะเลจะกล่าวว่า ‘ดูสิ ขนาดผู้ที่เราพึ่งพาและหนีมาขอความช่วยเหลือให้พ้นมือจากกษัตริย์อัสซีเรียยังเป็นไปถึงเพียงนี้ แล้วเราจะหนีรอดไปได้อย่างไร?’”

2 เปโตร 1

จดหมายฉบับนี้จากข้าพเจ้าซีโมนเปโตรผู้เป็นผู้รับใช้และอัครทูตของพระเยซูคริสต์

ถึงบรรดาผู้ได้รับความเชื่ออันล้ำค่าเช่นเดียวกับที่เราได้รับโดยทางความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา

ขอพระคุณและสันติสุขมีแด่พวกท่านอย่างล้นเหลือผ่านทางการรู้จักพระเจ้าและรู้จักพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา

มั่นใจในการทรงเรียกและทรงเลือก

ฤทธิ์อำนาจของพระองค์ได้ประทานทุกสิ่งที่จำเป็นแก่เราที่จะดำเนินชีวิตในทางพระเจ้า ผ่านทางการรู้จักพระองค์ผู้ทรงเรียกเราด้วยพระเกียรติสิริและคุณความดีของพระองค์เอง โดยสิ่งเหล่านี้พระองค์ได้ประทานพระสัญญาอันยิ่งใหญ่และล้ำค่าของพระองค์แก่เรา เพื่อว่าโดยทางพระสัญญาเหล่านี้พวกท่านจะได้มีส่วนในพระลักษณะของพระเจ้าและพ้นจากความเสื่อมทรามในโลกซึ่งเกิดจากตัณหาชั่ว

ด้วยเหตุนี้ท่านจงพยายามทุกวิถีทางที่จะเพิ่มความดีเข้ากับความเชื่อ เพิ่มความรู้เข้ากับความดี เพิ่มการบังคับตนเข้ากับความรู้ เพิ่มความอดทนบากบั่นเข้ากับการบังคับตน เพิ่มการดำเนินในทางพระเจ้าเข้ากับความอดทนบากบั่น เพิ่มความรักฉันพี่น้องเข้ากับการดำเนินในทางพระเจ้า และเพิ่มความรักเข้ากับความรักฉันพี่น้อง เพราะถ้าท่านมีคุณสมบัติเหล่านี้มากยิ่งๆ ขึ้นก็จะทำให้ท่านมีประสิทธิภาพและเกิดผลในการรู้จักองค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา แต่ถ้าผู้ใดขาดคุณสมบัติเหล่านี้ก็ตาบอดตาสั้น และลืมว่าตนได้รับการทรงชำระจากบาปในอดีตแล้ว

10 เพราะฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า จงขวนขวายให้มากยิ่งขึ้นที่จะประพฤติตนในทางซึ่งแสดงว่าพระเจ้าทรงเรียกและทรงเลือกท่านอย่างแน่นอน เพราะถ้าท่านทำสิ่งเหล่านี้ท่านจะไม่มีวันล้มลง 11 และท่านจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นสู่อาณาจักรนิรันดร์ของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา

คำพยากรณ์ของพระคัมภีร์

12 ดังนั้นข้าพเจ้าจะเตือนท่านให้ระลึกถึงสิ่งเหล่านี้เสมอแม้ว่าท่านทราบเรื่องนี้แล้วและตั้งมั่นในความจริงที่มีอยู่ก็ตาม 13 ข้าพเจ้าคิดว่าถูกต้องแล้วที่จะเตือนความจำของท่านตราบเท่าที่ข้าพเจ้ายังอยู่ในเรือนกายนี้ 14 เพราะข้าพเจ้ารู้ว่าอีกไม่นานจะต้องจากเรือนกายนี้ไปตามที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเราได้ทรงสำแดงไว้แก่ข้าพเจ้าอย่างชัดเจน 15 และข้าพเจ้าจะพยายามทำทุกวิถีทางให้พวกท่านสามารถระลึกถึงสิ่งเหล่านี้เสมอหลังจากข้าพเจ้าจากไปแล้ว

16 เมื่อเราบอกพวกท่านถึงฤทธิ์อำนาจและการจะเสด็จมาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา พวกเราไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาอย่างแยบยล แต่เราเป็นพยานผู้ได้เห็นพระบารมีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ 17 เพราะพระเยซูทรงได้รับพระเกียรติและพระสิริจากพระเจ้าพระบิดา เมื่อมีพระสุรเสียงจากองค์ผู้ทรงเกียรติสิริยิ่งใหญ่ตรัสกับพระองค์ว่า “คนนี้คือลูกที่รักของเรา เราพอใจเขามาก”[a] 18 พวกเราเองได้ยินพระสุรเสียงนี้จากสวรรค์ขณะอยู่กับพระองค์ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์

19 ดังนั้นพวกเราจึงมั่นใจในถ้อยคำของผู้เผยพระวจนะมากยิ่งขึ้น จะเป็นการดีถ้าพวกท่านเอาใจใส่ถ้อยคำเหล่านี้ซึ่งเป็นเหมือนแสงสว่างส่องในที่มืดจนกว่าจะถึงรุ่งเช้าและดาวแห่งรุ่งอรุณจะปรากฏขึ้นในใจท่าน 20 เหนือสิ่งอื่นใดท่านต้องเข้าใจว่าไม่มีคำพยากรณ์ใดในพระคัมภีร์ที่มาจากความเข้าใจของตัวผู้เผยพระวจนะเอง 21 เพราะคำของผู้เผยพระวจนะนั้นไม่เคยเกิดจากเจตจำนงของมนุษย์ แต่มนุษย์กล่าวถ้อยคำซึ่งมาจากพระเจ้าตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจเขา

Thai New Contemporary Bible (TNCV)

Thai New Contemporary Bible Copyright © 1999, 2001, 2007 by Biblica, Inc.® Used by permission. All rights reserved worldwide.